ซื้อรถมือหนึ่ง

รถยนต์มือหนึ่ง เป็นรถยนต์สภาพใหม่เอี่ยมที่เพิ่งผลิตออกมาจากโรงงาน ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า รถจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่มีปัญหา มาพร้อมกับ การรับประกันคุณภาพ สามารถเลือกได้หลากหลายออฟชั่น

ข้อดี

• สภาพสมบูรณ์ และไม่มีประวัติการใช้งาน
• มีการรับประกันจากผู้ผลิต
• เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย
• เลือกออฟชั่นเสริมได้ตามใจชอบ

ข้อเสีย

• ราคาสูง
• ต้องรอรถยนต์จากศูนย์

ซื้อรถมือสอง

รถยนต์มือสอง เป็นรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาบ้าง มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเจ้าของรถคนเก่า บางคันยังมีสภาพดีเพราะเจ้าของเดิมต้องการเปลี่ยนรถ มีราคาย่อมเยาว์กว่ารถยนต์มือหนึ่ง

ข้อดี

• ราคาที่ถูกกว่า
• ค่าเสื่อมราคาที่น้อยลง
• ประหยัดค่าเบี้ยประกันภัย
• สามารถซื้อรถรุ่นที่มีอุปกรณ์และคุณสมบัติสูงขึ้นได้

ข้อเสีย

• ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงสูงกว่า
• อาจได้รถยนต์ที่สภาพไม่ดี หากดูรถไม่เป็น

อ่านเพิ่มเติม: ซื้อรถมือสอง ควรซื้อประกันรถชั้นไหนดี?

การเลือก ซื้อรถมือหนึ่ง หรือ ซื้อรถมือสอง นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ และความสะดวกของแต่ละคน หากคุณต้องการรถที่มีสภาพใหม่เอี่ยม พร้อมการรับประกันและเทคโนโลยีที่ทันสมัย หากคุณต้องการซื้อรถยนต์ใหม่ รถมือหนึ่งอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่า แต่ถ้าคุณมีงบที่ค่อนข้างจำกัด และพร้อมที่จะดูแลบำรุงรักษาเพิ่มเติม รถมือสองอาจเป็นตัวเลือกสำหรับคุณ แนะนำให้คุณตรวจสอบรถมือสองให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจด้วย

แล้วไม่ว่าจะซื้อรถแบบไหน ก็ต้องไม่ลืม ซื้อประกันรถยนต์ เพื่อคุ้มครองอุบัติเหตุ รถชนรถ หรือเหตุไม่คาดฝันอย่างรถสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม มีหลากหลายแผนให้เลือกมากมาย เปรียบเทียบแผนได้ รู้ราคาทันที รับประกันภัยจากบริษัทประกันชั้นนำ พร้อมรับสิทธิพิเศษอีกเพียบ ซื้อง่าย ผ่านออนไลน์ เช็กเบี้ยฟรี บนหน้าเว็บไซต์ที่ bolttech.co.th เท่านั้น

The post ซื้อรถคันแรก ควรซื้อรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

กลุ่มคนมีงบประมาณเหลือๆ เป็นยี่ห้อและรุ่นที่สมรรถนะดีที่สุด

แบรนด์แรกเลย Bridgestone Alenza001 มีจุดเด่นในเรื่องของสมรรถนะและการทรงตัวที่ดี เพราะว่าด้วยลักษณะรถ suv จะสูงแล้วทำให้ศูนย์ถ่วงไม่ค่อยดีมีการโยนตัวเยอะ เด้งมากกว่า ถ้ามาใช้ Alenza 001 ก็จะมีความนิ่ง โยนตัวต่ำ ทำให้การขับขี่ของเพื่อนๆ จะมั่นใจขึ้น

แบรนด์ที่สอง Michelin Primacy SUV+ ถือเป็นแบรนด์ที่รับจบสำหรับเพื่อนๆ ที่ใช้งานไม่เร็วมากเน้นนุ่มขับสบาย แบบฟังก์ชันของครอบครัวโดยแท้ ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ยืนหนึ่ง

แบรนด์ที่ 3 Yokohama ยี่ห้อนี้มีค่อนข้างหลากหลายรุ่น แต่ถ้าให้เลือก AE61 รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่มีความสบาย และประหยัดน้ำมันด้วย 

โดยสามแบรนด์ที่พูดถึงจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน หากชอบขับเร็ว BS ALENZA001 หรือเน้นนุ่มเงียบ YOKOHAMA และถ้าตัวกลางๆ สำหรับแบรนด์บน MICHELIN SUV+ รับจบ

ราคาจะเบาลงมาจากกลุ่มแรก ได้เลือกมา 4 แบรนด์ที่แบบรับจบ

Continental Ultracontact UC6 SUV คือ รุ่นนี้ต้องบอกว่า สมรรถนะเทียบเท่ากับกลุ่มแรกนะ แต่ราคาเบาลงมาเยอะพอสมควรเลย รุ่นนี้ต้องบอกว่าเน้นในเรื่องสมรรถนะ และแก้มยางจะมีความตรงทำให้การโยนตัวต่ำ การทรงตัวดี ส่วนเรื่องความนุ่ม มีแต่อาจจะเป็นพ้อยลองลงมา

Goodyear Assurance MaxGuard SUV รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นกลางๆ ที่เน้นความคงทนทั้งโครงยาง และ อายุการใช้งาน อาจจะไม่ใช่รุ่นที่เน้นนุ่มเงียบนะ แต่ทนและรีดน้ำได้ดี ถือว่าเป็นตัวรับจบแบบ กลางๆ อีกรุ่นหนึ่ง

