วันทะเลโลกของทุกปีคือวันที่ 8 มิ.ย. หรือ World Ocean Day นั้น Frank ว่าหลายคนอาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อน ในฐานะที่มหาสุมทรหรือทะเลนั้นเป็นบ้านเกิดของ Frank และตอนนี้สภาพของทะเลได้เปลี่ยนไปเยอะมาก...กโดยเฉพาะจากขยะพลาสติกที่เกิดจากพวกเราทุกคนนั้นมีความน่ากลัวในระยะยาวมากกว่าที่คิด Frank จึงตั้งใจเล่าเรื่องนี้เพื่อให้เพื่อนๆ เข้าใจถึงอันตรายจากพลาสติกที่เราเห็นจนชินในชีวิตประจำวันว่ามันย้อนกลับมาทำให้เกิดอะไรบ้าง?
เราหลายคนเกิดมาอาจะเห็นพลาสติกกันอย่างเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วตั้งแต่ยุค Baby Boomer (ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2) เป็นต้นมา ในความเป็นจริงแล้วที่มาของพลาสติกนั้นน่าสนใจมากเลยนะครับพลาสติกชนิดแรกในโลกของเรานั้นเกิดด้วยความบังเอิญจากการทำแผลที่นิ้วของช่างไม้ชาวอเมริกาคนหนึ่งชื่อว่า จอห์น เวสลีย์ ไฮเอตต์ (John Wesley Hyatt) ในปี ค.ศ.1863 ที่กำลังทำการทดลองค้นหาวัสดุที่ใช้แทน งาช้าง ในการผลิตลูกบิลเลียดตั้งแต่เมื่อ 200 กว่าปีที่ผ่านมาเพื่อชิงเงินรางวัล 10,000 USD ทำให้เกิด “เซลลูลอยด์ (celluloid)” ขึ้นมา
หลังจากนั้นได้มีการค้นคว้าต่อจนโดยนักเคมีที่ชื่อ นายลีโอ เบคแลนด์ (Leo Baekeland) จึงได้ค้นพบ “เบคเคอไลต์ (Bekelite)” เป็นพลาสติกสังเคราะห์ชนิดแรกของโลกขึ้นจึงเข้าสู่ยุค "the material of a thousand uses" ที่เป็นต้นกำเนิดของวัสดุมหัศจรรย์ที่สามารถผลิตให้คนเป็นพันๆ คนได้ใช้งานในราคาที่ถูกมาก และได้รับการพัฒนาต่อเนื่องจนกลายเป็น ไนลอน (Nylon) ไวนิล (Vinyl) หรืออะคริลิก (Acrylic) ที่เกิดจากขั้นตอนการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมในปัจจุบัน
หลังจากรู้จักที่มาของพลาสติกและที่มาว่าทำไมถึงถูกใช้อย่างกว้างขวางทั่วโลกแล้ว ก็ควรรู้จักอันตรายที่เกิดขึ้นได้จากการใช้พลาสติกด้วยว่า ถ้าเราใช้แบบไม่บันยะบันยังจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคตอันใกล้นี้
1.ขยะพลาสติกล้นโลก ทั้งโฟม (ที่เกิดจากพลาสติกที่ฟูหรือขยายตัวขณะขึ้นรูปโดยใช้ก๊าซ) ที่เราใช้เป็นกล่องใส่อาหารและถุงพลาสติกที่เราได้ทุดครั้งที่ไปซื้อของแล้ว ขยะพวกนี้ใช้เวลาย่อยสลายนานมาก…..กอาจจะถึงขั้นเป็นร้อยปีกว่าจะสลายหมด ที่น่าสนใจคือ การเผาขยะพลาสติกทำให้เกิดสารพิษและสารก่อมะเร็งอีกต่างหากครับ
