ประกันภัยรถยนต์ออนไลน์

bolttech.co.th โบรกเกอร์ประกันรถยนต์ออนไลน์ เรามีประกันรถยนต์ให้คุณเลือกหลากหลาย ด้วยเบี้ยประกันรถยนต์ราคาถูก คุ้มครองคุ้มค่าที่สุด การันตีว่าคุณจะได้รับกรมธรรม์ที่ตรงกับความต้องการของคุณ และเรายินดีให้คำแนะนำให้กับลูกค้าทุกท่าน หากสนใจซื้อประกันภัยรถยนต์ สามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ของเราได้เลย

ประกันรถยนต์ คืออะไร

ประกันรถยนต์ หรือ ประกันภัยรถยนต์ (Motor Insurance) คือ ประกันภัยที่คุ้มครองผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงบุคคลที่สาม จากอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการขับขี่รถยนต์ โดยประกันรถยนต์จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันตามค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่จะไม่เกินวงเงินประกันภัย ความคุ้มครองประกันรถยนต์จะมี 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ 

• ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่รถยนต์ คือ คุ้มครองค่าซ่อมรถ
• ความคุ้มครองด้านร่างกาย ทรัพย์สิน โดยประกันรถยนต์จะคุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงบุคคลภายนอกที่ได้รับบาดเจ็บจากรถคันที่ทำประกันภัย

โดยประกันภัยรถยนต์ในประเทศไทย มี 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

ประกันรถยนต์ภาคบังคับ

ประกันรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.รถยนต์ คือ ประกันรถยนต์ที่กฎหมายบังคับให้เจ้าของรถทุกคันต้องทำ โดยอ้างอิงจากพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งประกันรถยนต์ภาคบังคับ หรือพ.ร.บ.รถยนต์จะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการใช้รถ ทั้งคนขับ ผู้โดยสาร หรือบุคคลภายนอก แต่จะไม่คุ้มครองรวมถึงทรัพย์สินที่เสียหาย อธิบายง่ายๆ ก็คือจ่ายค่ารักษาพยาบาลอย่างเดียว นอกจากนี้ พ.ร.บ. ก็ยังจำเป็นกับการนำไปใช้ต่อภาษีรถยนต์ประจำปีอีกด้วย 

ความคุ้มครอง พ.ร.บ. รถยนต์ โดยละเอียด

ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ

ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ คือ ประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมจากพ.ร.บ.รถยนต์ ผู้ขับขี่สามารถซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจเองได้ อย่างที่บอกว่า พ.ร.บ.รถยนต์ จะคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาล แต่ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจนั้นจะให้ความคุ้มครองตั้งแต่ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติม ค่าชดเชยต่างๆ รวมไปถึงค่าซ่อมรถด้วย โดยความคุ้มครองของประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ สามารถแบ่งได้เป็นชั้นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2,2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3,3+ ซึ่งแต่ละชั้นก็จะมีความคุ้มครองที่ต่างกันไป เราแนะนำให้คุณเปรียบเทียบประกันรถยนต์ เช็คเบี้ยประกันก่อนที่จะตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าและตรงใจมากที่สุด

ประกันรถยนต์ชั้น 1

ประกันรถชั้น 1 เป็นประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่มีความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด โดยคุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลของเราและคู่กรณี ค่าซ่อมรถกรณีเกิดอุบัติเหตุแบบรถชนกับรถ ค่าซ่อมรถกรณีเกิดอุบัติเหตุกรณีรถชนกับสิ่งของ (ประตูรั้ว เสาไฟฟ้า ฯลฯ) หรืออุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี นอกจากนั้นประกันรถยนต์ชั้น 1 ยังคุ้มครองไปถึงรถสูญหายจากการโจรกรรม ความเสียหายของรถจากภัยน้ำท่วม และภัยไฟไหม้

ประกันรถยนต์ชั้น 2/2+

ประกันรถชั้น 2/2+ เป็นประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่มีความคุ้มครองรองลงมาจากประกันชั้น 1  ต่างกันที่ประกันรถชั้น 2 หรือ 2+ จะไม่คุ้มครองอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี หรือระบุคู่กรณีไม่ได้ (ชนแล้วหนี ตามตัวไม่เจอ) ส่วนความคุ้มครองอื่นจะค่อนข้างเหมือนกับประกันชั้น 1 แต่ข้อดีของประกันชั้น 2/2+ จะมีเบี้ยประกันรถยนต์ราคาถูกกว่า เป็นอีกแผนประกันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากสำหรับคนที่ใช้รถค่อนข้างบ่อย และมีความชำนาญในการขับขี่พอสมควร

