เเฟรงค์เชื่อว่าสาว ๆ ทุกคนจะต้องแต่งหน้าให้เป๊ะให้ปังก่อนออกจากบ้านอยู่แล้ว แต่ในสถาการณ์เร่งรีบบางครั้ง เราก็มีเวลาแต่งหน้าที่แสนจำกัดอยู่ดี หากจำเป็นต้องแต่งหน้าบนรถจริง ๆ วันนี้เพนกวินเเฟรงค์ขอเล่าทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการแต่งหน้าบนรถมาฝากทุกคนกันด้วย สำหรับใครที่กลัวว่าจะแต่งหน้าไม่ทัน คราวนี้แหละ!! คุณจะต้องสวยทันใจอย่างแน่นอน แต่ต้องระมัดระวังทุกครั้งที่แต่งหน้าบนรถนะครับ
อย่างแรกเลย กับวิธีแต่งหน้าง่าย ๆ ถ้าคุณอยู่ในช่วงเวลาจำกัด แนะนำให้เลือกใช้รองพื้นแบบตลับหรือคุชชั่นดีกว่า จะเป็นรองพื้นแบบใหม่ที่พกพาง่าย แต่งหน้าสะดวก และรวดเร็ว แถมยังปกปิดริ้วรอยต่าง ๆ ได้ดีเลยล่ะ เพียงแค่คุณเลือกใช้คุชชั่นที่เหมาะสมกับสภาพสีผิวของคุณ โดยใช้พัฟฟ์กดที่ฟองน้ำในตลับแล้วทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า หลังจากนั้นก็ค่อยใช้แป้งพัฟตบเบาๆ เพื่อให้ใบหน้าของคุณเนียนใสมากขึ้น เหมือนสาวเกาหลีเลยแหละ
แนะนำ : ให้คุณเตรียมคุชชั่นพร้อมใช้งาน จะได้ไม่ต้องคอยห่วงเวลาแต่งหน้า สำหรับสาวโชว์เฟอร์ควรจับฟองน้ำให้ดีอย่าให้ร่วงล่ะ เพราะถ้าเผลอทำร่วง มัวแต่ก้มหา อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
เพราะความสวยมันรอไม่ได้ !!! ต่อมาเราก็ต้องแต่งตากันบ้าง เริ่มจากหยิบอายแชโดว์มาทาบนเปลือกตาของคุณ โบกให้สวยเก๋โดดเด้งด้วยอายแชโดว์ที่มีสองสีหรือสามสีในตลับเดียวกัน จะช่วยทำให้คุณแต่งดวงตาง่ายขึ้น หรือจะใช้อายเเชโดว์แบบสำเร็จรูปก็มีนะ เพียงแค่แปะ แล้วเกลี่ยก็สวยได้ในเวลาไม่ถึง 1 นาที อันนี้เราสามารถเลือกสีสันได้ตามใจชอบเลย
อย่างไรก้ดี แต่ไม่แนะนำให้ใช้อายไลเนอร์แต่งหน้าบนรถนะ เพราะเคยมีข่าวเหตุการณ์หญิงสาวเขียนอายไลน์เนอร์บนรถแท็กซี่ แล้วดันโดนชนท้ายจึงทำให้อายไลเนอร์ปักเข้าตาเต็ม ๆ จนได้รับบาดเจ็บหนัก บรื้อ !! แฟรงค์ว่า เราควรแต่งตาที่บ้าน หรือหาที่จอดรถในโซนปลอดภัยดีกว่า ส่วนถ้าจะปัดมาสคาร่าบนรถด้วย ก็ลืมไปเลย เพราะอันตรายเช่นกัน
เมื่อคุณแต่งดวงตาให้สวย ให้เป๊ะด้วยขั้นตอนแต่งหน้าง่ายๆ แล้ว ก็ต้องใช้ที่ปัดแก้มให้อมชมพูกันสักหน่อย! แต่ถ้าอยากให้ออกมาดูดีขึ้น ก็ควรเลือกใช้สีบลัชออนที่เหมาะกับผิวของคุณด้วย จะช่วยทำให้ผิวดูสว่างและกลมกลืนมากขึ้น
สาวผิวขาว : เลือกใช้สีบลัชออนโทนชมพูนู้ด สีส้มอ่อน สีพีช จะช่วยปรับใบหน้าไม่ให้ดูหมองและแดงจนเกินไป
สาวผิวเหลือง : แนะนำให้เลือกบลัชออนสีโทนชมพูกุหลาบ สีชมพูพีช หรือสีส้มอ่อน เพียงแค่นี้ก็ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
สาวผิวเข้ม : สำหรับสาวๆ ที่มีผิวโทนเข้ม สามารถใช้สีน้ำตาลให้ดูธรรมชาติได้ หรือจะใช้สีส้มพีชก็เข้ากับสาวผิวเข้มได้ดีเลยนะ