Dunlop Grandtrek PT5 เป็นอีกรุ่นที่โอเครเลย เหมาะสำหรับ SUV เพราะรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก PT3 การโยนตัวต่ำมาก คือ ขับสนุกและมั่นใจทุกการขับขี่มากๆ เป็นรุ่นที่คนชอบขับเร็วเลือกใช้ได้เลย

อีกรุ่นที่อยากแนะนำคือ HANKOOK/DYNAPRO HPX (RA43) 102H *ID ถือว่าเป็นแบรนด์ที่คุ้มค่า คุ้มราคา รุ่นนี้จะมีความนุ่มขับสบาย และเรื่องของสมรรถนะ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ดีเลย เป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก HP2 ราคาสบายๆ

ทั้ง 4 รุ่นนี้ Continental UC6 Suv Goodyear MaxGuard SUV Dunlop PT5 Hankook Dynapro HPX มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน UC6 SUV กับ PT5 เน้นขับขี่เร็วสมรรถนะดี ส่วนนุ่มขับสบาย Hankook HPX และ ตัวกลางๆเป็นรุ่น MaxGuard SUV

กลุ่มสุดท้ายกลุ่มราคาประหยัด สมรรถนะดี ใช้งานได้อย่างปลอดภัย

แบรนด์ที่ 1 คือ Maxxis รุ่น Bravo HP-M3 เป็นแบรนด์ราคาประหยัด ไม่มีปัญหาในเรื่องของมาตรฐานการผลิตไม่มีปัญหายางบวม ใช้ได้จนครบอายุไข  และเรื่องความนุ่มและสมรรถนะ ถือว่าไม่น่าเกลียดเลย นุ่มอาจจะไม่มาก เกาะถนนใช้งานในเมืองได้สบายๆ

แบรนด์ที่ 2 คือ Apollo ถือเป็นแบรนด์ที่เพื่อนๆ อาจจะไม่ได้ยืนเป็นแบรนด์อินเดีย ที่ยางดี ราคาประหยัด ราคาเบา แต่คุณภาพขึ้นไปอยู่กลุ่มที่สองเล อายุการใช้งานดี สมรรถนะดี

แบรนด์ที่ 3 คือ Goodride SU320 เป็นแบรนด์ไทยที่ถือว่าใช้งานทั่วไปใช้งานได้ดีเลย

เป็นสามกลุ่มทั้งหมด 10 แบรนด์ที่คิดว่า ทำให้มีตัวเลือกง่ายขึ้น เพราะทุกยี่ห้อทุกรุ่นที่แนะนำมาคือ รุ่นที่ได้ทดลองและรู้สึกเป็นแบบที่น่าประทับใจมากๆ เหมาะสมกับราคา ที่อยากจะแนะนำบอกต่อจริงๆ ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เอาใจคนใช้รถอเนกประสงค์ หรือ รถ SUV โดยเฉพาะ !!

สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการเช็กยางใหม่ เปลี่ยนยางใหม่ สามารถเข้ามาเช็กได้ที่เว็บไซต์จอง Tiresbid เพื่อให้เพื่อนๆ เลือกซื้อยางสะดวกเพิ่มมากขึ้น ทั้งเลือกยางและบริการครบวงจร หากเพื่อนๆ ไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนดีและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ https://tiresbid.com/home ได้เลย มีแบรนด์สินค้าเพื่อนๆ ภาพให้เลือกมากที่สุดรวม 18 ยี่ห้อชั้นนำ และกว่า 80 รุ่นยอดนิยม สามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์ และรีวิวยางรถยนต์ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดในประเทศ แถมไทร์บิดเรายังมีบริการผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาอย่างเป็นกลาง ติดตามข่าวสารอัพเดทใหม่ได้ที่ Tiktok @Tiresbidofficial และ YouTube @TiresBid 

หรือสอบถามเรื่องยางที่เหมาะสมที่สุดผ่านทาง Line OA: @tiresbid (เติม@ด้วยนะ) พร้อมรับโปรโมชันยางรถพิเศษไทร์บิดมากมาย ให้บริการครบทุกรูปแบบ จุดบริการร้านยางใกล้บ้าน เปลี่ยนยางถึงบ้าน และจัดส่งทั่วไทย Fast service ทุกรูปแบบรับบริการนัดหมายล่วงหน้า ใช้เวลาเพียง 1 ชม. ในการรับบริการติดตั้งเปลี่ยนยาง ให้เรื่องยางรถง่ายยิ่งขึ้น

The post ยาง SUV 2024 รุ่นไหนน่าใช้ นุ่ม เงียบ ปลอดภัย! appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. เขาสามมุข - หาดบางแสน - หาดวอนนภา

สำหรับคนที่ไม่อยากขับรถขึ้นเขา ขับรถทางไกล ได้ชมทั้งภูเขาและทะเลไปพร้อมกันๆ ต้องไม่พลาดถนนสายเขาสามมุก - หาดบางแสน - หาดวอนนภา แวะไหว้ เจ้าแม่สามมุข พร้อมกินอาหารทะเลสดๆ ร้านวังมุข พาลูกหลานลงมาเล่นน้ำทะเลที่ชายหาดบางแสน ต่อด้วยการนั่งปิกนิกที่หาดวอนนภาให้สบายๆ ผ่อนคลายได้

2. จุดชมวิวเนินนางพญา ถ.เฉลิมบูรพาชลทิศ จ.จันทบุรี

เส้นทางชมวิวสุดโรแมนติก เลียบทะเลที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ถ้าใครมีโอกาสลองขับรถตั้งแต่ปากน้ำประแส จ.ระยอง มาเรื่อยๆ จนถึงเนินนางพญา จะได้ชมวิวธรรมชาติที่สวยงาม เหมือนไปเที่ยวต่างประเทศ ตอนเย็นๆ สามารถชมพระอาทิตย์ตกดิน บอกเลยว่า เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง

