ชนิดของมะเร็งหัวใจ

1) Primary Cardiac Tumors

เกิดจากเนื้อเยื่อในหัวใจเอง ชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือ "ซาร์โคมา" (Sarcoma) เป็นมะเร็งที่เริ่มต้นจากเซลล์เนื้อเยื่อที่เชื่อมโยงกับผนังหัวใจ หรือเยื่อหุ้มหัวใจ เซลล์มะเร็งชนิดนี้มีการเจริญเติบโตรวดเร็ว และมีโอกาสแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย

2) Secondary Cardiac Tumors

เป็นมะเร็งที่แพร่กระจายจากอวัยวะอื่นๆ เข้ามายังหัวใจ เช่น มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งไต โดยส่วนใหญ่มะเร็งชนิดรองจะพบได้บ่อยๆ กว่ามะเร็งชนิดแรก

โรคมะเร็งหัวใจ อาการที่พบบ่อย

• หน้าและคอบวม หลอดเลือดดำที่คอโป่ง มะเร็งไปกดเส้นเลือดดำใหญ่ที่คอ
• ขาบวมกดบุ๋มทั้งสองข้าง ตับโต ท้องมาน เพราะมีน้ำในช่องท้อง มะเร็งไปขวางการทำงานของหัวใจห้องขวา
• เหนื่อยหอบง่าย หายใจลำบาก นอนราบไม่ได้ มะเร็งไปขวางการทำงานของหัวใจห้องซ้าย อาจทำให้หัวใจวาย
• ใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ เจ็บหน้าอกและไอ มีเนื้องอกหรือน้ำในเยื่อหุ้มหัวใจ

การวินิจฉัยโรคมะเร็งหัวใจ

• การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram - EKG) เพื่อดูการทำงานของหัวใจและค้นหาความผิดปกติ
• การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เพื่อดูภาพรายละเอียดของเนื้อเยื่อหัวใจและเนื้องอก การลุกลามของโรค
• การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียง (Echocardiogram) เพื่อดูการทำงานของหัวใจและโครงสร้างของเนื้องอก

วิธีรักษาโรคมะเร็งหัวใจด้วยการผ่าตัด

สำหรับเนื้องอก สามารถผ่าตัดออกได้โดยไม่ทำให้การทำงานของหัวใจเสียหาย การผ่าตัดอาจเป็นวิธีที่แพทย์เลือกใช้ ถือเป็นโอกาสเดียวที่คนไข้จะสามารถรักษาให้หายขาด เพราะโรคนี้มักจะตอบสนองต่อการฉายแสงและเคมีบำบัดได้ไม่ค่อยดีเท่าไร การผ่าตัดจำเป็นต้องผ่าตัดเอาเนื้อมะเร็งออกไปให้หมด  เพื่อป้องกันการลุกลามของโรคมะเร็ง

กรณีมะเร็งยังไม่ลุกลามไปที่หลอดเลือดแดงหัวใจ สามารถตัดผนังหัวใจด้านขวาบน และขวาล่างออกได้ แต่ถ้าลุกลามไปแล้ว อาจต้องต่อทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ เพื่อรักษาชีวิตของคนไข้ บางรายมะเร็งอาจเกิดขึ้นที่ผนังหัวใจด้านบนขวาหรือซ้าย ลุกลามมาที่ลิ้นหัวใจ หรือหลอดเลือดแดงหัวใจบางส่วน สามารถตัดออกได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ผ่าตัดด้วยการทดแทนด้วยเยื่อบุหัวใจของคนไข้ หรือเยื่อบุหัวใจวัวที่ผลิตมา เพื่อจำหน่ายทางการแพทย์

โรคมะเร็งหัวใจ ยังไม่มีการป้องกันที่แน่นอน ดังนั้นการดูแลสุขภาพหัวใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แนะนำให้คุณหมั่น ตรวจสุขภาพประจำปี เช่น ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจเอคโค่หัวใจ และปรึกษาแพทย์ทันทีเมื่อพบอาการผิดปกติ เพื่อทำการตรวจและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้

สุดท้ายนี้อย่าลืม ซื้อประกันสุขภาพ กับ bolttech.co.th คุ้มครองค่ารักษาเมื่อยามเจ็บป่วย ครอบคลุมอุบัติเหตุ คุ้มครองค่าห้อง ค่ายา และอื่นๆ ที่ระบุในกรมธรรม์ ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ เหมาจ่ายเบี้ยต่อปี มีไว้อุ่นใจกว่า ช่วยเเบ่งเบาค่าใช้จ่ายให้กับคุณได้

เพิ่มความอุ่นใจไปอีกขั้น ซื้อประกันโรคร้ายแรง ที่ bolttech.co.th มีแผนคุ้มครองโรคมะเร็ง ทุกชนิด ทุกระยะ ตรวจพบโรคร้าย รับเงินก้อน !! อย่างน้อยๆ ก็มีเงินก้อนเก็บไว้เป็นค่ารักษาในอนาคต หากคุณสนใจเข้ามาเปรียบเทียบแผน และ ซื้อผ่านออนไลน์ได้เลย รับประกันภัยโดย เออร์โกประกันภัย ดูแลตัวเองตอนนี้ยังไม่สาย เพื่อตัวคุณและคนที่คุณรัก

The post โรคมะเร็งหัวใจคืออะไร อาการที่พบบ่อย appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

นอกจากนี้ คนไทยที่มีเชื้อสายจีน ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับอาหารมงคล เชื่อว่า ทานแล้วจะช่วยเสริมดวง สิริมงคล เสริมโชคชะตาในด้านต่างๆ แล้วที่สำคัญดีต่อสุขภาพของเราด้วย จะมีอะไรบ้าง ตามไปอ่านกันเลย 

1. เต้าหู้ 🧈

เต้าหู้ ความเชื่อของชาวจีนนั้น เต้าหู้หมายถึง ความสุขในชีวิต รวมถึงบุญกุศล ในภาษาจีนออกเสียงเต้าหู้ว่า “โต ฟู ฟู” ที่แปลว่า บุญ และ ความสุข เต้าหู้จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข ความเจริญ ความร่ำรวย และเต้าหู้ยังทำมาจากถั่วเหลือง เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเลิศ เสริมแคลเซียม ลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี ลดระดับน้ำตาลในเลือด เป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่ยที่เสี่ยงโรคเบาหวาน และลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดหัวใจ  มีประโยชน์มากเลยทีเดียว !! 