ข้อแตกต่างระหว่าง ประกันชั้น 2 กับ 2+ ประกันชั้น 2 จะไม่คุ้มครองตัวรถของคุณ ไม่ว่าจะกรณีใดๆ มีคู่กรณีหรือไม่ และถ้าเกิดเหตุแบบมีคู่กรณี ทางบริษัทประกันภัยก็จะรับผิดชอบค่าซ่อมรถให้เฉพาะคู่กรณีเท่านั้น

ประกันรถยนต์ชั้น 3/3+

ประกันรถชั้น 3/3+ เป็นประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่มีเบี้ยราคาถูกที่สุด ให้ความคุ้มครองเฉพาะค่าเสียหายทั้งค่าซ่อมรถและค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี รวมถึงบุคคลที่สาม โดยประกันรถยนต์ชั้น 3+ คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของคุณที่สามารถระบุคู่กรณีได้เท่านั้น แต่ถ้าเป็นประกันรถยนต์ชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณี ซึ่งข้อดีของประกันรถชั้น 3+ คือ เบี้ยประกันรถยนต์ราคาถูกที่สุด เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถไม่บ่อย ขับรถชำนาญแล้ว และใช้รถที่มีอายุ 4-15 ปีขึ้นไป

ข้อแตกต่างระหว่าง ประกันชั้น 3 กับ 3+ ประกันชั้น 3 จะไม่คุ้มครองตัวรถของคุณ ไม่ว่าจะกรณีใดๆ มีคู่กรณีหรือไม่ และถ้าเกิดเหตุแบบมีคู่กรณี ทางบริษัทประกันภัยก็จะรับผิดชอบค่าซ่อมรถให้เฉพาะคู่กรณีเท่านั้น

วิธีลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ให้ถูกที่สุด

นอกจากเราจะเปรียบเทียบประกันรถยนต์ เพื่อเช็คราคาเบี้ยประกันที่ดีที่สุด วันนี้เราขอแนะนำวิธีการเพิ่มเติมที่จะช่วยลดค่าเบี้ย ให้คุณซื้อประกันรถยนต์ได้ในราคาที่ถูกที่สุด

1. เลือกซื้อประกันรถยนต์ที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible)

ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) คือ ค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันยินดีรับผิดชอบก่อนในการเกิดอุบัติเหตุเมื่อคุณเป็นฝ่ายผิด หากคุณเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่มีค่าเสียหายส่วนแรก จะช่วยประหยัดเบี้ยประกันรถยนต์ได้ประมาณ 1,000 - 5,000 บาทต่อปี โดยคุณสามารถเลือกค่าเสียหายส่วนแรกหรือไม่เลือกก็ได้ แต่ถ้าจ่ายค่า Deductible มากเท่าไหร่ ค่าเบี้ยก็จะถูกลงนั่นเอง

2. ระบุชื่อและอายุของผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์

อายุของคุณจะมีผลกับเบี้ยประกันรถยนต์ ในกรณีที่คุณระบุชื่อและอายุของผู้ขับขี่ลงในกรมกรรม์ประกันรถยนต์ สามารถประหยัดค่าเบี้ยประกันได้ราว 5 - 20% ซึ่งจะเเบ่งตามช่วงอายุของผู้ขับขี่ ดังนี้ต่อไปนี้

• อายุ 18-24 ปี ลดให้ 5 %
• อายุ 25-35 ปี ลดให้ 10 %
• อายุ 36-50 ปี ลดให้ 15 %
• อายุ 50 ปีขึ้นไป ลดให้ 20 %

3. ติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์

นอกจากกล้องรถยนต์จะมีประโยชน์มากมายแล้ว การติดกล้องหน้ารถยนต์ ยังช่วยประหยัดเงินค่าเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณอีกด้วย ซึ่งเป็นนโยบายจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้บริษัทประกันภัยลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ 5 - 10% ให้กับผู้ที่ติดกล้องไว้หน้ารถ

