เวลาที่คุณจอดรถทิ้งไว้ในบริเวณที่ห้ามจอด แล้วจู่ๆ รถคันอื่นเฉี่ยวชนรถของคุณ ถือว่าใครเป็นฝ่ายผิดกันแน่? ประกันรถยนต์จะคุ้มครองหรือไม่ ใครจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบ ถือเป็นคำถามยอดฮิตบนโลก Social เลยล่ะ หากคุณกำลังสงสัยเรื่องนี้อยู่ เรามีเฉลยมาฝาก!!
ถึงจะจอดผิดที่ แต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาชน!! หมายความว่า คนที่ขับรถพุ่งมาชนเป็นฝ่ายที่ผิดเต็มๆ เพราะถือว่าฝ่ายขับรถมาชนไม่มีความระมัดระวังหรือประมาทเอง เป็นการทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นด้วยควาประมาท
ส่วนฝ่ายที่โดนรถชน มีความผิดตามกฎหมายจราจร นั่นคือ การจอดรถในที่ห้ามจอด (โดยมีป้ายจราจรกำกับไว้ชัดเจน) จะต้องเสียค่าปรับตามกฎหมายจราจรทางบก ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบของคู่กรณีได้
ในทางกลับกันต้องพิจารณาการจอดรถของคุณ ว่าจอดอยู่ในลักษณะใดที่เสี่ยงต่อการถูกเฉี่ยวชนง่ายหรือไม่ เช่น จอดรถในจุดอับ จอดในบริเวณทางโค้งหรือพื้นที่แคบๆ ที่ไม่สมควรจอด ทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน อาจจะพิจารณาว่าคนจอดประมาทร่วมด้วย โดยต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างละเอียด
หากพบว่าผู้ขับขี่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร 15 ข้อดังกล่าว มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ดังนั้นผู้ขับขี่ควรมีความรับผิดชอบและเคารพกฎจราจร จะได้ไม่เสี่ยงโดนล็อกล้อ จ่ายค่าปรับ หรือโดนรถเฉี่ยวชนด้วย
เมื่อพูดถึงความคุ้มครองประกันรถยนต์ หากคุณจอดรถโดนชนแล้วหนี แบบมีคู่กรณี และมีประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+ และ 3+ ประกันรถยนต์จะให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไข เพราะรถคันที่มาชนเป็นฝ่ายผิด ถึงแม้คุณจะจอดรถในที่ห้ามจอดก็ตาม แต่ถ้าคุณเป็นฝ่ายขับรถไปชนรถที่จอดอยู่ในที่ห้ามจอด โดยที่คุณเป็นฝ่ายผิด ประกันรถชั้น 1, 2+ และ 3+ จะคุ้มครองทั้งรถคุณและรถคู่กรณีของคุณ แต่ประกันชั้น 3 จะคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณีเท่านั้น
ในทางกลับกันถ้าเกิดเหตุรถโดนชนแล้วหนี ไม่มีคู่กรณี สามารถเคลมประกันได้ไหม? เคสแบบนี้เกิดบ่อยมากๆ แต่ถ้าคุณมีประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ครอบคลุมอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี จะให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ โดยต้องติดต่อแจ้งเจ้าหน้าที่ประกันทันทีหลังเกิดเหตุ เพื่อให้ทางประกันเข้ามาตรวจสอบ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ลงบันทึกประจำวัน กรณีที่คุณมีหลักฐานอย่างกล้องวงจรปิด หรือกล้องติดหน้ารถยนต์ ที่สามารถระบุเลขทะเบียนของคู่กรณีได้ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ประกันชั้น 3+ จะให้ความคุ้มครอง ถือว่าระบุคู่กรณีได้ ดังนั้นให้เราจดข้อมูลของรถคู่กรณีให้มากที่สุด เช่น ยี่ห้อรถ รุ่นรถ และเลขทะเบียนรถ เพราะในส่วนนี้จะมีประโยชน์ในการเคลมประกัน
อุ่นใจด้วย ประกันรถยนต์ชั้น 1 ดูแลครอบคลุมมากที่สุด คุ้มครองอุบัติเหตุแม้ไม่มีคู่กรณี ต่างจากประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆ ที่ไม่คุ้มครองในส่วนนี้ รวมถึงคุ้มครองแม้รถสูญหาย รถไฟไหม้ และคุ้มครองรถน้ำท่วม สามารถเคลมได้ตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ได้เลือกไว้ สบายใจมากที่สุด