มีหลายคนตั้งประเด็นถกเถียงกันว่า เวลาเกิดอุบัติเหตุรถชนกันขณะเปลี่ยนเลน แบบไหนใครผิดใครถูกกันแน่ จะเป็นรถคันที่เปลี่ยนเลน หรือรถคันหลังที่ขับมาชน แล้วถ้ารถโดนชนสามารถเคลมประกันรถยนต์ได้หรือไม่ วันนี้เราจะมายกตัวอย่างเคสที่พบเจอได้บ่อย บนท้องถนนมาฝากทุกคนกัน
กรณีที่รถเปลี่ยนเลนกะทันหัน แล้วรถเลนข้างๆ วิ่งทางตรงมาชนด้านข้าง ส่วนใหญ่จะถือว่ารถที่กำลังเปลี่ยนเลนเป็นฝ่ายผิด เพราะถือว่าปาดแซงหน้ากะทันหัน ทำให้รถที่วิ่งทางตรงไม่สามารถหยุดรถได้ทัน ทางที่ดีเราควร ใช้สัญญาณไฟเลี้ยวในระยะไม่น้อยกว่า 60 เมตร เพื่อคันหลังจะได้ชะลอความเร็ว หรือให้ทางเราได้
หากเราเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวบอกทาง ไม่ได้เปลี่ยนเลนกะทันหัน และตั้งลำรถเรียบร้อยแล้ว แต่มีรถในเลนวิ่งมาชนท้ายด้วยความเร็วที่เกินกำหนด โดยส่วนใหญ่จะถือว่ารถที่อยู่ทางตรงเป็นฝ่ายผิด
แต่ในบางกรณีที่รถออกมาจากซอย โดยพยายามเปลี่ยนเลนนอกสุดทันที ทำให้รถทางตรงพุ่งเข้ามาชน อาจถือว่ารถที่ออกมาจากซอยเป็นฝ่ายผิด เพราะเป็นการเปลี่ยนเลนกะทันหัน อย่างไรก็ตามเมื่อเราเห็นทางร่วมทางแยกพร้อมๆ กัน ผู้ขับขี่จะต้องให้ทางเอกมีสิทธิ์ใช้ทางก่อน หากทางโทเห็นว่าทางเอกปลอดภัยแล้ว จึงสามารถขับรถไปได้ สามารถอ่านบทความข้อสอบใบขับขี่สำหรับรถยนต์และมอเตอร์ไซค์เพิ่มเติมได้เลย
ทั้งนี้ใครจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูกนั้นจะขึ้นอยู่กับกฎหมายจราจรด้วย เช่น การขับรถเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนด การขับรถเปลี่ยนเลนในระยะกระชั้นชิด หรือเลี้ยวรถโดยไม่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวล่วงหน้า รวมถึงกรณีเมาแล้วขับ ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นการทำผิดกฎจราจร แต่ถ้ามั่นใจว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก็สามารถนำหลักฐานสำคัญมายืนยันกับทางตำรวจได้ ไม่ว่าจะเป็นพยานที่เกิดเหตุ หรือกล้องวงจรปิด เป็นต้น
ทางที่ดีเราควรเคารพกฎจราจรในการขับขี่ นอกจากจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุรถชนที่อาจจะเกิดขึ้นต่อร่างกายและทรัพย์สินแล้ว เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาเจรจากับคู่กรณีด้วย
เมื่อเกิดเหตุรถโดนชน รถชนกัน เราจะสามารถเคลมประกันรถยนต์ได้หรือไม่? คำตอบคือ ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก โดยเบื้องต้นเราสามารถแจ้งเคลมประกันรถยนต์ได้ หลังจากนั้นประกันรถยนต์จะเข้ามาตรวจสอบความเสียหาย ซึ่งการเคลมประกันรถก็จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันนั้นๆ
ให้เจ้าหน้าที่ประกันฝ่ายคู่กรณีจัดการเคลมให้ตามขั้นตอน หรือเราจะเรียกประกันรถของเรามาช่วยเจรจาตกลงก็ได้
ให้ติดต่อกับบริษัทประกันรถยนต์ของเรา ซึ่งจะดำเนินการเคลมรถให้เรา และเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่กรณี
ให้ติดต่อกับบริษัทประกันก่อน เพื่อทำการเคลมประกันให้กับคู่กรณี ส่วนรถของคุณจะเคลมได้หรือไม่? ก็ขึ้นอยู่กับชั้นประกันรถยนต์ของคุณ ซึ่งประกันรถยนต์ชั้น1, ประกันรถยนต์ชั้น2/2+ และประกันรถยนต์ชั้น3+ จะคุ้มครองทั้งรถเราและรถคู่กรณี ยกเว้นประกันรถยนต์ชั้น 3
ถ้าคุณไม่อยากให้อุบัติเหตุเกิดขึ้น หรือไม่อยากเสียเวลาเคลม! ผู้ขับขี่ทุกคนจะต้องมีสติ ไม่ประมาท และเคารพกฎหมายจราจรเสมอ ถือเป็นวิธีที่ป้องกันอุบัติเหตุรถชนได้ดีที่สุด แล้วที่สำคัญอย่าลืมมองหาประกันภัยรถยนต์ เผื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาอย่างน้อยๆ ประกันจะเข้ามาช่วยเคลมให้ จะได้มีคนช่วยเจราจาให้กับคู่กรณีด้วย