เช็คลิสดูว่าประกันรถยนต์ที่เราซื้ออยู่คุ้มค่ารึเปล่า?

อ่านเร็วๆ

ความคุ้มค่าของแต่ละคนอาจจะมีนิยามที่ไม่เหมือนกัน เช่น ราคาดีที่สุด งานซ่อมเสร็จเร็วสุด งานซ่อมมีคุณภาพสุด หรือแม้แต่บริการที่เราประทับใจมากที่สุด แต่สำหรับ Frank แล้วการเลือกประกันรถให้ตรงกับการใช้งานน่าจะเหมาะสมที่สุด
วันนี้เรามีเครื่องมือให้มาลอง Check list กันครับ  จาก Check list นี้ เราสามารถตรวจดูแบบง่ายๆ ก่อนการตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ดูว่า เราได้เลือกประกันที่คุ้มค่าที่สุดและประหยัดสุดๆสำหรับเราแล้วหรือยัง? ขั้นตอนนี้เราสามารถนำไปประยุกต์ในการทำ Check list อื่นๆ ที่ช่วยในการตัดสินใจได้ด้วยนะครับ

1.เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย

มาเริ่มด้วยการแบ่งหน้ากระดาษออกเป็น 2 ส่วนก่อนเลยครับ ซีกหนึ่งเขียนข้อดีหรือความครอบคลุมของความคุ้มครองที่เราต้องการ และอีกซีกหนึ่งเขียนความคุ้มครองที่เราได้รับจากประกันรถยนต์ที่เราใช้อยู่
ดูว่าตรงตามความต้องการใช้งานของเรามาก-น้อยเพียงใด ขอย้ำนะครับว่าต้องเลือกตามความต้องการใช้งาน เช่น ถ้าเราขับรถมาหลายปีแล้วไม่มีแจ้งเคลมอุบัติเหตุในปีที่ผ่านมา เส้นทางที่เราใช้ก็เป็นเส้นทางเดิมๆ ไม่ค่อยได้ขับรถทางไกลซักเท่าไหร่
เดิมเราต่อประกันชั้น 1 อยู่ทุกปี บางทีในปีนี้เราสามารถเลือกเป็นประกันชั้น 1 แบบมี Deductible ซึ่งก็คือค่าชดเชยความเสียหายส่วนแรกเมื่อเราเป็นฝ่ายผิดเท่านั้นก็ได้ (อ่านเพิ่มเกี่ยวกับศัพท์ประกันรถยนต์ได้นะครับ) เพราะจะทำให้เราประหยัดค่าต่อประกันรถไปได้เยอะเลยครับ
หรือถ้ามั่นใจในสกิลการขับรถของตัวเองแล้วล่ะก็ เราสามารถเลือกต่อประกันชั้น 2+ ได้นะครับประหยัดได้เยอะมาก....ก แต่ต้องมั่นใจในทักษะการขับขี่มากพอสมควรเลยนะครับ

เพราะการทำประกันรถยนต์คือ การซื้อความคุ้มครองในอนาคตที่เราคาดเดาไม่ได้หรอกครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

2.หาข้อมูลเรื่องการเคลมไว้

อีกเรื่องที่เราอยากแนะนำเป็นอย่างยิ่งเลย คือ เรื่องการแจ้งเคลมนี่ล่ะครับ ลองค้นหาข้อมูลต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นการถามเพื่อน ถามแฟนให้ข้อมูลแน่นก่อนว่า การแจ้งเคลมยุ่งยากแค่ไหน? ต้องรองานซ่อมเป็นเดือนๆ ไหม? งานซ่อมได้คุณภาพไหม?
เพราะมีหลายเจ้าเลยครับที่ราคาถู้ก..กถูกตอนต่อประกันรถยนต์ แต่เวลาเคลมนี่...เล่นเอาเข็ดเลยครับ กว่าจะได้คิวซ่อมรอไปอีก 2 เดือน ไปซ่อมที่นึงแต่ดันได้แผลเพิ่มมาอีกที่ เซ็งสิครับ ต้องไปแก้งานซ่อมกันอีกที เสียเวลารอไปอีกรอบ ดังนั้นการเลือกต่อประกันที่เรามั่นใจในคุณภาพงานซ่อมด้วย จะคุ้มค่ามากกว่านะครับ

3.เรื่องความคุ้มครองเพิ่มเติมต่างๆ

เช่น คุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เมื่อเราเดินทางไปเจอภัยธรรมชาติเข้า เราเคลมความเสียหายที่เกิดขึ้นได้หรือเปล่า? ความคุ้มครองทรัพย์สินส่วนตัวในรถ  หรือจะเป็นความคุ้มครองชดเชยรายได้รายวัน ตอนนี้ประกันรถยนต์ก็มีให้เลือกเพิ่มเติมแล้วนะครับ
คุ้มครองความเสียหายจากการก่อการร้าย เช่นเหตุการณ์ความไม่สงบแถวแยกราชประสงค์ที่ผ่านมาถ้าบังเอิญว่ารถของเราไปเจอเหตุการณ์เข้าพอดี ประกันรถที่เราต่ออายุไว้ให้ความคุ้มครองในส่วนนี้ด้วยหรือเปล่า?
หรือแม้กระทั่งความคุ้มครองชดเชยปลอบขวัญเมื่อเราไม่ได้เป็นฝ่ายผิด เรายังได้รับความคุ้มครองในส่วนนี้เพิ่มเข้าไปด้วย เพราะการทำประกันรถยนต์คือการซื้อความคุ้มครองในอนาคตที่เราคาดเดาไม่ได้ ดังนั้นเลือกตามสิ่งที่เราต้องการที่สุดจึงถือว่าเป็นการเลือกซื้อประกันที่คุ้มค่าที่สุดนะครับ
Frank อยากให้เพื่อนๆ ทุกคนเข้าใจการเลือกต่อประกันรถยนต์อย่างคุ้มค่าที่สุด ในภาษาที่เข้าใจได้ง่าย เพราะเราต้องต่อประกันรถกันอยู่แล้วทุกๆ ปี แล้วทำไมไม่เลือกที่เราคุ้มที่สุดล่ะครับ สนใจอยากตรวจดูค่าเบี้ยประกันรถยนต์ของเราได้เลยครับ