2.ท่อน้ำอุดตัน เป็นตังอย่างที่เราคงเห็นภาพกันชัดเจนมากอยู่แล้วเมื่อเราขับรถตอนฝนตกหนักและเกิดน้ำรอระบายสูง (บางพื้นที่ถึงขึ้นรอระบายนานข้ามวัน = น้ำท่วมนั่นเอง) หรือหลังจากน้ำท่วมลดลงเราจะเจอกับกองขยะขนาดมหึมาและสาเหตุหลักของมันก็คือ ขยะพลาสติกที่เราทิ้งกันหรือปลิวจากรถลงไปที่อุตตันตามท่อระบายน้ำนั่นเองครับ
3.อันตรายต่อการย่อยอาหารของสัตว์ วันทะเลโลกทั้งทีเราควรหันกลับมาดูแลทะเลกันบ้างนะครับ เรื่องการปนเปื้อนของพลาสติกในทะเลส่งผลต่อสัตว์ทะเลเป็นอย่างมากโดยเฉพาะ ปลาและเต่าทะเลที่กินเข้าไปเพราะคิดว่าถุงพลาสติกคือแพลงตอนหรือแมงกระพรุนและทำให้มันตายเพราะย่อยไม่ได้ในที่สุด และยังย้อนกลับมาในอาหารทะเลที่เรากินเข้าไปและทำให้เราเกิดโรคร้าย เช่น มะเร็งได้ครับ
4.ภาวะโลกร้อน การกำจัดขยะพลาสติกนั้นทำได้แบบฝังกลบซึ่งก็ใช้เวลาเป็นร้อยปี หรือจะเผาทำลายที่เราสามารถทำให้เกิดพลังงานความร้อนเอามาผลิตกระแสไฟฟ้าได้แต่ก็ทำให้เกิดก๊าซพิษทำให้เป็นมะเร็งและสารเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อนได้เช่นกัน ทางเลือกสุดท้ายที่ดูดีสุดคือ การเอากลับมาใช้ใหม่หรือ Recycle นั่นเองแต่จะไม่เกิดประโยชน์เลยถ้าเรายังจำกัดปริมาณการใช้ใหม่ไม่ได้
เป็นเม็ดพลาสติกขนาดเล็กมากที่เราเห็นได้ในยาสีฟัน โฟมล้างหน้า หรือสครับขัดผิวต่างๆ ที่ต้องการทำให้เกิดความแตกต่างทางการตลาดนั่นเอง พลาสติกขนาดเล็กเหล่านี้ไม่ละลายน้ำและเมื่อไหลลงท่อน้ำทิ้งก็สามารถแพรากระจายสู่ท้องทะเลได้เลย
ด้วยขนาดที่เล็กมากและลอยอยู่ในน้ำ ปลาหรือสัตว์ทะเลก็จะกินมันเข้าไปเพราะคิดว่านั่นคือแพลงตอนทำให้เกิดพลาสติกสะสมเข้าสู่สัตยว์ทะเลและเมื่อพวกมันถูกจับมาเป็นอาหารให้เรา เราก้ได้กินเม็ดพลาสติกเหล่านี้ต่ออีกทีเช่นกัน อร่อยเชียวครับ
การลดใช้พลาสติกที่ง่ายที่สุดเริ่มจากตัวเราก่อนเลยครับ ในชีวิตประจำวันของเราถ้าเราลองเริ่มจาก
-ไม่รับถุงพลาสติก เมื่อซื้อของน้อยชิ้นและถ้าของที่ซื้อถือง่ายหรือใส่กระเป๋าเราได้ลองไม่รับถุงพลาสติกดูซิครับ 1 คนก็ลดไปได้ 1 ใบแล้ว
-การพกถุงผ้า เพราะถุงผ้าเราสามารถซักทำความสะอาดแล้วเอามาใช้ซ้ำได้จนกว่าถุงขาดเลยครับ ใบเดียวใช้คุ้มมาก และผ้ายังมีความหนากว่าทำให้เราใส่ของที่มีน้ำหนักมากไม่ต้องกังวลว่าถุงจะขาดด้วย