เมนูแนะนำ:

ผักผัดเต้าหู้เจ, เต้าหูน้ำแดงเจ, เต้าหู้นิ่งซีอิ้วเจ, ผัดเปรี้ยวหวานเจ, ข้างแกงกระหรี่เต้าหู้เจ, ลาบเต้าหู้เจ, เต้าหู้กับเห็ดหอมอบวุ้นเส้นเจ 

2. เกาลัด 🌰

ชาวจีนเชื่อว่า เกาลัด เป็นสัญลักษณ์ของเงินๆ ทองๆ ช่วยเสริมความมั่งคั่ง ร่ำรวย เรามักจะเห็นรูปเกาลัดแทรกตามป้ายคำอวยพรต่างๆ แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย เช่น บำรุงกล้ามเนื้อ บำรุงหัวใจให้แข็งแรง เกาลัดยังมีแคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

แต่สิ่งที่ควรระวังคือ การห้ามทานเม็ดเกาลัดดิบ และ ไม่ควรทานเม็ดเกาลัดที่สุกมากเกินไป เสี่ยงทำให้ท้องอืด และ ระวังเม็ดเกาลัดที่เป็นเชื้อรา ไม่ควรรับประทาน

เมนูแนะนำ:

ข้าวอบเกาลัดเจ, ผัดโหงวก๊วยไก่เจใส่เกาลัด, ขัดผัดเกาลัดเจ 

3. เม็ดแปะก๊วย ✨

แปะก๊วย เป็นพืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดจากทางตะวันออกของประเทศจีน ชาวจีนได้ผูกพันกับแป๊ะก๊วยมายาวนาน เชื่อกันว่า เป็นสัญลักษณ์ของความรักที่แน่นแฟ้นความสัมพันธ์ที่ดี และ เหนียวแน่น แถมแปะก๋วยยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย บำรุงสมอง ช่วยชะลอการเกิดโรคความจำเสื่อม หรือ อัลไซเมอร์ และลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดอุดตัน รวมถึงบำรุงจอประสาทตาเสื่อม บำรุงสายตา คนจีนส่วนใหญ่มักนิยมนำแปะก๋วยมาประกอบอาหาร หรือขนมหวานในเมนูต่างๆ แต่รสชาติแปะก๋วยจะออกรสขมนิดๆ อย่างที่ตำราเคยบอกไว้ว่า “หวานเป็นลมขมเป็นยา” 

เมนูแนะนำ:  

ข้าวอบแปะก๋วย, ไก่เจผัดเม็ดมะม่วงใส่แปะก๊วย, ผัดโหงวก๊วย, แปะก๊วยผัดพริกเกลือ, โอนี่แปะก๊วย, แป๊ะก๊วยมะพร้าวอ่อน, เต้าทึงใส่แปะก๋วย, แปะก๋วยน้ำขิง 

4. ผักกวางตุ้ง 🥬

คนจีนเชื่อว่า ผักกวางตุ้ง เป็นผักที่สื่อถึงความมงคล “เจริญก้าวหน้า เจริญรุ่งเรือง” ประโยชน์ของผักกวางตุ้ง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย บำรุงสายตา เป็นผักที่มีเส้นใยมากและมีไขมันน้อย ทำให้อิ่มท้อง ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และป้องกันโรคท้องผูกได้ ในช่วงกินเจเรามักจะเห็นอาหารเจต่างๆ ที่ใส่ผักกวางตุ้ง เพราะทานอร่อย ย่อยง่าย แถมเป็นผักโปรดปรานของใครหลายคนเลย

เมนูแนะนำ:  

กวางตุ้งกับเห็ดหอมทรงเครื่อง, ผัดผักกวางตุ้ง, กวางตุ้งฮ่องเต้ 

5. เห็ดหอม 🍄

เห็ดหอม เป็นสัญลักษณ์แห่งความอายุยืนของคนจีน ความอุดมสมบูรณ์  และในภาษาจีนออกเสียงว่า “ตงกู” เป็นคำที่อยู่ในสุภาษิตจีนว่า “ตง เซ้ง ไช่ เจ่า” แปลว่า ความสมหวังจากตะวันออกถึงตะวันตก มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เห็ดหอมจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน เสริมวิตามินต่างๆ เช่น วิตามินดี วิตามินบี 1 ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา และลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ทำให้กระดูกและฟันเเข็งแรง แถมยังช่วยรักษาโรคมะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวได้  

เมนูแนะนำ:

พะโล้สูตรเจ ใส่เห็ดหอม, น้ำพริกเผาเห็ดหอม, ผัดสี่เซียนเห็ดหอม, ลาบเห็ดหอม, ข้าวต้มเห็ดหอม, กะหล่ำปลีตุ๋นเห็ดหอม, ผัดวุ้นเส้นผักรวมเห็ดหอม, ก๋วยเตี๋ยวหลอด เต้าหู้เห็ดหอม 

ทั้งหมดนี้คือ 5 อาหารเจมงคล ที่ควรมีติดไว้ที่บ้านในช่วง เทศกาลกินเจ 2567 เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคล เสริมดวง หากใครมีแพลนกินเจปีนี้ สามารถเลือกเมนูอาหารที่ bolttech.co.th แนะนำได้เลย ทั้งอิ่มบุญ อิ่มใจ แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