สำหรับคนนั่งข้าง ๆ หรือผู้โดยสารที่ต้องการแต่งหน้าก็ไม่น่ากังวลเท่าไหร่ครับ แต่ถ้าสาวโชว์เฟอร์นั้นต้องการปัดแก้มแต่งหน้าบนรถนั้น คุณจะต้องเล็งให้ดี จับให้แม่น หากมองไม่เห็นกระจก หรือไม่เซียนก็รอให้รถติดไฟแดงก่อนค่อยปัดนะคุณ ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน เพราะแก้มของคุณอาจจะได้สีสันที่เข้มเกินราวกับคำว่า “ปัดไปก่อนเดี๋ยวอ่อนเอง” อิอิ
เพราะว่าคิ้วเป็นมงกุฎของใบหน้าและดวงตา อย่าลืมเสริมคิ้วของคุณเด็ดขาด มิเช่นนั้นคุณจะดูไม่มีชีวิตชีวา แนะนำให้เขียนคิ้วบางๆ อย่าเขียนเข้มจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้คิ้วดูไม่เป็นธรรมชาติ แล้วพยายามอย่าเลือกสีคิ้วให้เหมาะกับสีผมของคุณด้วยนะ
** แต่ข้อควรระวังอย่าใช้ดินสอเขียนคิ้วเเหลมคมแต่งหน้าบนรถ เพราะขณะอยู่ในรถอาจเกิดอันตรายได้ แนะนำให้ใช้เป็นที่เขียวคิ้วแบบฝุ่นดีกว่า ก็อลังการไม่แพ้กัน แถมยังปลอดภัยขณะแต่งหน้าในรถด้วย หรือจะลองสักคิ้วธรรมชาติแบบถาวรไปเลยจะได้ไม่เสียเวลาแต่งหน้า
สุดท้ายแล้ววิธีแต่งหน้าง่าย ๆ ก็อย่าลืมเติมสีปากกันสักหน่อย เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้คุณไม่ดูป่วยยังไงล่ะ หลังจากทาลิปสติกกันแล้ว ก็ค่อยๆ ใช้นิ้วแตะเกลี่ยให้ทั่วริมฝีปาก มันจะช่วยปรับให้ปากของคุณดูเป็นธรรมชาติ สวยใสเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น ในส่วนทริคการทาปากนั้น เช่นเดียวกับการปัดแก้มเลยครับ
อันนี้เป็นทริปที่แฟรงค์แอบดูสาว ๆ แต่งหน้ามานะครับ อิอิ หากคุณสาว ๆ ถนัดขวาให้เริ่มทาลิปสติกจากริมฝีปากบนด้านซ้าย และเติมริมฝีปากล่างจากด้านขวากลับไปทางซ้าย ราวกับวาดเป็นวงกลมจะทำให้การทาปากนั้น Easy ขึ้น
ส่วนใครถนัดซ้ายก็บรรจงทาปากจากริมฝีปากบนด้านขวาบรรจงลากตามเรียวปากของคุณ ตามด้วยริมฝีปากด้านซ้าย เอาเป็นว่า แนะนำการทาลิปสติกแบบเบสิกก่อนนะครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ถ่ายรูปใบขับขี่ยังไง ไม่ให้ดูป่วย
เป็นยังไงล่ะ? กับวิธีแต่งหน้าง่าย ๆ บนรถในชั่วโมงเร่งด่วน เพียงแค่เรารู้เทคนิคในการแต่งหน้า ก็สามารถช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้มากขึ้น แต่สำหรับการแต่งหน้าบนรถคุณก็จะต้องอาศัยความระมัดระวังกันด้วยนะ หากโชว์เฟอร์สาวคนไหนไม่เซียนแนะนำว่า อย่าประมาทเลยครับ ให้จอดรถในที่ปลอดภัยก่อน หรือทางที่ดีเราควรเผื่อเวลาเตรียมตัวไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่ต้องรีบ แถมยังมีเวลาแต่งหน้าให้เป๊ะกว่าเดิมด้วย
แต่ถ้าอยากให้อุ่นใจขณะขับรถ ก็อย่าลืมซื้อประกันรถยนต์กับ frank.co.th ให้ช่วยดูแลคุณและรถของคุณกันด้วยนะ อย่างน้อยเวลาเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน จะได้มีคนคอยช่วยเหลือ และเเบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถ ไม่ต้องควักเงินจ่ายเองยังไงล่ะ หรือถ้าเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินคุณก็จะได้อุ่นใจมากขึ้น หมดห่วงกันไปได้เลย