-พกกล่องข้าวแทนการใช้กล่องโฟม เอาแค่ข้าวกลางวันก่อนก็ได้ครับ เอากล่องข้าวไปทิ้งไว้ที่ทำงาน แล้วเวลากินข้าวกลางวันเราก็เอากล่องข้าวลงไปซื้อแทนกล่องโฟม ดูดี ดูคูล ดูรักโลกมากฮะ รับรองสาวมองเหลียวหลังแน่นอน
-ใช้กระบอกใส่น้ำลดการซื้อน้ำขวด ถ่้าเราสามารถพกกระบอกน้ำแล้วไปเติมน้ำเองได้จัดไปเลยครับ นอกจากมันประหยัดเงินไม่ต้องไปซื้อน้ำดื่มวันละหลายขวดแล้ว ไม่ก่อให้เกิดขยะด้วยนะครับ
-ใช้แก้วกาแฟแบบเก็บความร้อน แทนการใช้แก้วกระดาษหรือแก้วพลาสติกนอกจากเก็บอุณหภูมิของกาแฟได้นานกว่าแล้ว ยังทำให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้นด้วยเพราะเราฝาแก้วที่ปิดสนิทป้องกันฝากาแฟหลุด กาแฟหก ในบางร้านได้จัดโปรโมชั่นส่วนลดสำหรับคนที่นำแก้วมาเองอีกด้วยนะครับ แหม...คุ้มอ่ะ 3 ต่อเลย
-เลิกใช้หลอดดูดน้ำ อาจจะยากหน่อยสำหรับบ้านเราที่เคยชินกับการใช้หลอดดูดน้ำกันมายาวนาน แต่ในบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่นไม่มีการใช้หลอดดูดน้ำกันเลยนะครับ เพราะหลอดดูดน้ำนั้นเป็นขยะที่สัตว์ทะเลมักจะกินเข้าไปครับ
-ใช้เกลือป่นเป็นสครับธรรมชาติ แทนการใช้ Microbeads นอกจากได้ประโยชน์จากการทำสครับผิวอย่างแท้จริงแล้ว เกลือก็จะละลายน้ำไปไม่ตกค้างอยู่ในทะเลด้วย
-เลือกของใช้ในบ้านที่บรรจุภัณฑ์เป็นชนิดเติม เพื่อช่วยลดปริมาณพลาสติกที่จะถูกใช้ลงได้และเรายังซื้อได้ในราคาที่ถูกลงด้วยอีกต่างหาก
เรื่องขับรถแบบนี้ถือเป็นทักษะขั้นสูงเลยนะครับ ไม่ใช่ใครๆ ก็ทำได้เพราะต้องอาศัยความชำนาญในการขับขี่และใจรักในการลดขยะ Frank ขอท้าเลยครับ ใครมีทักษะขั้นสูงแล้ว จัดไปตามนี้ได้เลยครับ
1.เลิกใช้หลอดดูดน้ำ ดื่มสวยๆ หล่อๆ เท่ๆ จากภาชนะที่สะอาดโดยตรง
2.พกกระบอกใส่น้ำติดรถไว้ แทนการมีขวดน้ำพลาสติกหลายๆ ใบ
3.มีถุงผ้าใส่ของติดรถไว้เลย จะได้ไม่ต้องใช้พลาสติกให้เป็นการเพิ่มขยะให้โลก
4.ซื้อของออนไลน์ แบบที่เราได้รับเอกสารเป็นอีเมล์ ช่วยลดขยะจากการใช้กระดาษได้อีกด้วย เช่น ซื้อประกันออนไลน์จาก Frank ทั้งช่วยโลก ประหยัดเงิน และประหยัดเวลา 3 ต่อ win-win-win จริงๆ เชียว
ใครเริ่มทำวิธีไหนกันบ้างแล้ว มาแชร์ผลลัพธ์ให้ฟังด้วยนะครับ?
Frank เริ่มจากพกถุงผ้าติดกระเป๋าตอนไปซื้อของรู้สึกดีมาก...ก ลดถุงพลาสติกไปได้หลายสิบใบ ตอนนี้เริ่มพกกล่องข้าวไปซื้อข้าวเช้ากับกลางวันแม่ค้ามองงงๆ แต่เรารู้สึกดีนะครับว่าวันนี้ไม่ได้ก่อขยะโฟมเลย
Frank ลดขยะ ลดการใช้พลาสติก และรักทะเลยิ่งชีพ