4. เลือกซ่อมอู่แทนซ่อมศูนย์

ถ้าคุณเลือกซ่อมศูนย์อาจจะมีค่าใช้จ่ายเเพงกว่าอยู่แล้ว จึงทำให้คุณต้องเสียค่าเบี้ยประกันแพงกว่า แต่หากคุณเลือกซ่อมอู่เบี้ยประกันรถยนต์ของคุณก็จะถูกลงทันที แถมยังเคลมง่ายด้วย หากใครที่สนใจซื้อประกันรถยนต์ของเรา ก็เลือกได้ทั้งศูนย์ซ่อมหรืออู่ซ่อมที่ใกล้บ้านได้เลย 

5. ลดทุนประกันรถยนต์

โดยปกติแล้วทุนประกันรถยนต์จะอยู่ที่ 70% - 80% ของราคากลางรถยนต์ หากคุณมั่นใจในฝีมือการขับขี่ของคุณ การลดทุนประกันไว้เพื่อประหยัดค่าเบี้ยก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจเช่นกัน ยิ่งทุนประกันลดลงค่าเบี้ยประกันรถยนต์ก็จะลดตามไปด้วย แต่คุณก็ต้องคำนึงด้วยว่าหากลดทุนประกันมากๆ เมื่อเกิดเหตุขึ้นมาประกันรถยนต์ก็ให้วงเงินความคุ้มครองตามที่เราเลือกไว้ก่อนหน้านี้ แต่หากค่าเสียหายเกินวงเงินความคุ้มครอง คุณจะต้องรับผิดชอบในส่วนที่เหลือเอง

6. ส่วนลดประวัติดี

ขับรถดี มีรางวัลถ้าตลอดทั้งปีคุณไม่ได้เคลมเลย หรือไม่ได้เป็นฝ่ายผิด จะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นราว 20%-50% ต่อปี ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ต่อประกันรถยนต์คุ้มครองตาม 4 เงื่อนไขตามนี้

• ขั้นที่ 1 ขับรถดีในปีแรก ได้รับส่วนลด 20%
• ขั้นที่ 2 ขับรถดีติดต่อกันในปีที่สอง ได้รับส่วนลด 30%
• ขั้นที่ 3 ขับรถดีติดต่อกันในปีที่สาม ได้รับส่วนลด 40%
• ขั้นที่ 4 ขับรถดีติดต่อกันตั้งแต่ปีที่สี่ เป็นต้นไป ได้รับส่วนลดสูงสุดที่ 50%

7. โปรโมชันบัตรเครดิต

หากคุณสนใจซื้อประกันภัยรถยนต์ และใช้บัตรเครดิตอยู่แล้ว ลองเข้ามาดูโปรโมชันบัตรเครดิตกันก่อน เพราะหลายๆ บริษัทจะมีโปรโมชันต่างๆ ทำให้คุณสามารถทำประกันรถยนต์ชั้นที่คุณต้องการได้ในราคาประหยัด ถ้าคุณมีหลายบัตรก็เปรียบเทียบเลยว่าบัตรไหนคุ้มสุด แต่ให้สอบถามกับโบรกเกอร์ประกันก่อน เพราะไม่ใช่ทุกบริษัทจะให้บริการรับบัตรเครดิต แต่ถ้าคุณซื้อประกันรถยนต์ ที่ bolttech.co.th เรามีระบบจ่ายเงินได้หลายช่องทาง สามารถซื้อประกันรถยนต์ด้วยเงินสด บัตรเครดิต หรือเดบิต เรียกได้ว่าครบทุกช่องทาง เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า

8. ประกันรถยนต์ผ่อนเงินสด

bolttech.co.th มีทางเลือกพิเศษให้กับคุณ เมื่อซื้อประกันรถยนต์กับเรา คุณสามารถผ่อนเงินสดได้ รับความคุ้มครองแบบจัดเต็ม ดอกเบี้ย 0% ผ่อนได้นานสูงสุด 6 เดือน ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ไม่ต้องมีเงินก้อน สะดวกและรวดเร็ว หรือสามารถอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้จาก ประกันรถยนต์ผ่อนเงินสด