สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน กลับมาพบกันใหม่ วันนี้เราอยากจะมาพูดถึงประสบการณ์การใช้รถไฟฟ้า (EV) ในสไตล์ง่ายๆ อย่างแรกในปัจจุบันนี้เรามีรถทั้งแบบ รถยนต์กึ่งไฟฟ้า (Hybrid) และ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เรามาดูกันว่าทั้ง 2 ประเภทนี้ต่างกันยังไงบ้าง
รถกึ่งไฟฟ้า จะแบ่งออกเป็นสองอย่างคือ แบบ Hybrid กับ อีกแบบคือปลั๊กอิน Hybrid ทั้งสองอย่างมีส่วนของการใช้พลังงานไฟฟ้าผสมกับพลังงานน้ำมัน เรามาพูดถึงการใช้งานก่อน รู้สึกว่าการใช้งาน HYBRID นั้นมีความสะดวกสบายต่อการใช้งานจริงเพราะคุณไม่ต้องมานั่งเสียเวลาเสียบปลั๊กชาร์จไฟทิ้งไว้เลย เครื่องยนต์สามารถผลิตกระแสไฟหมุนเวียนได้ตลอดเมื่อเกิดการใช้งานรถก็สตาร์ทรถขับไปได้ ส่วนแบบปลั๊กอินแน่นอนคุณอาจต้องเสียเวลาในการมานั่งเสียบปลั๊กตอนกลางคืน เพื่อชาร์จไฟให้เต็ม ถามว่าจริงๆ แล้วถ้าคุณไม่เสียบปลั๊กชาร์จได้ไหมก็ได้เหมือนกัน
จะเป็นในรูปแบบ HYBRID เหมือนกัน แต่มันก็ดูจะวุ่นวายที่ต้องมานั่งเสียบ แต่จริงๆ ข้อดีของการเสียบก็มีอยู่เพราะทำให้แบตเตอรี่นั้นมีไฟฟ้าเพียงพอที่จะทำให้รถของคุณสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ไม่ต้องใช้น้ำมันเลยแต่ด้วยแบตเตอรี่ของประเภทรถ HYBRID ไม่ใหญ่มาก จึงทำให้ใช้ไฟฟ้าอย่างเดียววิ่งก็ได้เพียง 50 โลเท่านั้น แล้วถ้าคุณอยากประหยัดน้ำมันคุณต้องมานั่งเสียปลั๊กชาร์จทุกวันแต่ใช้ได้แค่ 50 กิโลเท่านั้น บางทีคนเราก็อาจจะไม่สนุกกับการที่ต้องชาร์จทุกวันเพื่อวิ่งได้ 50 กิโลเมตรใช่ไหมละ ถ้าจริงๆ ก็เหมาะกับการใช้งานผสมกันนั่นแหละ คุณต้องมีน้ำมันเชื้อเพลิงตลอดเวลาเพื่อให้มีการผลิตกระแสไฟ แล้วโดยรวมการใช้พลังงานถึงจะลดลง
เมื่อพูดถึงเรื่องการชาร์จ ส่วนต่อมาสิ่งที่อยากจะบอกว่ารถแบบนี้ประหยัดน้ำมันมากไหมเท่าที่จับดูแล้ว ก็แตกต่างประมาณ 5-15% จากค่าใช้จ่ายเดิมที่เคยเจออยู่ การบำรุงรักษาของรถ HYBRID มองแล้วยังเป็นข้อที่มีปัญหาเนื่องจากเหมือนเป็นค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนสองทาง เพราะต้องดูแลทั้งระบบเครื่องยนต์ในการเปลี่ยนของเหลวต่างๆ แถมยังต้องมีอาบุของแบตเตอรี่ที่ต้องเปลี่ยนด้วยเท่ากับเรา ต้องเสียค่าบำรุงถึงสองทางเลย อันนี้เป็นข้อเสียของรถ HYBRID
ส่วนต่อมาคือ รถยนต์ไฟฟ้าล้วนหรือรถ EV โดยรวมถือว่าดีเลย ในเรื่องความเข้าใจว่าเราต้องเสียบปลั๊กชาร์จไฟเพื่อให้รถใช้งานได้ตลอด แต่มีส่วนหนึ่งที่อยากจะพูดถึงสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังจะเลือกซื้อรถ EV แน่นอนว่าทุกบ้านต้องมี Wall Charger ทุกบ้านดังนั้นการเดินสายไฟเพื่อรองรับกับอุปกรณ์นั้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยจะเป็นเรื่องของการปรับมิเตอร์ให้เป็น 30(100) เราต้องไปดำเนินกับการไฟฟ้าเพื่อมาเปลี่ยนมิเตอร์เพื่อเพิ่มแรงไฟเข้าบ้าน แล้วส่วนต่อมาก็คือ เรื่องของการเดินสายไฟ ว่าคุณจะเดินแยกสายหรือจะเดินเข้าไปที่ตู้มิเตอร์เดิม แต่แนะนำว่าถ้าสะดวกจริงๆ เดินแยกสายจะง่ายที่สุดเพราะไม่ต้องไปยุ่งกับเบรกเกอร์และสายไฟในบ้าน