การกินเจ อาหารคลีน ควรทานอาหารเจให้ครบ 5 หมู่ เน้นทานผัก ผลไม้ หลีกเลี่ยงการทานแป้ง ไม่ทานอาหารรสชาติจัดเกินไป เช่น ไม่เค็มจัด ไม่หวานจัด ไม่มันจัด รวมถึงหลีกเลี่ยงทานอาหารเภทเเป้ง ของหมักดอง และเลี่ยงอาหารประเภททอด ควรเน้นต้ม นึ่ง ตุ๋น จะดีกว่า เพื่อลดปริมาณไขมันสะสมในร่างกาย

กินเจ 2567 เพื่อนๆ อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยน้า ซื้อประกันสุขภาพ กับ bolttech คุ้มครองค่ารักษาเมื่อเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ ทั้งค่ายา ค่าห้อง ค่ารักษา เหมาจ่ายเบี้ยต่อปี มีอายุรับประกันตั้งแต่ 21-55 ปี ยิ่งอายุน้อย เบี้ยยิ่งถูก !! ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ลดหย่อนภาษีปลายปีได้ 

The post 5 อาหารเจมงคล เสริมดวง เสริมสุขภาพ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

สาเหตุอาการเจ็บหน้าอกที่พบบ่อย

• โรคหัวใจขาดเลือด: มักมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก อาจร้าวไปที่แขน คอ หรือ ขากรรไกร
• กรดไหลย้อน: เจ็บแสบร้อนบริเวณกลางอก มักเกิดหลังรับประทานอาหาร
• ปอดอักเสบ: เจ็บเวลาหายใจเข้าลึกๆ มักมีไข้ร่วมด้วย
• กล้ามเนื้อหน้าอกอักเสบ: เจ็บเมื่อขยับหรือกดบริเวณหน้าอก
• ความเครียดและวิตกกังวล: อาจทำให้รู้สึกแน่นหน้าอก

อาการเจ็บหน้าอก ที่ควรพบแพทย์โดยด่วน

• เจ็บหน้าอกรุนแรงเฉียบพลัน หายใจลำบาก เหงื่อออก คลื่นไส้ หน้ามืด
• เจ็บร้าวไปที่แขน ขากรรไกร คอ หลัง
• เจ็บหน้าอก นานกว่า 15 นาทีและไม่ดีขึ้น
• เจ็บหน้าอก และ มีไข้สูง ไอมีเสมหะ
• มีประวัติ โรคหัวใจ หรือความเสี่ยงสูง

วิธีป้องกันอาการเจ็บหน้าอก

• ปรับพฤติกรรมการกิน ทานอาหารเพื่อสุขภาพ เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารลดความดันโลหิตสูง ลดคอเลสเตอรอล
• หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ
• เลิกสูบบุหรี่ ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
• ลดความเครียด ด้วยการทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ออกกำลังกาย ทำโยคะ ทำอาหาร ปลูกผัก เป็นต้น

อาการเจ็บหน้าอก อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคหัวใจ และโรคอื่นๆ ตามมาด้วย เราควรสังเกตอาการและตรวจสุขภาพทุกปี หากเจ็บป่วยขึ้นมาจะได้ทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ดังนั้นเราควรดูแลสุขภาพตัวเอง ถือว่าช่วยลดความเสี่ยงได้ ทำให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น และเพิ่มความอุ่นใจไปอีก แนะนำ ซื้อประกันสุขภาพ กับ bolttech ที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาเมื่อยามเจ็บป่วย ครอบคลุมอุบัติเหตุ ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา ทั้งแผนผู้ป่วยใน (IPD) และ ผู้ป่วยนอก (OPD) เหมาะสำหรับผู้ทำประกันภัยอายุ 21-55 ปี ซื้อง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้ด้วย

The post เจ็บหน้าอก บ่งบอกโรคอะไรได้บ้าง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. ประจำเดือนขาด

อาการคนท้องเริ่มแรกที่ชัดเจนคือ ประจำเดือนขาด หากคุณผู้หญิงมีประจำเดือนที่สม่ำเสมอ ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเดือนนี้ประจำเดือนไม่มา หรือ ประจำเดือนเลื่อนผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ เนื่องจากร่างกายจะหยุดตกไข่เมื่อเกิดการปฎิสนธิ แต่อย่างไรการที่ประจำเดือนขาด อาจมีหลายสาเหตุที่ไม่ใช่การตั้งครรภ์ เช่น ความเครียด ภาวะฮอร์โมนผิดปกติก็ได้  แนะนำให้ใช้ที่ตรวจครรภ์ เพื่อทำการทดสอบหรือปรึกษาคุณหมอได้

2. คัดเต้านม เต้านมใหญ่ขึ้น

เพราะฮอร์โมนผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลง อาการคนท้อง อาจทำให้รู้สึกเจ็บเต้านม รู้สึกเสียบแปล๊บที่เต้านม เต้านมมีขนาดที่ขยายใหญ่ขึ้นจนเห็นเส้นเลือดชัดเจน สีผิวรอบหัวนมคล้ำขึ้น  อาการคนท้องนี้จะค่อยๆ หายไปภายในระยะเวลา 3 เดือนเมื่อร่างกายสามารถปรับตัวได้

3. อาการคลื่นไส้ อาเจียน

อาการแพ้ท้อง เป็นอาการเตือนคนเริ่มท้อง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มักเกิดขึ้นภายใน 1 เดือน โดยพบได้บ่อยในช่วงเวลาเช้า บางคนได้กลิ่นอาหารบางประเภท มีอาการเหม็นกลิ่นอาหาร คลื่นไส้ อาเจียนตลอดทั้งวัน แต่ในบางรายก็อาจไม่มีอาการดังกล่าว หรือมีอาการในช่วง เดือนที่ 3-4 ได้

4. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

ความเหนื่อยล้า เป็นอาการคนท้องที่พบบ่อยๆ ในระยะแรก ถ้าคุณอาจรู้สึกเหนื่อยมากกว่าปกติ ร่างกายจะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) เพิ่มสูงขึ้น ช่วยในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ร่างกายเผาผลาญได้ช้าลง ใช้พลังงานการย่อยอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ง่วงนอนบ่อย

