ในช่วงฤดูหนาวอากาศเย็นสบายๆ ถือเป็นช่วงที่เหมาะกับการเดินทางไม่น้อยกว่าช่วงสงกรานต์ คนส่วนใหญ่จะใช้รถยนต์ส่วนตัวขับเที่ยวมากที่สุด และยางรถยนต์ก็เป็นส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คุณควรตรวจเช็คสภาพยางรถก่อนออกเดินทาง แต่หากไม่สะดวกแนะนำเข้าร้านยางมาตรฐานที่ครบวงจรใกล้บ้านตรวจสภาพได้เลย วันนี้เราจึงอยากมาบอกวิธีทำอย่างไรให้ลดอัตราการเกิดยางระเบิด และมีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง
กรณีที่ 1 แน่นอนว่าปัญหายางระเบิดนั้น ก็มีโอกาสเกิดจากปัญหาของโครงยางที่ไม่แข็งแรง ซึ่งยางรถทุกเส้นเปรียบเสมือนลูกโป่ง มีหน้าที่กักเก็บลมให้อยู่ในท้องยาง ลมจะทำหน้าที่พลักดันหาทางออกจากยางไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง นอกจากทางจุ๊บลมที่ลมจะออกได้แล้วคือ ผิวของชั้นยางเป็นส่วนหนึ่งที่ลมจะสามารถซึมผ่านไปได้ หากโครงยางของเรากักเก็บลมเป็นเวลานานๆ จะทรงผลต่อความแข็งแรงในการเก็บกักลม อายุของโครงยางในช่วงปลอดภัยคือหลังติดตั้งไม่เกิน 5 ปี (ในกรณีที่เป็นแบรนด์ชั้นนำและได้รับมอก.) ในช่วงนี้จะเป็นช่วงระยะปลอดภัย ถ้าเพื่อนๆ จำไม่ได้ว่าติดตั้งเมื่อไหร่ก็ให้ดูที่ปีผลิตยางครับ โดยส่วนมากจะไม่ค่อยได้ยางตกปีสักเท่าไหร่ เราก็นับปีนั้นเป็นปีแรกในการใช้งานแล้วก็บวก 5 ปี การตรวจสอบนี้จะช่วยทำให้ลดปัญหาการระเบิดของยางรถเมื่อใช้งานวิ่งทางไกลได้
กรณีที่ 2 ก็คือเรื่องของลมยาง ปกติจะมีทั้งกรณีที่เติมลมน้อยเกินไปและมากเกินไป กรณีเติมลมน้อยเกินไปไม่สัมพันธ์กับน้ำหนักและใช้รถวิ่งทางไกลจะทำให้ยางนั้นมีความร้อนและส่งผลให้ขนาดของลมยางนั้นขยายตัวขึ้น หากวิ่งทางไกลมาก เข้าโค้งมากๆ หรือว่าจะเป็นขึ้นเขาทางชันมากๆ จะส่งผลต่อความร้อนมากอาจจะส่งผลให้ยางระเบิดเสียหายได้ ส่วนอีกกรณีหนึ่งกรณีที่เติมลมยางสูงเกินไป ส่วนมากจะทำให้เกิดโอกาสเสี่ยงที่ยางจะระเบิดเมื่อเกิดจากกระแทก เราคิดเปรียบเทียบเมื่อเราเติมลมยางลูกโป่งเยอะมากๆ ลูกโป่งจะเปร่งมากหากมีการกระแทกก็ยิ่งส่งผลให้ยางแตกเสียหายมากยิ่งขึ้นไปอีก ฉะนั้นการเติมลมควรสัมพันธ์ให้พอดีกับไซส์ยาง และการรับน้ำหนักของรถคันนั้นๆ
กรณีที่ 3 คือกรณีที่เราลดโอกาสการยางระเบิดโดยใช้เการเติมลมไนโตรเจน เนื่องจากลมไนโตรเจนจะมีลักษณะก๊าซเฉื่อยมีการขยายตัวที่น้อย เมื่อรถของเพื่อนๆ วิ่งทางไกลเป็นระยะยาวจะส่งผลต่อหน้ายางเพิ่มความร้อนในตัว แต่ลมไนโตรเจนจะทำให้มีการขยายตัวของลมยางที่น้อยกว่า จะเป็นตัวช่วยในการลดโอกาสเสี่ยงที่ทำให้แรงดันลมสูงเกินไปอาจทำให้ยางแตกเสียหายได้