3. ถนนลอยฟ้า จ.น่าน

ทางขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ.ปัว จ.น่าน เป็นเส้นทางสายปัว-บ่อเกลือ-แม่จริม (ทางหลวงหมายเลข 1256) วิวสองข้างทาง เป็นทุ่งหญ้าและต้นไม้เรียงราย รู้สึกสดชื่นเหมือนได้ชาร์จแบต เหมาะสำหรับสายโร้ดทริปขับรถเที่ยว ไม่ว่าจะไปคนเดียว กับคนรู้ใจ หรือเที่ยวกับแก๊งเพื่อนๆ จะได้สัมผัสธรรมชาติที่ตามหาแน่นอน

4. วนอุทยานแห่งชาติ ทุ่งบัวตอง

ที่เที่ยวธรรมชาติหน้าหนาว ในช่วงเดือนพศจิกายน - ธันวาคม  หนีไม่พ้นแถบภาคเหนือ เพราะอากาศหนาวเย็น หากกำลังจะขับรถไปดอยอินทนนท์ต้องผ่านเส้นทางแม่ฮ่องสอน - ขุนยวม ทางหลวงหมายเลข 108 ที่มีความยาวกว่า 350 กม. แต่อย่าพลาดทุ่งบัวตองบนดอยแม่อูคอ 1 ปีมีครั้งเดียว ที่ดอกไม้จะบานสะพรั่งเหลืองทองทั่วทุ่ง

5. ทางด่วน Motorway M6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา

เส้นทางสู่ประตูอีสาน กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติแห่งใหม่ เมื่อขับรถเที่ยวไปแล้วจะได้ชมวิวสวยงามของ เขื่อนลำตะคอง ข้างหนึ่งเป็นวิวภูเขา และอีกด้านเป็นวิวเขื่อน ได้เห็นทั้ง 2 บรรยากาศในที่เดียว แต่ข้อเสียคือ ไม่สามารถจอดรถชมวิวได้ แค่ได้ฟินกับวิวธรรมชาติสวยงามระหว่างทาง ถือว่าคุ้มเลยทีเดียว

6. สะพานพ่อขุนผาเมือง

หากคุณไม่รู้จะขับรถเที่ยวที่ไหนดี แนะนำให้ลองขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 12 ที่เป็นสะพานคอนกรีตเสริมด้วยเหล็กตอม่อที่สูงที่สุดในประเทศไทย สามารถใช้เส้นทางนี้ผ่านไปอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ในช่วงคอโค้งของสะพานจะมองเห็นวิวสวยได้ชัดเจน หรือขับรถพาแม่เที่ยว เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีเหมือนกัน เหมาะขับรถเที่ยวมาก

เส้นทางขับรถเที่ยวตามแนวภูเขา มีความสวยงามและความท้าทายในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นถนนเลียบชายฝั่งบนหน้าผาสูงชัน หรือเส้นทางขึ้นเขาที่คดเคี้ยวและลาดชัน  ล้วนเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ แต่ผู้ขับขี่ต้องไม่ประมาท ถ้าใครอยากขับรถชมวิว สไตล์โร้ดทริป แนะนำ ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ กับ bolttech.co.th คุ้มครองคุณและรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน มีแผนให้เลือกมากมาย เช่น คุ้มครองรถชนรถ รถสูญหาย รถไฟไหม้ รถน้ำท่วม โดยขึ้นอยู่แต่ละประเภทกรมธรรม์ประกันภัยที่ได้ระบุไว้ เข้ามาเช็กเบี้ยเลย เปรียบเทียบแผนฟรี ซื้อผ่านออนไลน์ได้เลย เพื่อความปลอดภัย อุ่นใจตลอดเส้นทาง

The post 6 เส้นทางภูเขาวิวสวย ขับรถเที่ยวเช้าจรดเย็น appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

• รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี (EV)
• รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE)
• รถยนต์ไฮบริด (Hybrid)
• รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)

รถยนต์ทั้ง 4 ประเภทนี้ ผลิตมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ส่วนข้อดีและข้อเสียนั้นต้องพิจารณากันอีก การเลือกประเภทของรถยนต์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งลักษณะการใช้งาน งบประมาณ และปัจจัยอื่นๆ ตามความต้องการ และความแตกต่างของทั้ง 4 ประเภท มีดังนี้

1) แหล่งพลังงานและการขับเคลื่อน

• EV: ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีเท่านั้น
• ICE: ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง (เบนซิน, ดีเซล, แก๊ส)
• Hybrid: ใช้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้า แต่ไม่สามารถชาร์จไฟจากภายนอกได้
• PHEV: ใช้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้า สามารถชาร์จไฟจากภายนอกได้

2) ระยะทางการขับขี่

• EV: จำกัดด้วยความจุแบตเตอรี (ประมาณ 300-700 กม.)
• ICE: วิ่งได้ในระยะทางไกล 
• Hybrid: ระยะทางใกล้เคียงกับ ICE
• PHEV: ขับขี่ด้วยไฟฟ้าระยะสั้น (30-80 กม.) แต่รวมแล้วไกลเท่า ICE

3) การปล่อยมลพิษ

• EV: ไม่มีการปล่อยมลพิษโดยตรง
• ICE: ปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศ
• Hybrid: ปล่อยมลพิษน้อยกว่า ICE
• PHEV: ปล่อยมลพิษน้อยกว่า Hybrid เมื่อใช้โหมดไฟฟ้า

