จอดรถไม่กี่นาทีกลับมารถหายไปเสียแล้ว เชื่อว่าใครเจอแบบนี้คงสติหลุดและเกิดความสับสนมากมาย จะตามรถยนต์คืนยังไงดี ? จะต้องแจ้งเรื่องที่ใคร ? ประกันช่วยอะไรได้บ้างไหม ? ซึ่ง Frank จะมาบอกรายละเอียดทุกขั้นตอนที่คุณต้องทำเมื่อรถของคุณสูญหายหือถูกขโมยไป เพื่อสร้างโอกาสให้คุณได้รถแสนรักกลับคืนมาครับ
เมื่อพบว่ารถหายไปสิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องตั้งสติให้ดี แล้วรีบไปแจ้งความยัง สน. ให้ไวที่สุด หายที่ไหนให้ไปยัง สน. พื้นที่รับผิดชอบในเขตนั้น โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบปากคำพร้อมขอข้อมูลเกี่ยวกับรถของคุณ เช่น เลขทะเบียนรถ รุ่นรถ สีรถ สถานที่และเวลาที่รถสูญหาย ตลอดจนของมีค่าที่อยู่บนรถ เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญในการตามหารถหรือจับคนร้ายขโมยรถนั่นเอง ทั้งนี้หากบริเวณจุดเกิดเหตุมีกล้องวงจรปิด ก็จะเป็นข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมที่จะทำให้ตำรวจสามารถตามตัวคนร้ายง่ายขึ้นด้วย ขอย้ำอีกครั้งหากพบว่ารถหายให้รีบแจ้งความทันทีนะครับ เพราะถ้ายิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสได้รถคืนมากที่สุดครับ
หลังจากที่แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว สิ่งที่เราต้องทำต่อไปคือแจ้งเรื่องรถหายกับบริษัทประกันครับ ซึ่งต้องแจ้งทันทีให้ไวที่สุด โดยอาจเตรียมหลักฐานบันทึกประจำวันกับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เป็นข้อมูลประกอบการเคลม ซึ่งประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองรถหายก็จะต้องเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1, 2, และ 2+ เท่านั้นนะครับ ส่วนประกันชั้น 3 และ 3+ จะไม่มีความคุ้มครองนะครับ (แต่ถ้ามีของมีค่าอยู่ในรถประกันทุกประเภทจะไม่คุ้มครองหรือรับผิดชอบนะครับ) เมื่อแจ้งไปยังบริษัทประกันแล้ว ทางบริษัทจะช่วยสืบตามหารถของเรา และถ้าตามคืนไม่ได้ภายใน 30 วัน ทางบริษัทประกันจะเดินเรื่องเคลมเงินเอาประกันให้กับเราตามที่กรมธรรม์ระบุไว้ครับ
หากรถของคุณยังผ่อนไม่หมด ก็ต้องแจ้งไฟแนนซ์ด้วยครับ เพราะไฟแนนซ์ยังเป็นเจ้าของรถอยู่ ดังนั้นเมื่อบริษัทประกันทำเรื่องเคลมเงินเอาประกันเมื่อรถหายคืนมา ทางบริษัทไฟแนนซ์จะเป็นผู้รับประโยชน์ก่อนฝ่ายแรกครับ จากนั้นไฟแนนซ์จะนำเงินจากบริษัทประกันไปคำนวนกับยอดเงินที่เราผ่อนรถไปแล้ว และสรุปผลว่าเราจะต้องผ่อนต่ออีกเท่าไหร่ หรือหากโชคดีหักลบแล้วไม่ต้องผ่อนต่อ ทางไฟแนนซ์ก็จะคืนเงินให้เราที่เป็นผู้รับประโยชน์ลำดับที่สองตามมา ซึ่งเราไม่ต้องผ่อนเงินให้ไฟแนนซ์ต่อแล้วครับ แต่ถ้าเราไม่มีประกันรถ หรือทำประกันชั้น 3, 3 + ไว้ เราจะต้องจ่ายเงินผ่อนรถต่อแม้ว่ารถจะหายไปแล้วครับ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าถ้ารถยังติดไฟแนนซ์อยู่ยิ่งต้องทำประกันเลยนะครับ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงกรณีรถหายนั่นเองครับ
แม้ว่าจะแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไปแล้ว แต่คุณควรเพิ่มโอกาสให้รถแสนรักกลับคืนมาโดยแจ้งไปยังศูนย์ช่วยเหลือ สื่อ หรือโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ช่วยตามหาครับ ซึ่ง Frank ก็นำข้อมูลและช่องทางติดต่อของหน่วยงานที่จะช่วยเหลือคุณได้ดังนี้
- ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สายด่วน โทร 1192
- ข่าวจราจร สวพ. 91 โทร หมายเลข 1644
- ร่วมด้วยช่วยกัน โทร หมายเลข 1677
- จ.ส. 100 โทร หมายเลข 1137
หากการสืบตามหารถหายยังไม่คืบหน้า อย่ารออยู่เฉย ๆ ให้เราพยายามรวบรวมหลักฐานหรือข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อตามสืบตัวคนร้ายได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น ติดต่อขอหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อดูรูปพรรณสัณฐานคนร้าย หรือสอบถามผู้คนบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม เป็นต้น หากได้หลักฐานที่มีประโยชน์แล้ว ให้รีบส่งกับทางเจ้าหน้าที่ครับ
ถ้ารถของคุณไม่มีประกัน ทำประกันชั้น 3 หรือ 3+ ต้องทำใจไว้เลยครับ เพราะคุณจะไม่ได้รับความคุ้มครองหากรถยนต์สูญหาย ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น และคุณยังต้องจ่ายเงินค่าผ่อนรถต่อให้ครบจำนวนหากยังติดไฟแนนซ์อยู่ ต้องหวังพึ่งหลักฐานที่รวบรวมมาและเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตามสืบหารถกลับมาให้ได้ครับ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้รถหายหรือโดนขโมย ซึ่งทำตามได้ดังนี้
ตอนนี้คงรู้แล้วใช่ไหมครับว่าหากรถหายเราจะต้องทำอย่างไรบ้าง ถ้าตั้งสติได้แล้วอย่าสับสน ให้รีบทำตามขั้นตอนที่ Frank แนะนำนะครับ และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคืออย่ามองข้ามการทำประกันรถยนต์นะครับ ซึ่งหากเป็นได้อย่างน้อยก็ควรทำประกัน ชั้น 2, 2+หรือประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้ ยังไงก็อุ่นใจกว่าเพราะมีความคุ้มครองหากรถของคุณหายหรือถูกขโมย และยิ่งเป็นโจรสมัยนี้ที่มีความฉลาดล้ำไม่เหมือนสมัยก่อน มีการทำเป็นขบวนการ รวดเร็ว และไม่ค่อยทิ้งหลักฐานไว้ การตามสืบตามจับก็ยิ่งทำได้ยากขึ้น การมีประกันไว้ก็มีเหมือนความคุ้มครองรถแสนรักของคุณนะครับ