รู้เท่าทันโรคเบาหวาน! น้ำตาลในเลือดปกติเท่าไหร่ และระดับแค่ไหนถึงป่วยเป็นโรคเบาหวาน? เพื่อประเมินความเสี่ยง โดยเฉพาะคนที่ชอบทานของหวานๆ ติดรสชาติหวาน หากทานสะสมบ่อยๆ อาจเป็นโรคเบาหวานไม่รู้ตัว นอกจากนี้ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาอย่างโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน
อาการเบาหวาน ในระยะแรก บางคนอาจไม่แสดงอาการ ขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้ป่วยแต่ละคน แต่สำหรับผู้ที่มีโรคแทรกซ้อนอย่างเช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงหรือโรคอ้วน ที่มักแสดงอาการชัดเจนและรุนแรงมากกว่า โดยอาการเบาหวานที่พบบ่อยมีดังต่อไปนี้
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ไตจะไม่สามารถกรองน้ำตาลส่วนเกินกลับคืนสู่เลือดได้หมด ทำให้ปล่อยน้ำตาลออกมาพร้อมปัสสาวะ นั่นเป็นสาเหตุที่ผู้ป่วยเบาหวานปัสสาวะบ่อย เมื่อร่างกายเสียน้ำกับปัสสาวะมากไป อาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ มีอาการคอแห้ง กระหายน้ำบ่อย
หากร่างกายสร้างอินซูลินได้ไม่เพียงพอ หรือเซลล์ร่างกายไม่ตอบสนองต่อซูลินที่ร่างกายสร้างขึ้น ทำให้ผู้ป่วยหิวน้ำบ่อยๆ ง่วงนอน เหนื่อยง่ายกว่าปกติ บางรายก็รู้สึกหน้ามืด เป็นลมหมดสติได้
ผู้ป่วยเบาหวานจะมีน้ำหนักตัวลดลงเรื่อยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ รู้สึกเบื่ออาหาร เนื่องจากร่างกายไม่มีพลังงานจากน้ำตาล ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันและกล้ามเนื้อแทน ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีร่างกายซูบผอมและไม่มีแรง หากน้ำตาลในเลือดสูงเกิน 120 มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา
ติดเชื้อตามผิวหนังง่าย เกิดฝีบ่อย เนื่องจากภาวะน้ำตาลสูงทำให้เม็ดเลือดขาวที่กำจัดเชื้อโรคน้อยลง เสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย และหายยากกว่าคนทั่วไป มีโอกาสแผลเรื้อรังนำไปสู่การถูกตัดนิ้วเท้า ขา หรือเสียชีวิตได้เลย
เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง และสะสมเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เส้นเลือดในจอตาเสียหาย โดยเลือดไม่สามารถไหลเวียนตามปกติ เกิดจากต้อกระจก หรือจอประสาทตาผิดปกติเนื่องจากโรคเบาหวาน หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานๆ อาจทำให้ตาบอดในที่สุด
ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน มักเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ในร่างกาย เช่น มือ ขาและเท้า อาการเบาหวานที่พบบ่อยคือ อาการชาที่เริ่มชาจากปลายนิ้วเท้าก่อน แล้วค่อยๆ ชาบริเวณหลังเท้าและขาทั้งสองข้าง นอกจากอาการชาที่เหมือนเป็นเหน็บแล้ว ความรู้สึกในการสัมผัสอาจน้อยลง บางทีไม่รู้สึกเลยก็เป็นได้
วิธีป้องกันโรคเบาหวานที่ดีสุด คือ เราต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ให้ค่าน้ำตาลปกติ คอเลสเตอรอล และน้ำหนักให้เป็นไปตามมาตรฐาน พร้อมทานอาหารที่มีประโยชน์ มีกากใยสูง หลีกเลี่ยงทานอาหารที่มีน้ำตาลในปริมาณมาก เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม ชานมไข่มุก ขนมเค้ก โดนัส และของหวานอื่นๆ รวมถึงหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ห่างไกลโรคเบาหวาน ดังนั้นเราควรตรวจสุขภาพประจำปี เช็คเบาหวานด้วยตัวเอง เพื่อตรวจระดับน้ำตาลในเลือดและคัดกรองเบาหวาน รู้เท่าทันก่อนที่จะสายเกินแก้!!