4) ราคารถยนต์

• EV: ราคาสูงกว่ารถยนต์สันดาปในเซคเมนต์เดียวกัน
• ICE: มีราคาตั้งแต่ต่ำไปจนราคาสูง
• Hybrid: ราคาสูงกว่า ICE แต่ต่ำกว่า EV
• PHEV: ราคาใกล้เคียงหรือสูงกว่า EV เล็กน้อย

5) ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

• EV: ค่าบำรุงรักษาต่ำที่สุด 
• ICE: สูงที่สุด ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและบำรุงรักษาระบบต่างๆ
• Hybrid: ค่าบำรุงรักษาค่อนข้างสูง เพราะต้องดูแล 2 ระบบ
• PHEV: ค่าบำรุงรักษาค่อนข้างสูง เพราะต้องดูแล 2 ระบบ

6) ความสะดวกในการเติมพลังงาน

• EV: ต้องใช้เวลาชาร์จนาน สถานีชาร์จยังไม่ค่อยเยอะ 
• ICE: เติมน้ำมันได้รวดเร็วที่สถานีบริการทั่วไป
• Hybrid: เติมน้ำมันเหมือน ICE
• PHEV: สามารถเติมน้ำมันและชาร์จไฟได้ ยืดหยุ่นที่สุด

7) ความเหมาะสมกับการใช้งาน

• EV: เหมาะกับการใช้งานในเมือง ระยะทางไม่ไกลมาก
• ICE: เหมาะกับการเดินทางไกลและพื้นที่ที่ไม่มีสถานีชาร์จ
• Hybrid: เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ทั้งในเมืองและนอกเมือง
• PHEV: เหมาะกับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง ใช้ไฟฟ้าในเมือง และน้ำมันสำหรับเดินทางไกล

การเลือกระหว่างรถยนต์ทั้ง 4 ประเภท ไม่ว่าจะเป็น EV , ICE , Hybrid และ PHEV ล้วนขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของผู้ใช้งาน ควรเลือกประเภทรถยนต์ที่เหมาะสมที่สุด ทั้งความต้องการ ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณของตัวเอง เพื่อตอบโจทย์ตัวคุณมากที่สุด หรือใครที่มีแพลนจะ ซื้อประกันรถยนต์ แนะนำเข้ามาเช็กเบี้ยได้ที่ bolttech.co.th มีแผนให้เลือกหลากหลาย เช่น คุ้มครองอุบัติเหตุรถชนรถ รถสูญหาย รถไฟไหม้ รถน้ำท่วม เปรียบเทียบแผนได้ จากบริษัทประกันชั้นนำ ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ได้เลย

The post เปรียบเทียบรถยนต์ EV / ICE / Hybrid / PHEV appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1. ประกันรถยนต์ระบุคนขับขี่

คือ การซื้อประกันรถยนต์ แบบระบุตัวตนผู้ขับขี่ได้ กรณีคุณขับขี่รถคนเดียวหรือใช้ภายในครอบครัว สามารถซื้อประกันแบบนี้ได้ โดยสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ ได้มากสุดถึง 2 คน  และมีส่วนลดเบี้ยประกันภัย สำหรับช่วงอายุของผู้ทำประกัน ดังต่อไปนี้

• อายุ 18-24 ปี ได้รับส่วนลด 5%
• อายุ 25-35 ปี ได้รับส่วนลด 10%
• อายุ 35-50 ปี ได้รับส่วนลด 15%
• อายุ 50 ปีขึ้นไป ได้รับส่วนลด 20%

ข้อดี

• เบี้ยประกันถูกกว่า ได้รับส่วนลดค่าเบี้ยจากการระบุชื่อผู้ขับขี่ เนื่องจากบริษัทประกันสามารถประเมินความเสี่ยงได้แม่นยำกว่า
• เหมาะสำหรับผู้ที่ขับรถคนเดียว หรือคนในครอบครัว (โดยระบุชื่อผู้ขับขี่สูงสุด 2 คน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละบริษัทฯ ประกันภัย)

ข้อเสีย

• จำกัดผู้ขับขี่ อาจไม่สะดวก หากต้องการให้คนอื่นขับแทน
• อาจเสียสิทธิ์ความคุ้มครอง หากเกิดอุบัติเหตุขณะที่คนอื่นขับ

หากผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด และไม่ใช่บุคคลเดียวกับชื่อที่ระบุไว้ สามารถเคลมประกันชั้น 1 ได้ แต่ต้องเสียค่ารับผิดส่วนแรก หรือที่เรียกว่า Excess Charge ดังนี้

• 2,000 บาทแรก สำหรับความเสียหายของทรัพย์สินบุคคลภายนอก เช่น ค่าซ่อมรถคู่กรณี ค่าเสาไฟ หรือต้นไม้ที่ถูกชนหัก เสียหาย เป็นต้น
• 6,000 บาทแรก สำหรับความเสียหายของรถคันเอาประกันภัย กรณีที่เอารถคันเอาประกันภัยเข้าซ่อม

โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่แต่ละบริษัทฯ กำหนด

2. ประกันรถยนต์ไม่ระบุคนขับ

เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครอง ทั้งความเสียหายจากอุบัติเหตุ รวมทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยไม่จำกัดว่าใครเป็นผู้ขับขี่ ประกันรถยนต์ประเภทนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันแพงกว่า เนื่องจากไม่ได้มีส่วนลดจากการระบุชื่อผู้ขับขี่

ข้อดี

• ยืดหยุ่นกว่า สามารถให้ใครก็ได้ขับรถ โดยได้รับความคุ้มครองประกันรถยนต์
• สะดวกกว่า เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีผู้ขับขี่หลายคน หรือบริษัทที่มีรถส่วนกลาง
• ไม่ต้องกังวลใจ เรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่ในภายหลัง