5. ปัสสาวะบ่อย

การตั้งครรภ์ ทำให้เลือดไหลเวียนในร่างกายเพิ่มขึ้น และมดลูกขยายใหญ่ขึ้นจากการมีเด็กเจริญเติบโต ทำให้เกิดการกดเบียดกะเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้ไตทำงานหนักขึ้น ปัสสาวะบ่อยขึ้น สังเกตให้ดีๆ ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้น ปัสสาวะสีเหลืองเข้มจนไปถึงน้ำตาลได้

6. อารมณ์แปรปรวนง่าย

อาการคนท้องเริ่มแรก มักจะเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนต่างๆ อาจส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกได้ง่าย เช่น หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า หรือบางคนอาจรู้สึกอารมณ์ดี ส่วนใหญ่อาการไม่จะรุนแรง แต่ต้องอาศัยคนรอบข้างช่วยปรับตัว และแก้ไขปัญหา หากไม่ดีขึ้นควรปรึกษาคุณหมอที่ฝากครรภ์ เพื่อช่วยในการดูแลได้อย่างเหมาะสม

7. ท้องผูก ท้องอืด

เนื่องจากร่างกายมี ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) เพิ่มสูงขึ้น ทำให้การย่อยอาหารทำงานช้าลง ส่งผลให้มี อาการท้องผูก ท้องอืด สามารถบรรเทาได้ ด้วยการดื่มน้ำเปล่ามากขึ้น ทานผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง และอาหารที่มีเส้นใยสูง เพื่อช่วยในการขับถ่าย แก้ท้องผูก เช่น รำข้าว ข้าวซ้อมมือ ขี้เหล็ก มะขาม ลูกพรุน และไม่ควรซื้อยาระบายมารับประทานเอง อาจเป็นอันตรายต่อเด็กทารกในครรภ์

8. วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด

อาการวิงเวียน หน้ามืด ที่พบบ่อยในคนท้อง มักเกิดจากระดับน้ำตาลในเลือด และความดันโลหิตที่ผิดปกติ  เกิดจากฮอร์โมนในร่างกาย อาจส่งผลให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลายบ่อยๆ รวมถึงความเครียดสะสม การนอนหลับไม่เพียงพอ

9. ความอยากอาหารเปลี่ยนไป

อาการคนท้อง 1 เดือนขึ้นไป ส่งผลให้การทานอาหารเปลี่ยนแปลงไป เช่น ทานอาหารมากขึ้น จากอาหารที่ไม่เคยชอบ หรือกลับรู้สึกเบื่ออาหารที่เคยชอบไปเลย นอกจากนี้คนท้องจะมีระบบประสาท คือ อยากทานอาหารที่มีรสเปรี้ยวๆ เพื่อบรรเทาอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม ถ้าสังเกตคนที่กำลังตั้งท้อง จะชอบอาหารหรือผลไม้เปรี้ยวๆ มากเป็นพิเศษ

10. ไวต่อกลิ่นมากขึ้น

อาการคนท้องเริ่มแรก จะมีการรับรสและกลิ่นที่เปลี่ยนไป เพราะฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง บางคนอาจรู้สึกไวต่อกลิ่นมากขึ้น เช่น มีอาการแพ้กลิ่นน้ำหอม หรือ เหม็นกลิ่นคนใกล้ตัว การไวต่อกลิ่นนี้อาจทำให้คนท้องมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม

ข้อควรระวัง:

• อาการท้องเหล่านี้ อาจแตกต่างกันในแต่ละคน บางคนอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีอาการเลย
• อาการท้องบางอย่าง อาจคล้ายกับอาการก่อนมีประจำเดือน
• วิธีทดสอบการตั้งครรภ์ที่แม่นยำที่สุด คือ การตรวจด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์และพบแพทย์

ถ้าคุณสงสัยว่าอาจกำลังตั้งครรภ์หรือเปล่า? แนะนำควรใช้ที่ตรวจครรภ์เพื่อทดสอบหรือปรึกษาแพทย์ให้แน่ใจดีกว่า และเมื่อคุณรู้ตัวว่า กำลังตั้งท้องควรดูแลสุขภาพตั้งแต่ช่วงแรกๆ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและลูกน้อยในครรภ์ เพราะสุขภาพของคุณแม่สำคัญที่สุด ทางที่ดีคุณควร ซื้อประกันสุขภาพ เพิ่มความอุ่นใจ คุ้มครองค่ารักษาเมื่อเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ มีทั้งแผนผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) พร้อมนำมาลดหย่อนภาษีได้ เข้ามาเลือกแผนได้เลย

The post อาการคนท้องเริ่มแรก สังเกตอย่างไร appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

อาการโรคไข้เลือดออก มี 3 ระยะตามนี้

1. ระยะไข้สูง (Febrile phase)

ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก อาจมีไข้สูงเฉียบพลันถึง 39-40 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2-7 วันติดต่อกัน และยังมีอาการโรคไข้เลือดออกอื่นๆ ตามมา เช่น

• ปวดหัว หน้าแดง
• ปวดรอบดวงตา
• คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
• ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก
• มีผื่นแดงขึ้น ผื่นขึ้นตามผิวหนัง
• ปวดท้อง เจ็บบริเวณลิ้นปี่

2. ระยะวิกฤต (Critical phase)

เป็นช่วงระยะเวลา 3-7 วัน หลังจากระยะไข้สูง เป็นภาวะที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุด เพราะอาจเกิดภาวะช็อกหมดสติจากไข้สูง หรือเลือดออกที่อวัยวะภายใน โดยเกิดจากสารน้ำในหลอดเลือดรั่วไหล เช่น น้ำเหลืองรั่วไหลไปยังปอดหรือช่องท้อง ความดันโลหิตต่ำ ชัก หมดสติจนหัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตตามมาได้

• ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว
• ปวดท้องอย่างรุนแรง 
• คลื่นไส้ อาเจียนเป็นเลือด เบื่ออาหาร
• หายใจลำบาก
• กระสับกระส่าย
• มีภาวะเลือดออกผิดปกติ เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล 
• ปัสสาวะหรืออุจจาระปนเลือด
• มีจ้ำเลือดหรือจุดเลือกเล็กๆ ออกตามผิวหนัง
• มื้อเท้าเย็น
• ชีพจนเต้นผิดปกติ เต้นเบาลง
• มีเหงื่อออกตามตัว แต่ปัสสาวะน้อย
• ช็อกจากภาวะขาดน้ำหรือเสียเลือด

3. ระยะฟื้นตัว (Recovery phase)

ไข้เลือดออก ระยะฟื้นตัว เกิดหลังจากพ้นภาวะวิกฤตมา 1-2 วัน เป็นช่วงที่ร่างกายจะค่อยๆ ฟื้นตัว เส้นเลือดกลับมาทำงานตามปกติ มีอาการดังต่อไปนี้

• อาการทั่วไปดีขึ้น
• ไข้ลดลง อุณหภูมิร่างกายปกติ
• ชีพจรเต้นแรงขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น
• อยากอาหารมากขึ้น
• ปัสสาวะมากขึ้น
• มีผื่นขึ้น เป็นตุ่มแดงเล็กๆ สากๆ วงสีขาวขึ้นตามร่างกาย
• ภาวะตับโตลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์

วิธีการป้องกันไข้เลือดออก

• กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย หมั่นเปลี่ยนน้ำทุกวัน ในภาชนะที่มีน้ำขัง เช่น แจกัน ตุ่มน้ำ ถังน้ำ และควรปิดภาชนะใส่น้ำให้มิดชิด
• ป้องกันไข้เลือดออก ไม่ให้ถูกยุงกัด เช่น ทายากันยุง ใส่เสื้อผ้าแขนยาวและขายาวให้มิดชิด
• นอนในมุ้ง ติดมุ้งลวดที่หน้าต่างและบานประตู
• บริเวณที่มีต้นไม้หรือหญ้าเยอะๆ มักมียุงลายเยอะ ทางที่ดีควรตัดต้นไม้ ทำให้บ้านสะอาด ดูโล่งมากขึ้น
• จัดการถุงขยะให้เรียบร้อย มัดปากถุง แล้วปิดฝาถังขยะให้มิดชิด
• ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก

ไข้เลือดออก หรือ ไข้จับสั่น เป็นโรคที่ระบาดในฤดูฝน เพราะมีฝนตกน้ำขังจึงทำให้ยุงลายเพาะพันธุ์ได้ง่าย และพบว่ามีผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคนี้ค่อนข้างมาก ค่าใช้จ่ายในการรักษาแต่ละครั้งก็สูง ต้องรักษาตัวในรพ.หลายวัน ทางที่ดีเราควร ซื้อประกันสุขภาพไว้ กับ bolttech.co.th เพื่อเป็นหลักประกันค่ารักษาเมื่อยามเจ็บป่วย  คุ้มครองทั้งค่าห้อง ค่ายา สามารถเลือกแผนเองได้ เหมาจ่ายต่อปี ทั้งแผนผู้ป่วยใน (IPD) และ ผู้ป่วยนอก (OPD) ไม่ต้องตรวจสุขภาพ นำมาลดหย่อนภาษีได้ มีตัวเลือกในเครือโรงพยาบาลหลายแห่ง สะดวก สบาย เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่!

The post รู้จัก "โรคไข้เลือดออก" และวิธีป้องกัน appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. ประกันสุขภาพ แบบผู้ป่วยนอก (OPD)

ประกันสุขภาพ OPD (Out-Patient Department) หรือเรียกกันว่า ผู้ป่วยนอก เป็นแผนที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก หมายความว่า เป็นการรักษาแบบไม่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล  เช่น การตรวจรักษาโรคทั่วไป การรับยาประจำ และการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย เป็นต้น เมื่อตรวจรักษาและจ่ายยาเรียบร้อย สามารถกลับบ้านได้เลย โดยรอสังเกตอาการในโรงพยาบาลน้อยกว่า 6 ชั่วโมง

ข้อดีประกันสุขภาพ ผู้ป่วยนอก (OPD)

คือ สามารถค่ารักษาพยาบาลแบบไม่ต้องนอนพักรักษาตัว เจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้ นอกจากนี้ยังคุ้มครองเพิ่มเติมจากสวัสดิการต่างๆ ของบริษัท หรือ สิทธิประกันสังคม ที่ได้รับด้วย เพราะส่วนใหญ่มักจะให้ความคุ้มครอง OPD ด้วยวงเงินน้อย อาจไม่เพียงพอต่อค่ารักษา แนะนำให้เริ่มมองหาประกันสุขภาพแผนผู้ป่วยใน ควบคู่กับประกันสุขภาพแผนผู้ป่วยนอก (OPD) ไว้ได้เลย เพิ่มความอุ่นใจมากกว่า

2. ประกันสุขภาพ แบบผู้ป่วยใน (IPD)

ประกันสุขภาพ IPD (In-Patient Department) หรือเรียกกันว่า ผู้ป่วยใน โดยจะคุ้มครองการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยใน ต้องใช้ระยะเวลารักษาในโรงพยาบาลนานกว่า 6 ชั่วโมง ดูแลค่าใช้จ่ายตั้งแต่ค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่าพยาบาล ค่าผ่าตัด  ภายใต้เงื่อนไขและวงเงินประกันที่กำหนดไว้

ข้อดีประกันสุขภาพ ผู้ป่วยใน (IPD)