การเดินสายไฟนั้นก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ผู้ซื้อรถ EV ไม่ได้นึกถึงซึ่งค่าเดินสายไฟ มีตั้งแต่ 9,000-20,000 บาท โดยขึ้นอยู่กับระยะสายไฟและช่างติดตั้งแต่ละเจ้า เป็นส่วนที่เราต้องนึกถึงเมื่อจะใช้รถ EV ส่วนเรื่องการซ่อมบำรุงส่วนนี้เป็นส่วนดีเพราะแทบไม่มีค่าบำรุงรักษาเลย แต่พังคือเปลี่ยนได้เลยเช่นมอเตอร์พัง แบตเตอรี่หมดสภาพก็จะเปลี่ยนทีเดียว คุณอาจจะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ที่ค่อนข้างสูงในปัจจุบัน แต่เชื่อว่าในอนาคตถูกลงแน่ถ้ามีผู้ผลิตอะไหล่ทดแทนมากขึ้น
มาพูดถึงเรื่องของการขับขี่บ้างด้วยรถทั้ง HYBRID และ EV นั้น จะมีการขับขี่ที่สนุกมากกว่ารถน้ำมันแน่นอนโดยท่านที่ชอบการขับขี่แบบออกตัวแรงๆ หรือจะเป็นการกระชากในการเหยียบคันเร่ง แน่นอนว่าการที่รถออกตัวแรงมักส่งผลต่อยางทำให้รถกลุ่มนี้ที่มีแรงบิดสูงจะส่งผลต่อการสึกของยางที่มากกว่าปกติ ซึ่งยางที่ออกมาตอบโจทย์กลุ่มรถประเภทนี้ต้องเป็นยางที่ทนต่อการสึกสูง โดยปัจจุบันมียาง EV ออกมาให้เห็นบ้างแล้ว ในไทยอาจจะมีแค่สองยี่ห้อคือ Michelin E Primacy และก็ Hankook S1 EV แต่ก็เชื่อว่ายางที่สำหรับรถ EV จะเข้ามาต่อเนื่องเรื่อยๆ ตามอุปสงค์ของรถ EV ที่เพิ่มมากขึ้นในบ้านเรา
นอกจากเรื่องทนการสึก ยังมีเรื่องของน้ำหนักรถ EV ที่มากกว่าทำให้ยางมีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่า และยางต้องมีการเกาะถนนที่ดีเพราะเนื่องจากเบรกนั้นเป็นระบบไฟฟ้า จึงทำให้ต้องมียางมาช่วยให้ในการหยุดรถ และที่สำคัญที่สุดคือเรื่องแรงต้านทานการหมุนของยางรถ EV นั้นต้องเป็นยางที่มีแรงต้านทานการหมุนที่ต่ำเพื่อให้สอดคล้องกับการประหยัดพลังงานของรถคุณ อีกไม่นานเราก็จะเพิ่มเติมยางในกลุ่มนี้ขึ้นมาเพื่อให้ตอบโจทย์เพื่อนๆ ที่ใช้รถ EV กันแน่นอน
สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการเช็คยางใหม่เปลี่ยนยางใหม่ สามารถเข้ามาเช็กได้ที่เว็บไซต์จอง Tiresbid แพลตฟอร์มจำหน่ายยางรถยนต์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย หรือหากเพื่อนๆมีข้อสงสัยไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนดีและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ https://tiresbid.com/home ได้เลย มีแบรนด์สินค้าคุณภาพให้เลือกมากที่สุดรวม 18 ยี่ห้อชั้นนำ และกว่า 80 รุ่นยอดนิยม และเพื่อนๆสามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ครอบคลุมการใช้งาน หรือติดต่อผ่าน Line OA: @tiresbid (เติม@ด้วยนะ) เราเป็นตัวกลางยางมืออาชีพโปรโมชั่นยางรถพิเศษไทร์บิดมากมาย ให้บริการครบทุกรูปแบบ จุดบริการร้านยางใกล้บ้าน, เปลี่ยนยางถึงบ้าน และจัดส่งทั่วไทย Fast service ทุกรูปแบบรับบริการนัดหมายล่วงหน้า ใช้เวลาเพียง 1 ชม.ในการรับบริการติดตั้งเปลี่ยนยาง
เชื่อมต่อ กับพวกเรา