ข้อเสีย

• เบี้ยประกันแพงกว่า ไม่มีส่วนลดที่ระบุชื่อผู้ขับขี่ เนื่องจากบริษัทประกันต้องรับความเสี่ยงมากขึ้น
• อาจไม่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ขับรถคนเดียวเป็นประจำ

การเลือกประกันรถยนต์ ขึ้นอยู่กับความต้องการ และการใช้งานของแต่ละคน ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนผู้ขับขี่ ความถี่ในการใช้รถ และงบประมาณก่อนตัดสินใจ เพื่อซื้อประกันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ หากใครที่กำลังมองหา ประกันรถยนต์ออนไลน์ เข้ามาเช็กได้ที่ bolttech.co.th มีส่วนลดพิเศษ! ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ มีหลายแผนให้เลือก เช็กเบี้ยฟรี เปรียบเทียบแผนได้ จากบริษัทประกันชั้นนำ พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ ปรึกษาเราได้เลย

The post ประกันรถยนต์ระบุคนขับ VS ไม่ระบุคนขับ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

วันนี้ bolttech จะมาแนะนำเว็บไซต์เช่ารถไฟฟ้า มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น เช่น TESLA Model 3, BYD Dolphine, BYD Autto 3, BMW iX x Drive40, MG MG4 Electric X, MG EP, NISSAN Leaf 2  และรุ่นอื่นๆ ที่ร่วมรายการ เป็นต้น จองง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่มีค่าใช้จ่ายจุกจิกให้กวนใจ

1. EVme

มาเช่าทดลองขับได้ที่ EVme ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยม เพราะจองและเช่ารถง่ายผ่านแอป มีสิทธิพิเศษมากมายที่ร่วมกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่หลากหลาย ใช้บัตรเครดิตก็มีส่วนลด มีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกมากมายหลายแบรนด์  ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทั้งเช่ารถระยะสั้น เช่ารถระยะยาว เพิ่มประสบการณ์การเดินทางที่พิเศษให้กับคุณ พร้อมให้คำแนะนำและบริการติดตั้งสถานีชาร์จ นอกจากนี้ยังสามารถซื้อรถเช่าไฟฟ้าได้ มีให้เลือกหลายรุ่นเช่น AION, Volvo, GWM, Hyundai, Sleek เป็นต้น ในราคาสุดพิเศษ พร้อมบริการติดตั้ง Wall charger ฟรี!

เข้าไปซื้อรถไฟฟ้า หรือเช่ารถไฟฟ้าได้ที่ https://evme.io/business

2. HAUP

แพลตฟอร์มนี้เป็นคาร์แชร์ริ่ง ตลาดรถเช่าในประเทศไทย ค้นหารถเช่า รถไฟฟ้าเช่า ได้ทุกที่ทุกเวลา จากกว่า 1,000 แห่งในประเทศไทย ยืดหยุ่นการจองได้ เพื่อใช้ทำธุระ พักผ่อน หรือเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ มีรถให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น Hatchback, Sedan, Executive car, SUV, Pick-up, truck, Van, E-Scooter, E-Bike, EV และรถอื่นๆ อีกมากมาย สามารถใช้แอปจองและปลดล็อครถได้ทันที 24 ชั่วโมง เปรียบเสมือนคนกลางในการดีล ระหว่างผู้ที่มีรถยนต์ไฟฟ้าแต่ไม่ได้ใช้งาน นำมาปล่อยเช่าให้กับคนที่ไม่มีรถยนต์ไฟฟ้าใช้ แต่อยากมีรถขับไปทำธุระเพื่อความสะดวกสบาย สามารถจองผ่านแอปได้ รับรถสะดวก มีรถหลายรุ่นให้คุณเลือก

เช่ารถไฟฟ้าได้ที่เว็บไซต์: https://www.haupcar.com

3. EV Rent Thai

ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้ารายวัน เช่ารถรายเดือน ด้วยตัวเอง 24 ชั่วโมง ทุกบริษัท ทั่วไทย เปรียบเทียบราคาเองได้ คัดกรองประเภทได้ เช่น ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จเต็ม ไมค์ล่าสุด จำนวนที่นั่ง ประเภทรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะ BEV หรือ Plug in Hybrid  รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เป็นต้น โดยจะมีข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถ และราคาค่าเช่าปรากฎอยู่เพื่อประกอบการตัดสินใจ ไม่ว่าตัวคุณจะอยู่ที่ไหน ต้องการใช้รถเมื่อไร สามารถกรอกรายละเอียดจองรถได้เลย

เข้าไปจองรถเช่าได้ที่เว็บไซต์ https://evrentthai.com

4. Drivehub

เช่ารถกับ Drivehub บริการเช่ารถพร้อมคนขับทั่วไทย เหมารถไปต่างจังหวัด ให้คุณเดินทางสะดวกสบายขึ้น จาก 500 กว่าบริษัทรถเช่าทั่วประเทศ คัดกรองรายละเอียดรถเช่าเองได้ เช่น ยี่ห้อรถ ประเภทรถยนต์ ระบบเชื้อเพลิงหรือชาร์จไฟฟ้า ขนาดเครื่องยนต์ จำนวนที่นั่งเบาะ สามารถเลือกได้คุณตามที่ต้องการ และเลือกจุดรับคืนรถได้ 

พิเศษสุด! จองผ่านแอป Drivehub  มีส่วนลดเพียบ รหัสโปรโมชัน วางแผนจองล่วงหน้าได้ทุกที่ทุกเวลา สะดวก รวดเร็ว หรือเข้ามาดูได้ที่เว็บไซต์ https://www.drivehub.com