กรณีสุดท้าย ที่อยากจะพูดถึงก็คือเรื่องสภาพของยาง โดยปกติแล้วยางที่พร้อมจะระเบิดคือยางที่บวมหรือมีสิ่งของมีคมบาดตำคาไว้อยู่ เรามาพูดถึงการที่ยางบวมก่อน กรณียางบวมนั้นเกิดได้จากสาเหตุหลักคือโครงยางด้านในหักและทำการแยกตัวออกจากเนื้อยาง ทำให้มีช่องว่าระหว่างโครงยางและเนื้อยางด้านนอกส่งผลให้ยางบวมขึ้นมา การที่โครงยางจะหักหรือเสียหายนั้นต้องดูกระแทกมาแน่นอนหรือไปเบียดมา เพราะฉะนั้นเมื่อท่านเกิดเหตุให้สังเกตอาการของยางท่านว่ามีอาการบวมหรือเปล่า มีอาการลมซึมหรือเปล่า ซึ่งก่อนออกเดินทางก็ตรวจเพื่อความมั่นใจเพราะยางบวมนี้คือ ฉนวนระเบิดที่พร้อมที่จุดขึ้นมาทำให้ยางระเบิดได้เช่นกัน
ซึ่งจะเป็น 4 หัวข้อหลักที่เป็นสาเหตุให้ยางระเบิด โดยเราสามารถตรวจสอบและคอยดูแลยางรถของท่านเองก่อนออกเดินทาง ทางออกฉุกเฉินแน่นอนมี 2 วิธี 1 คือมียางอะไหล่ สำหรับคนที่มียางอะไหล่แนะนำว่าควรที่จะเช็กลมด้วย เพราะหลายท่านมียางอะไหล่แต่ลมอ่อนพอฉุกเฉินก็ใช้งานไม่ได้ อีกอย่างคือเครื่องเติมลมฉุกเฉินก็ควรมีติดรถเอาไว้เพราะไม่ว่ายางรั่วหรือยางลมอ่อนเราก็สามารถใช้ได้เลย และปัจจุบันเรามีตัวซ่อมยางฉุกเฉินสามารถใช้ได้เหมือนกัน ทางสุดท้ายที่สำหรับผู้หญิงที่ทำงานแก้ไขเปลี่ยนยางอะไหล่ หรือซ่อมฉุกเฉินไม่ได้ ต้องมีเบอร์โทร Emergency ไว้ แต่ละประกันมีบริการอาจจะเป็นบริการควบรวมในประกัน หรือเป็นบริการเสริมส่งรถสไลด์มารับไปร้านยางใกล้ที่สุด ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน
หากเพื่อนๆ ไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนและช็อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ https://tiresbid.com/home ได้เลย มีแบรนด์สินค้าคุณภาพให้เลือกมากที่สุด และเพื่อนๆ สามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดในประเทศ สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการสอบถามได้ยางที่เหมาะสมที่สุดผ่านทาง Line OA: @tiresbid (เติม@ด้วยนะ) พร้อมรับโปรโมชั่นยางรถพิเศษไทร์บิดมากมาย ให้บริการครบทุกรูปแบบ จุดบริการร้านยาง เปลี่ยนถึงบ้าน จัดส่ง Fast service ทุกรูปแบบการรับบริการนัดหมายล่วงหน้า ใช้เวลาเพียง 1 ชม.ในการรับบริการติดตั้งเปลี่ยนยาง ให้เรื่องยางรถของคุณง่ายยิ่งขึ้น
เชื่อมต่อ กับพวกเรา