คือ ครอบคลุมได้กว้างขวางมากกว่า เนื่องจากประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยในจะคุ้มครองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาในโรงพยาบาล เช่น ค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่าพยาบาล ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่าฉายแสง และค่าบริการต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เพิ่มความอุ่นใจได้ หากต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล นอกจากนี้สามารถเบิกค่ารักษาเพิ่มเติมจากประกันสังคม หรือสวัสดิการต่างๆ จากบริษัทของคุณได้ 

การซื้อประกันสุขภาพ สิ่งที่สำคัญเราควรพิจารณาถึงอายุผู้เอาประกันภัย เนื่องจากแต่ละบริษัทประกันภัยจะรับประกันอายุในช่วงที่กำหนดเท่านั้น ยิ่งอายุน้อย เบี้ยประกันภัยจะถูกกว่า และให้พิจารณาถึงความคุ้มค่าในการรักษา เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่เหมาะสมที่สุด ตลอดจนโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือประกันภัย ควรมีให้เลือกหลายแห่ง สะดวก รวดเร็ว ที่สามารถรักษาได้เลยโดยไม่ต้องสำรองจ่าย

ดูแลตัวเองตอนนี้! ซื้อประกันสุขภาพ กับ bolttech.co.th คุ้มครองค่ารักษาเมื่อยามเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ หมดกังวลใจ คุ้มครองทั้งค่ารักษา ค่าห้อง ค่าอาหาร ครอบคลุมถึงค่าห้อง ICU ในกรณีเจ็บป่วยหนัก มีให้เลือกทั้งแผนผู้ป่วยใน (IPD) และ ผู้ป่วยนอก (OPD) นำมาลดหย่อนภาษีได้ หรือ ซื้อประกันสุขภาพให้พ่อแม่ ก็นำมาลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน โดยประกันสุขภาพของเรา รับประกันตั้งแต่อายุ 21-55 ปี เข้ามาซื้อกันได้เลย เพื่อตัวคุณและคนที่คุณรัก

The post ประกันสุขภาพ OPD กับ IPD คืออะไร? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

ขั้นตอนการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม

1. ดำเนินการผ่านเว็บไซต์

เริ่มจากเข้าที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หากคุณต้องการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม ให้เข้าสู่ระบบ หรือสมัครสมาชิก จากนั้นกด “ยื่นแบบขอเปลี่ยนสถานพยาบาล” เลือกเหตุผลการเปลี่ยน เลือกสถานพยาบาลใหม่ที่ต้องการ กดยอมรับข้อตกลงพร้อมบันทึก

2. ดำเนินการผ่าน Line Official

เข้าไปใน Line แล้วเพิ่มเพื่อน @ssothai กดเลือก “ข้อมูลของผู้ประกันตน” กรอกข้อมูลเพื่อเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก เลือกไปที่เมนู “เปลี่ยนสถานพยาบาล” เลือกเหตุผลการเปลี่ยน สถานพยาบาลใหม่ที่ต้องการ แล้วกดยอมรับข้อตกลง หลังจากนั้นกดยืนยัน

3. ดำเนินการผ่านแอป SSO Connect

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SSO Connect IOS หรือ Android กดเข้าแอปแล้วกรอกข้อมูลส่วนตัว ระบุสาเหตุการเปลี่ยนโรงพยาบาล จากนั้นเลือกโรงพยาบาลที่ต้องการ แล้วกดยอมรับเงื่อนไขและเลือกยืนยัน

4. ยื่นเอกสารด้วยตัวเอง

เตรียมเอกสารให้พร้อม! ยื่นแบบการเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ สปส. 9-02 ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ

สำหรับผลการเปลี่ยนสถานพยาบาล ผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถตรวจสอบได้โดยการสอบถามจากนายจ้าง ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 จะได้รับหนังสือหรือ SMS แจ้งผล หรือ เช็คสิทธิประกันสังคม การรักษาพยาบาลได้ที่ www.sso.go.th หรือแอด Line @ssothai หรือติดต่อสำนักงานประกันสังคม สถานพยาบาลในโครงการทั่วประเทศ โทร 1506 กรณีผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพจากความเป็นผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิต่อไปได้อีก 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่สิ้นสภาพ

การเลือกเปลี่ยนสถานพยาบาล ผู้ประกันตนควรเลือกด้วยตัวเอง เพื่อความสะดวกในการขอรับบริการ แต่จะดีกว่าถ้าหากเราซื้อความอุ่นใจให้กับตนเอง แนะนำให้ ซื้อประกันสุขภาพ เพิ่มเติมจากสิทธิประกันสังคมที่คุณได้รับ เพื่อคุ้มครองมากขึ้นเมื่อเจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุ ก็ได้ค่ารักษา รวมถึงค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าห้อง ICU ในกรณีที่เจ็บป่วยหนัก สำหรับผู้ที่มีอายุ 21-55 ปี ซื้อง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ มีทั้งแผนผู้ป่วยใน (IPD) และ ผู้ป่วยนอก (OPD) นำมาลดหย่อนภาษีได้ ซื้อออนไลน์กับ bolttech.co.th ได้เลย

The post วิธีเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. โรคไข้หวัดใหญ่

โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสหลายชนิด อาการโรคไข้หวัดใหญ่ที่พบบ่อย คือ มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ ไอแห้ง หนาวสั่น อ่อนเพลีย  ทั่วไปอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นใน 3-7 วัน แต่มีอาการไอและเจ็บคออาจ คงมีอยู่นานถึง 2 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วย) หากพบว่ามีอาการรุนแรง เนื่องจากไข้หวัดบางชนิดอาจจะได้รับยาต้านไวรัสจากแพทย์ เพื่อลดความรุนแรงและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

วิธีการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่

• พักผ่อนอย่างเต็มที่
• ดื่มน้ำสะอาด
• เช็ดตัวเมื่อมีไข้สูง
• สวมเสื้อผ้าที่ทำให้อบอุ่น
• กินยาลดไข้ ยาแก้แพ้ ยาแก้ไอขับเสมหะ

2. โรคไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue Virus) โรคติดต่อที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค เนื่องจากโดนยุงกัด พบได้ในผู้ป่วยทุกเพศทุกวัย การติดเชื้อครั้งแรก อาการโรคไข้เลือดออก ได้แก่  มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว และมีผื่นตามผิวหนัง  ซึ่งระยะของโรคจะมี 3 ระยะดังนี้

ระยะไข้ : จะมีไข้สูงถึง 41 องศาเซลเซียส คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง และมีผื่นตามตัว

ระยะวิกฤต : ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว เกร็ดเลือดต่ำทำให้เลือดออกง่าย เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด การไหลเวียนเลือดล้มเหลว มือเท้าเย็น ชีพจรเบาลง ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง

ระยะฟื้นตัว : อาการเริ่มดีขึ้น เริ่มอยากอาหาร ความดันโลหิตสูงขึ้น ชีพจรเต้นแรงขึ้นและเบาลง ปัสสาวะมากขึ้น บางรายมีผื่นมีจุดแดง มีเลือดออกตามตัว

วิธีการป้องกันโรคไข้เลือดออก

• กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
• นอนในมุ้ง 
• ทายากันยุง
• ฉีดวัคซีนไข้เลือดออก
• หากเริ่มมีอาการให้ดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด
• หากมีอาการรุนแรงขึ้น ให้รีบพบแพทย์ทันที

3. โรคฉี่หนู

โรคฉี่หนู เกิดจากการสัมผัสเชื้อโรคในน้ำสกปรก น้ำขัง ที่มีการปนเปื้อนของปัสสาวะสัตว์พาหะ เช่น หนู วัว ม้า หมู สุนัข ผู้ป่วยโรคฉี่หนูอาการ คือ เป็นไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว หนาวสั่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ตาแดง ตัวเหลือง ตาเหลือง และอาจมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ   หากรุนแรงอาจทำให้ผู้ป่วยไตวายฉับพลัน ตับวาย หัวใจวาย เกล็ดเลือดต่ำ กล้ามเนื้อสลายตัว ความดันต่ำ เป็นอันตรายถึงขั้นชีวิตได้

วิธีการป้องกันโรคฉี่หนู

• หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำท่วม ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมใส่รองเท้าบูท
• หลีกเลี่ยงให้บาดแผลสัมผัสน้ำที่ไม่สะอาด
• อาบน้ำ ชำระร่างกายให้สะอาดทุกครั้งที่ลุยน้ำ
• เช็ดตัว เป่าผมให้แห้ง

4. โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน

อีกหนึ่งโรคไม่ควระมองข้าม "โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน" คือ การถ่ายอุจจาระเหลว 3 ครั้ง ขึ้นไปภายใน 24 ชั่วโมง เกิดจากการติดเชื้อโรต้าไวรัส (Rotavirus) โนโรไวรัส (Norovirus) เชื้อแบคทีเรีย โปรโตซัว พยาธิ  และการทานอาหารที่ไม่สะอาด ปนเปื้อนเชื้อโรค หรือการกินอาหารที่มีรสจัดๆ

อาการโรคท้องเสียฉับพลัน ได้แก่ ปวดท้อง ปวดหัว มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดเมื่อยตามตัว มีภาวะขาดน้ำ ปากแห้ง เป็นลม  ในช่วงหน้าฝนนี้เสี่ยงเป็น โรคท้องเสีย ได้ง่ายเช่นกัน

วิธีการป้องกันโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน

• ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร
• เลือกกินอาหารที่ปรุงสุก และล้างทำความสะอาด
• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
• จิบน้ำเกลือแร่ ดื่มน้ำสะอาด
• ทานอาหารอ่อนๆ ไม่จัดจ้านเกินไป
• หากมีอาการรุนแรงขึ้น ควรไปพบแพทย์ทันที

5. โรคต่อมทอนซิลอักเสบ

ฤดูฝนนี้มักป่วยเป็น โรคต่อมทอนซิลอักเสบ ได้เช่นกัน โดยเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสต่างๆ อาการที่พบได้บ่อย คือ เจ็บคอ เสียงแหบ ปวดร้าวไปถึงหู มีไข้ ปวดศรีษะ กลืนอาหารก็เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองที่คอบวมโต  จนกลายเป็นอาการอักเสบเรื้อรัง ทำให้มีกลิ่นปากด้วย

วิธีการป้องกันโรคต่อมทอนซิลอักเสบ

• ล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
• ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
• สวมใส่แมส ใช้ทิชชู่เช็ดและปิดปากทุกครั้งที่ไอจาม
• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
• ดื่มน้ำสะอาดๆ
• กลั้วด้วยน้ำเกลือผสมน้ำอุ่น
• ไม่สูบบุหรี่ หรือสูดดมควันบุหรี่

นอกจากนี้ยังมีโรคอื่นๆ มากมายเช่น โรคตาแตง โรคเยื่อบุตาอักเสบ โรคไข้มาลาเรีย เป็นต้น ซึ่งอาการเจ็บป่วยไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงหน้าฝน แต่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกฤดูกาล ดังนั้นเราควรมองหา ประกันสุขภาพ เพิ่มความอุ่นใจไว้ดีกว่า เพื่อคุ้มครองค่ารักษาเมื่อเจ็บป่วย อุบัติเหตุ ครอบคลุมทั้งค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าห้อง ICU สามารถเลือกแผนเองได้ มีทั้งแผนผู้ป่วยใน (IPD) และ ผู้ป่วยนอก (OPD) ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ นำมาลดหย่อนภาษีได้

The post 5 โรคที่ควรเฝ้าระวังในช่วงหน้าฝน !! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

อาการหน้ามืด เป็นอย่างไร ?