5. SiXT

SiXT ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้า ครอบคลุมทั่วประเทศด้วย 16 สาขาทั่วประเทศไทย ให้บริการรถยนต์คุณภาพ เช่ารถยนต์หรู เช่ารถยนต์พรีเมียม เช่น BMW, MINI, PEUGEOT และ JEEP พร้อมให้บริการระดับพรีเมียม สะดวก สบาย เพราะมีแอปพลิเคชัน แสดงค่าเช่าและสามารถซื้อประกันภัยเพิ่มเติมได้ ค่อนข้างได้รับความนิยม หากคุณจะไปเที่ยวต่างจังหวัดก็สามารถเช่ารถขับออนไลน์ แล้วไปรับรถเมื่อถึงจุดหมายปลายทางได้ มีให้บริการเช่ารถระยะสั้น บริการเช่ารถรายวัน เช่ารถรายสัปดาห์ และเช่ารถรายเดือน (ตั้งแต่หนึ่งวันจนถึงหนึ่งปี) เลือกได้ตามที่คุณต้องการ

เช่ารถไฟฟ้าได้ที่เว็บไซต์ https://sixtthailand.com

สำหรับคนที่อยากขับรถยนต์ไฟฟ้า หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วอยากมีรถยนต์ไว้ขับ สามารถติดต่อขอเช่าได้จากผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้า หรือจองคิวได้ตามต้องการ ส่วนคนที่กำลังจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า แนะนำซื้อประกันภัยรถยนต์ควบคู่ไปด้วย bolttech.co.th ขอแนะนำให้ ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ คุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ทั้งอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี และมีคู่กรณี คุ้มครองรถสูญหาย รถไฟไหม้ รถน้ำท่วม รวมถึงครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มีแผนให้เลือกมากมาย เทียบแผนเองได้ และซื้อผ่านทางออนไลน์ มีส่วนลดพิเศษมอบให้ด้วย!!

The post อยากขับรถเที่ยว เช่ารถไฟฟ้าที่ไหนดี? appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1.ระวังกวางมูสโจมตี

ป้ายนี้พบเห็นได้ในประเทศที่มีอากาศหนาว เช่น แคนาดา สหรัฐอเมริกา ฟินแลนด์ ฯลฯ เนื่องจากกวางมูสเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ และบางครั้งก็อาจจะออกมาเดินเล่นตามถนนบ่อย ๆ การชนกับกวางมูสอาจทำให้รถของคุณเสียหายหนัก หรือแม้แต่พลิกคว่ำได้ ดังนั้น หากคุณขับรถในต่างประเทศแล้วเจอป้ายแบบนี้ ให้ขับขี่ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เบรกให้ช้าลง และเตรียมพร้อมที่จะหยุดรถทันทีหากเห็นกวางมูสอยู่ข้างหน้า

2.ระวังครอบครัวข้ามถนน

ป้ายนี้พบเห็นได้ตามแถบชายแดนสหรัฐฯ ติดกับทางเม็กซิโก ซึ่งเป็นจุดที่มักจะมีการลักลอบเข้าประเทศบ่อย ๆ และมักจะเกิดอุบัติเหตุจากการรีบข้ามถนนเพื่อหลบหนีนั่นเอง ป้ายนี้จึงเป็นการเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน หรือช่วงที่ทัศนวิสัยไม่ดี

3.ระวังหมี

ป้ายนี้พบเห็นได้ในประเทศที่มีหมีอาศัยอยู่ เช่น แคนาดา สหรัฐอเมริกา รัสเซีย ฯลฯ หมีเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย และอันตราย หากเจอป้ายแบบนี้ อาจจะต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ และไม่ควรหยุดรถในบริเวณนั้น หมีอาจจ้องจะโจมตีรถของคุณได้หากคิดว่าคุณเป็นภัยคุกคาม

4.ระวังม้าลายข้ามถนน

ป้ายนี้พบเห็นได้ในประเทศที่มีม้าลายอาศัยอยู่ เช่น แอฟริกา ออสเตรเลีย ฯลฯ ม้าลายเป็นสัตว์ที่เชื่องช้าและน่ารัก แต่ก็สามารถเป็นอันตรายได้เช่นกัน เพราะม้าลายอาจกระโดดข้ามถนนด้วยความรวดเร็ว โดยที่คุณยังไม่ทันระวัง

5.ระวังสิ่งไม่คาดฝัน

ป้ายนี้พบเห็นได้ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ป้ายนี้ไม่ได้ระบุถึงสิ่งใดเป็นพิเศษ แต่เป็นการเตือนให้ผู้ใช้ถนนระมัดระวังสิ่งใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ก้อนหินตกจากภูเขา ผึ้งแตกรัง หรือเด็กข้ามถนน ฯลฯ

6.ป้ายระวังวัวหล่น

ป้ายนี้มักพบเห็นในแถบชนบทหรือพื้นที่เกษตรกรรมที่มีวัวเลี้ยงอยู่เป็นจำนวนมาก ป้ายนี้เตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายจากการที่วัวตกจากที่สูงลงมา เช่น จากหน้าผาหรือจากรถบรรทุกขนส่งวัว

7.ป้ายระวังเต่า

ป้ายนี้มักพบเห็นในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือพื้นที่ที่มีเต่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ป้ายนี้เตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายจากการชนเต่าหรือทำให้เต่าตกใจวิ่งตัดหน้ารถ

8.ป้ายห้ามใช้แตร

ป้ายนี้มักพบเห็นในบริเวณที่เงียบสงบ เช่น ใกล้โรงพยาบาล สถานศึกษา หรือวัด ป้ายนี้ห้ามผู้ใช้รถใช้แตรรถเพื่อเตือนหรือเพื่อแสดงอารมณ์ เนื่องจากอาจรบกวนความสงบของผู้อื่น

