ในช่วงแมวผสมพันธุ์ หากไม่ทำหมันแมวย่อมมีโอกาสสูงมากที่แมวตัวเมียจะท้อง กรณีที่คุณสังเกตเห็นว่า แมวท้องป่อง หัวนมแมวใหญ่ขึ้น นั่นสามารถบ่งบอกถึงอาการแมวท้อง ให้เตรียมตัวรับน้องใหม่ได้เลย แต่คุณสงสัยไหมว่า? ตามปกติแล้ว แมวท้องกี่เดือน เราต้องดูแลแมวท้องอย่างไรบ้าง เพื่อให้แม่แมวและลูกแมวแข็งแรง มีคำตอบมาฝาก
ตามปกติแมวจะตั้งท้องประมาณ 2 เดือน หรือ 9 สัปดาห์หลังจากที่แมวผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ (เป็นช่วงที่แมวติดสัด) โดยอาการแมวท้องแต่ละช่วงก็ต่างกันไป ดังนี้
ในช่วง 2 สัปดาห์แรกที่แมวท้องนั้น แทบจะไม่มีสัณญาญใดๆ บ่งบอกอาการแมวท้อง แมวจะใช้ชีวิตตามปกติ
แต่ผ่านไปในช่วงสัปดาห์ที่ 3-4 ตัวอ่อนจะเริ่มพัฒนา สามารถสังเกตแมวท้องได้ง่าย เช่น เต้านมแมวใหญ่ขึ้นและเปลี่ยนเป็นสีชมพู แมวไม่กินอาหาร หรือ แมวขนร่วงเยอะ เป็นต้น ถือเป็นเรื่องปกติของอาการแมวท้องคล้ายๆ กับคนเราเนี่ยแหละ เวลาท้องก็จะแพ้ไม่อยากกินอะไรเลย
ในช่วงนี้แมวจะมีอาการแสดงออกเห็นได้ชัด คือ เดินโก่งโค้งเพราะช่วงท้องเริ่มขยายใหญ่ขึ้น แมวซึมไม่กินอาหาร นอนอย่างเดียว หากคุณสังเกตเห็นพฤติกรรมแมวเหล่านี้ สามารถพาแมวไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจอาการแมวท้องเบื้องต้นได้
เข้าสู่สัปดาห์ที่ 6-7 แม่แมวจะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ทั้งกระวนกระวาย แมวร้องไม่หยุดตัวเมีย รวมถึงการกินอาหาร หรือระบบขับถ่ายเปลี่ยนไป ในช่วงนี้คุณก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพียงสังเกตอาการแมวอยู่ใกล้ๆ และให้แม่แมวพักผ่อนเยอะๆ
ในช่วงสุดท้ายที่แมวใกล้คลอดลูก แมวจะทำท่าทีกระสับกระสาย แมวจะร้องไม่หยุด หรือ แมวมีอาการขนร่วงด้วย นั่นเป็นสัญญาณปกติสำหรับแมวท้อง
ในช่วงที่แมวใกล้คลอด ห้ามรบกวนแมวขณะที่คลอดลูกเด็ดขาด แต่ถ้าคุณรู้สึกกังวลใจสามารถฝากท้อง หรือนัดคลอดกับคุณหมอจะอุ่นใจกว่า เพราะหมอจะคอยดูแลตลอดการคลอด พร้อมคำแนะนำในการให้อาหารสำหรับลูกแมว หลังจากแม่แมวคลอดลูกเสร็จ ให้คุณเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับเลี้ยงลูกแมวรอได้เลย!!