หากใครที่กำลังจะซื้อขายรถยนต์มืองสอง หรือซื้อขายรถตัวเอง แน่นอนว่าจะต้องมีการโอนรถยนต์หรือโอนกรรมสิทธิ์เกี่ยวข้องอยู่แล้ว เพราะถือเป็นการเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง ซึ่งการโอนรถที่ถูกต้องจะต้องไปยื่นเรื่องต่อนายทะเบียนที่กรมขนส่งทางบก พร้อมเตรียมเอกสารโอนรถตามนี้ รับรองว่ายื่นผ่านฉลุยแน่นอน
คำว่า “การโอนรถยนต์” หมายถึง การโอนกรรมสิทธิ์เจ้าของรถคันเก่าไปยังเจ้าของคนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการโอนรถยนต์มือสอง หรือเป็นมรดกตกทอด จะต้องทำตามขั้นตอนการโอนรถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
แต่ถ้ากรณีผู้ซื้อขายรถไม่สะดวกมาติดต่อยื่นเรื่องโอนรถ ก็สามารถทำการ “โอนรถลอย” ให้กับผู้ซื้อได้เช่นกัน ซึ่งการโอนรถลอยจะต่างกับการโอนรถทั่วไป คือผู้ซื้อขายจะต้องเซ็นสัญญาการโอนบนเอกสาร หากมิได้มาดำเนินการที่กรมขนส่งทางบกด้วยตัวเอง
ทั้งนี้เอกสารโอนรถจะต้องเตรียมข้อมูลให้ถูกต้อง และครบถ้วน เพื่อนำมายื่นดำเนินการที่กรมขนส่งทางบก โดยมีเอกสารดังต่อไปนี้
หมายเหตุ : จะต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพรถยนต์ (ยกเว้นกรณีโอนปิดบัญชีจากผู้ให้เช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถตามรายการจดทะเบียน ไม่ต้องตรวจสอบรถ) และการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับแต่วันโอน (หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดจะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท)
เมื่อเราเตรียมเอกสารการโอนรถเรียบร้อยแล้ว ลองมาเช็กค่าธรรมเนียมในการโอนรถยนต์กันบ้างว่า จะมีค่าใช้จ่ายในการโอนรถเท่าไหร่บ้าง
สรุปให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ การโอนรถเราจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญ เพื่อจะดำเนินการยื่นเรื่องขอโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ หากเราจัดเตรียมเอกสารโอนรถให้ถูกต้องและครบถ้วน จะช่วยไม่ให้คุณเสียเวลา และดำเนินเรื่องได้เร็วมากขึ้น
พอหลังจากทำการโอนรถยนต์เรียบร้อยเเล้ว เพื่อนๆ อย่าลืมเข้ามาเปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์กับ bolttech.co.th ด้วยนะ เรามีแผนคุ้มครองให้เลือกมากมาย อาทิเช่น ประกันรถยนต์ชั้น 1 , ประกันรถยนต์ 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3/3+ ก็มีให้เลือกครบ จบทุกความคุ้มครอง และจ่ายผ่านออนไลน์ได้ทันที