9.Speed Limit 12 1/2 ป้ายจำกัดความเร็วแบบละเอียด

ป้ายนี้มักพบเห็นในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ป้ายนี้กำหนดให้ผู้ใช้รถใช้ถนนจำกัดความเร็วที่ 12 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือประมาณ 19.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ป้ายจำกัดความเร็วแบบละเอียดเช่นนี้มักพบเห็นในบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ใกล้โรงเรียน บริเวณที่มีการก่อสร้าง หรือบริเวณที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่

10.ป้ายวงเวียนในวงเวียน

ป้ายนี้มักจะมีในพื้นที่ที่อาจมีถนนที่ซับซ้อน ทำให้ต้องมีป้ายเตือนผู้ขับขี่บนถนนว่า มีวงเวียนในเส้นทางข้างหน้า

ป้ายจราจรแปลก ๆ เหล่านี้อาจทำให้เรารู้สึกแปลกตาหรือขำขัน แต่สิ่งสำคัญคือเราควรปฏิบัติตามป้ายจราจรเหล่านี้อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตนเอง และผู้ร่วมทาง

สำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหาประกันภัยรถยนต์ bolttech ประกันรถยนต์ราคาถูก  แนะนำประกันรถชั้น 3+ คุ้มครองคุณ และรถของคุณจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ประกันรถยนต์ชั้น 3+ คุ้มครองอุบัติเหตุรถชนรถคู่กรณี และรถคุณในกรณีที่ระบุคู่กรณีได้ ทั้งยังคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี และบุคคลที่สามอีกด้วยนะ เช็กเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่นี่ ซื้อผ่านออนไลน์ได้เลย มีโปรโมชันพิเศษ!

The post 10 ป้ายจราจรสุดแปลกทั่วโลก แบบนี้มีด้วยหรอ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1) รวบรวมข้อมูลหลักฐาน

สิ่งแรกที่ต้องทำคือ รวบรวมข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับรถ เช่น หมายเลขทะเบียนรถ เอกสารซื้อขายรถ ใบขับขี่ บัตรประชาชน รูปถ่ายรถ โดยเฉพาะจุดสังเกต เช่น รอยขีดข่วน สติกเกอร์ ป้ายทะเบียนรถ ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่รถหาย หากมีข้อมูลที่รวบรวมได้ยิ่งมากเท่าไร ยิ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหารถได้ง่ายขึ้น 

2) แจ้งบริษัทประกันภัยที่ใช้บริการ

หากคุณทำประกันรถยนต์ อย่าลืมแจ้งประกันทันทีที่พบว่ารถหาย โดยแจ้งรายละเอียดเบื้องต้น เช่น ยี่ห้อ รุ่น ทะเบียนรถ สถานที่เกิดเหตุ และเวลาเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ประกันจะเข้ามาตรวจสอบ และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ออกหนังสือรับรองให้เจ้าของรถใช้ประกอบในการแจ้งความ ช่วยเหลือในการติดตามรถให้ หรือจ่ายค่าสินไหมทดแทนหากรถไม่สามารถติดตามคืนมาได้

3) แจ้งความ

การแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสิ่งสำคัญ เป็นหลักฐานในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากประกัน หากรถไม่สามารถติดตามคืนมาได้ ในการแจ้งความ ให้นำเอกสารหลักฐานที่รวบรวมไว้ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับแจ้งรายละเอียดเบื้องต้น เช่น ยี่ห้อ รุ่น ทะเบียนรถ สถานที่เกิดเหตุ และเวลาเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะบันทึกประจำวันและออกใบแจ้งความให้

การเตรียมการไว้ก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่ารถที่หาย อาจเป็นรถของเราเข้าสักวัน ดังนั้นอย่าลืมที่จะดูแลความเสี่ยง โดยเฉพาะเรื่องรถโดนโจรกรรม bolttech.co.th แนะนำให้ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ ติดรถไว้ จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจ นอกจากจะคุ้มครองอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีแล้ว คุ้มครองรถสูญหายและรถไฟไหม้อีกด้วย อุ่นใจตลอดการขับขี่

The post 3 สิ่งที่ต้องทำทันที เมื่อรถโดนขโมย appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

1) ระบบมอเตอร์ขัดข้อง

ทำให้การขับรถไม่ปกติ ขับไปแล้วรถกระตุกหรือติดๆ ดับๆ จนไม่สามารถขับต่อได้ เกิดจากระบบซอฟแวร์ที่ใช้ในการสื่อสารของกล่องควบคุมระบบไฟฟ้าทั้งหมด 4 กล่องในตัวรถ ได้แก่ กล้องระบบการชาร์จ EVCC กล่องควบคุมการทำงานโดยรวมของรถ VCU กล่องควบคุมการทำงานของระบบแบตเตอรี่ BMS กล่องควบคุมการทำงานของมอเตอร์ MCU ส่งผลต่อปัญหายิบย่อยที่ตามมา เช่น

• ตัวรถชาร์จไฟไม่เข้า
• ระบบ Regenerative breaking ไม่ทำงาน
• แอพลิเคชันแสดงผลไม่ตรงกันกับค่าจริงของรถยนต์
• ปุ่มควบคุมการเปิดปิดของระบบกระจกไม่ทำงาน
• ระบบสั่งการด้วยเสียง I-Smart ไม่ทำงาน
• ไฟท้ายไม่สว่าง