อาการหน้ามืด อาการวูบชั่วขณะ ที่พบบ่อยคือ ผู้ป่วยรู้สึกเวียนศีรษะ มึนงง ตาพร่ามัว เหงื่อออกมากผิดปกติ จนถึงขั้นอาการวูบหมดสติ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการ เช่น หน้าซีดเผือด ตัวเย็น เป็นลม ชีพจรเบาลง ร่างกายชักกระตุก ถือเป็นอาการวิกฤตที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หากปล่อยไว้นานเกินไป

ผู้ป่วยมีอาการหน้ามืด เป็นลม ควรปฐมพยาบาลดังนี้

การช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นลมหมดสติ หน้ามืด หรือ เป็นโรคลมแดด (Heat Stroke) คุณควรศึกษาวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อจะได้ช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างถูกวิธีและทันเวลา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เรียนด้านการปฐมพยาบาล หรือการรักษามาโดยตรง ก็สามารถเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยได้ เพียงปฏิบัติตามนี้

1. นั่งลงข้างผู้ป่วย พลิกตัวผู้ป่วยให้นอนหงายราบกับพื้น ตบที่บ่าเบาๆ แล้วเรียก ผู้ป่วยว่ายังรู้สึกตัวหรือไม่

2. โทร 1669 หรือ 1554 เพื่อขอความช่วยเหลือ

3. ห้ามไม่ให้มีคนมุงดูผู้ป่วย เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก

4. คลายเครื่องแต่งกายที่คับแน่น เช่น ผ้าพันคอ เข็มขัด เป็นต้น

5. ปฐมพยาบาลด้วยการนวดหัวใจ (CPR) ****หากไม่มีความรู้ห้ามทำ ควรเรียกให้หน่วยกู้ภัยที่มีความรู้โดยเฉพาะ มาทำ CPR****

6. ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดหน้า คอ แขนขา และให้ดมยาดม

7. ดูแลอาการจนกระทั่งหน่วยกู้ภัยมารับต่อ อย่าทิ้งผู้ป่วยไว้คนเดียว

วิธีปฐมพยาบาล อาการหน้ามืด ฮีทสโตรก เป็นสิ่งที่เราทุกคนควรศึกษาไว้เบื้องต้น เพื่อทำการช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างถูกวิธีและทันเวลา อย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจ ซื้อประกันสุขภาพ กับ bolttech.co.th มีแผนทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และ ผู้ป่วยนอก (OPD) คุ้มครองค่ารักษาเมื่อเจ็บป่วย อุบัติเหตุ หมดกังวลค่าใช้จ่ายตลอดการรักษา ไม่ว่าจะค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าห้อง ICU ในกรณีฉุกเฉิน หากผู้ทำประกันภัยอายุ 21-55 ปี และเป็นไปตามเงื่อนไขที่ประกันกำหนด สามารถเข้ามาซื้อได้เลย ยิ่งอายุน้อย เบี้ยยิ่งถูก! ซื้อง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ เหมาจ่ายเบี้ยต่อปี !!

The post วิธีปฐมพยาบาลคนหน้ามืด เป็นลมหมดสติ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

เงินสงเคราะห์บุตร ประกันสังคม เป็นสิทธิของผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 ที่จ่ายเงินสบทบไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายใน 3 ปี  เป็นเงินที่ช่วยแบ่งเบาภาระ และส่งเสริมการเลี้ยงดูบุตรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการรับสิทธิ์ ดังนี้

1. ต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 

2. จ่ายเงินสมทบมาไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน จ่ายประกันสังคมมามากกว่า 12 เดือนแล้ว ภายในเวลา 36 เดือน 

3. ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรม

4. อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน

5. ผู้ประกันตนพ่อหรือแม่ สามารถเลือกใช้สิทธิได้ 1 สิทธิ์

เอกสารที่ใช้รับเงินสงเคราะห์บุตร ประกันสังคม

1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01)

2. สำเนาสูติบัตรบุตร (สำหรับผู้ประกันตนหญิงที่ต้องการใช้สิทธิ์)

3. สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาทะเบียนหย่า พร้อมบันทึกแนบท้ายของผู้ประกันตน หรือสำเนาทะเบียนรับรองบุตร หรือสำเนาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย สำเนาสูติบัตรบุตร (สำหรับผู้ประกันตนชายที่ต้องการใช้สิทธิ์)

4. สำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล ในกรณีเปลี่ยนชื่อ

5. กรณีผู้ประกันตนต่างชาติ ใช้สำเนาบัตรประกันสังคม และสำเนาหนังสือเดือนทาง (passport) หรือสำเนาหนังสือเดินทางชั่วคราว หรือเอกสารรับรองบุคคลที่ทางราชการออกให้

6. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ ของผู้ยื่นคำขอ 

ผู้ประกันตนที่ต้องการรับสิทธิประกันสังคม เงินสงเคราะห์บุตร สามารถยื่นคำ ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาที่ท่านสะดวก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สายด่วน 1506 และ www.sso.go.th และยังมีสิทธิได้รับ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด หากผู้ประกันตนอยู่ในครอบครัวยากจน สมาชิกในครอบครัวมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 100,000 บาท/คน/ปี และมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์รับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด

นอกจาก สิทธิประกันสังคม เรื่องการมองหาประกันสุขภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน ซื้อประกันสุขภาพ เพิ่มเติมสำหรับตัวเองและคนที่คุณรัก คุ้มครองค่ารักษาเมื่อเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ  คุ้มครองค่าห้อง ค่าอาหาร ครอบคลุมค่าห้อง ICU  มีแผนทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และ ผู้ป่วยนอก (OPD) ไม่ต้องตรวจสุขภาพ รับประกันคนที่มีอายุ 21-55 ปี สามารถซื้อผ่านออนไลน์ นำไปลดหย่อนภาษีได้ ส่วนใครที่ซื้อประกันสุขภาพให้คุณพ่อคุณแม่ ก็นำไปลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน คุ้มครองยาวๆ ต่อปีเลย

The post ประกันสังคม เงินสงเคราะห์บุตร มีเงื่อนไขอะไรบ้าง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.