2) การอัพเดทเฟิร์มแวร์ของระบบไม่ครอบคลุม

ปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าทั้งหมดเกิดจากทางแบรนด์ใช้ Microchip จากซัพพลายเออร์หลายเจ้า จึงทำให้ไม่สามารถอัพเดทเฟิร์มแวร์ให้รถทุกคันได้ เพราะเป็นปัญหาซับซ้อนเกินกว่าที่ทางแบรนด์ประเมิน แต่หลายแบรนด์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะแก้ไขปัญหา และพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าให้มีความเสถียรภาพเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

3) ตู้ชาร์จสาธารณะมีน้อย

เนื่องจากว่า ในปัจจุบันมีผู้ใช้งานรถ ev มากยิ่งขึ้น แต่สถานีชาร์จนั้นมีน้อย จึงไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้เกิดความกังวลสำหรับคนที่ขับรถทางไกลหรือไม่ได้ชาร์จมาจากที่บ้านเพราะลืมคำนวณให้ดีก่อน

4) ส่งซ่อมรออะไหล่นาน

มีหลายแบรนด์ที่ให้บริการหลังการขายไม่ค่อยดี เนื่องจากว่ารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยยังมีการใช้งานได้ไม่นาน ทางบริษัทไม่ได้ทำการสต็อกอะไหล่รถยน์ไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการ หากส่งซ่อมต้องรออะไหล่จากต่างประเทศนาน หรือบางทีไม่สามารถตอบได้ว่าอะไหล่จะเข้าเมื่อไร

ใครที่มีแพลนจะออกรถยนต์ไฟฟ้า ควรมองหาประกันรถยนต์ควบคู่ไปด้วย ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองครอบคลุมได้มากที่สุด ทั้งอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณีและมีคู่กรณี คุ้มครองรถสูญหายจากโจรกรรม ไฟไหม้ น้ำท่วม รวมถึงค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อุ่นใจมากกว่า สนใจเข้ามาซื้อประกันออนไลน์ ที่ bolttech.co.th เปรียบเทียบแผนได้ เช็กเบี้ยฟรี รู้ราคาทันที มีโปรโมชันพิเศษ และสิทธิพิเศษอื่นๆ ที่ร่วมรายการ

The post ปัญหาที่พบบ่อย สำหรับคนใช้รถยนต์ไฟฟ้า appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.

เมื่อพูดถึงความพิเศษของพาสปอร์ตอุทยานนี้ ไม่ได้เป็นเพียงหนังสือเล่มเล็กขนาด 3 x 5 นิ้วที่ไว้สะสมแค่ตราประทับเท่านั้น แต่ภายในพาสปอร์ตอุทยานยังมี ข้อมูลชื่ออุทยานแห่งชาติ สถานที่ตั้ง รูปภาพ กฏระเบียบ ข้อควรปฏิบัติ และข้อมูลที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกและทำความดี เพื่อสะสมคะแนนแลกของที่ระลึกได้ด้วยการสะสมตราประทับของอุทยานแห่งชาติพร้อมลายเซ็นเจ้าหน้าที่ หากสะสมครบทุกที่ก็จะมีรางวัลพิเศษ ดังนี้

1) ตราประทับพิเศษ

เป็นแสตมป์สุดท้ายในพาสปอร์ตอุทยานที่เราจะได้รับการรับรองว่าเป็น “สุดยอกนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ”

2) ของที่ระลึก

มีของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ จากกรมอุทยานแห่งชาติ ซึ่งจะมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกและทำความดี เพื่อสะสมคะแนนแลกของที่ระลึกด้วย

3) ลายเซ็น นายอรรถพล เจริญชันษา

โดยมีลายเซ็นของ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

4) บัตรประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ

สิทธิพิเศษที่จะได้รับ คือ

• เข้าอุทยานแห่งชาติ ฟรีตลอด 1 ปี สำหรับผู้ที่มีชื่อบนบัตรและยานพาหนะ 1 คัน
• บ้านพัก 1 หลัง (หลังละไม่เกิน 4 คน) ที่อุทยานแห่งชาติ ฟรี 2 ครั้งต่อปี

หากใครไปเที่ยวและสะสมครบแล้ว ทั้ง 156 แห่ง สามารถขอรับสิทธ์ได้ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติ ส่วนนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ต้องการเข้าชมอุทยานแห่งชาติ ยังต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าชมตามปกติ ยกเว้นอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถเข้าฟรีได้ กรณีมียานพาหนะต้องเสียค่าธรรมเนียมด้วย ถ้าคุณอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ ส่วนจัดการการท่องเที่ยวและนันทนาการ โทรศัพท์: 02-561-0777 ต่อ 1742-4 หรือ Facebook สำนักอุทยานแห่งชาติ - National Parks of Thailand

ถ้าใครอยากไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติโดยที่ ไม่มีพาสปอร์ต สามารถเข้าชมได้ตามปกติ โดยเสียค่าธรรมเนียมเข้าชมได้ทุกแห่งทั่วประเทศ ใครวางแพลนเรียบร้อยแล้ว ต้องเก็บให้ครบ 156 แห่ง อย่าลืมทำประกันเดินทางภายในประเทศ ที่ bolttech.co.th เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา คุ้มครองค่ารักษาจากอุบัติเหตุขณะเดินทาง คุ้มครองทั่วไทย ตลอด 24 ชม. หรือหากต้องเดินทางโดยเครื่องบิน ก็มีแผนชดเชยเที่ยวบินล่าช้า สามารถเข้ามาเปรียบเทียบแผนได้เลย พร้อมรับกรมธรรม์ออนไลน์ เบี้ยเริ่มแค่ 55 บาท (สำหรับ 3 วัน)

The post "พาสปอร์ตอุทยาน" สายเที่ยวต้องมีไว้ appeared first on Bolttech Blog - News & Updates.