หากคุณมีรถยนต์สักคัน แล้วมันเริ่มเก่า คุณจึงเริ่มมีความต้องการที่อยากจะให้รถอยู่กับเราไปนาน ๆ หรือมีความคิดอยากที่จะเปลี่ยนรถคันใหม่หลังผ่อนเงินหมดละก็ งานนี้คงต้องดูแลกันให้ดีแล้วละค่ะ เพื่อให้รถยนต์ยังคงใหม่และทนทานทุกการขับขี่
จริง ๆ แล้วทีมงานก็ไม่ค่อยกังวลเสียเท่าไรเกี่ยวกับวิธีการดูรถเพื่อยืดอายุการใช้งาน เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ย่อมมีวิธีการดูแลที่ดีกันอยู่แล้ว แต่ก็แน่นอนค่ะว่าไม่ใช่ทั้งหมดโดยเฉพาะคุณผู้หญิงซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะมองข้าม เพราะคิดว่าก็รถยังขับได้ขับดีไม่มีอะไร หรือประมาณว่าขับอย่างเดียว ไว้ให้รถมีอาการก่อนค่อยว่ากัน!! หากคุณคิดเช่นนั้นละก็เห็นทีมงานนี้คงต้องเหลียวหลังหันกลับมาดูกันนิดนึงแล้วละ
รถยนต์ของเราหากถึงเวลาที่ต้องเข้าตรวจสภาพ อย่าลังเลหรืออย่าผลัดวันประกันพรุ่งกันเลยนะคะ หลายคนเสียดายเงินเพราะคิดว่าเอาเงินไปจม รถไม่ได้เป็นอะไรทำไมต้องไปเสียเวลาหรือเสียเงินกันด้วย … หากคิดแบบนี้ละก็บอกเลยว่า ผิดถนัด!! เพราะถ้าหากคุณไม่สนใจ ละเลยหรือว่าเพิกเฉยละก็ พอรถเป็นอะไรมา บอกเลยค่ะว่าเสียเงินและเสียเวลามากกว่าการพารถเข้าเช็คอัพแน่!
ของเหลวที่ว่านี้ก็ได้แก่ พวกน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำยาแอร์ ปริมาณน้ำในหม้อน้ำ น้ำยาหรือน้ำที่มีไว้ใช้สำหรับที่ปัดน้ำฝน และน้ำมันหล่อลื่น เป็นต้น ซึ่งทุก ๆ คนที่ใช้รถย่อมมักที่จะต้องรู้กันอยู่แล้วว่าควรให้ความสำคัญมากขนาดไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำในหม้อน้ำค่ะ พยายามเช็คบ่อย ๆ คอยดูปริมาณน้ำให้ดี เพราะถ้าหากหม้อน้ำเกิดแห้งขึ้นมา งานนี้เรื่องใหญ่!!
ข้อนี้ใครที่ชอบเปิดเพลงดัง ๆ ละก็ฟังให้ดี หากคุณมีรถที่ใช้อายุมาสักระยะนึง สิ่งที่คุณจะต้องสังเกตและฟังให้ดีเลยก็คือ เสียงของเครื่องยนต์ สายพาน เบรก หรือแม้แต่พวงมาลัยค่ะ เพราะบางทีในขณะที่เรากำลังรถอยู่หากเกิดเสียดังหรือเสียงกระตุกขึ้นเราจะได้รู้ แล้วรีบรักษาได้อย่างทันเวลา
ข้อนี้สำคัญกับชีวิตมาก ๆ อย่ารอ! ให้ยางแบนก่อนแล้วค่อยคิดที่จะเติม ซึ่งการที่เราจะสามารถยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ได้นั้น เราจะต้องคอยสังเกตยางว่าแบนหรือรั่วบ้างหรือไม่ รวมทั้งจะต้องรู้จักสลับเอายางล้อหลังมาไว้ล้อหน้า แล้วเอายางล้อหน้าไปไว้ด้านหลัง ซึ่งควรที่จะทำทุก ๆ 6,000 – 8,000 ไมล์
อย่าคิดว่าฝนไม่ตกรถไม่เลอะไม่ต้องล้างนะคะ เพราะอย่างน้อยรถของเราจะต้องมีฝุ่นเกาะอยู่แน่ ๆ ซึ่งเจ้าฝุ่นนี้นี่ละค่ะหากสะสมบนพื้นผิวรถไปนาน ๆ ก็อาจทำให้เกิดสนิมขึ้นได้ง่ายด้วยเช่นกัน ดังนั้น ทางที่ดีทุก ๆ คนควรนำรถไปล้างน้ำเปล่าอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์กันดีกว่านะคะ
การจอดรถตากแดดเป็นระยะเวลานานส่งผลทำให้สีของรถ และวัสดุต่าง ๆ ภายในรถสึกหรือเสื่อมสมรรถภาพได้ แต่ถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะคะ อันนี้เข้าใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิตของคนในสังคมเมือง (แค่หาที่จอดรถได้ก็เก่งแล้วละค่ะ ว่าไหม?)
ถ้าหากพบว่ามีรอยแตกร้าวละก็ อย่าฝืนใช้ค่ะ รีบหามาเปลี่ยนทันที ที่สำคัญต้องหมั่นทำความสะอาดกันด้วยนะคะ
ทุกครั้งที่คุณขับรถไปได้ 48,000 – 64,000 กิโลเมตรแล้ว สิ่งที่คุณควรจะทำเลยก็คือ การเช็คสภาพของหัวเทียนค่ะ หากพบว่ามีปัญหาอย่ารอช้า รีบติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการเปลี่ยนโดยทันที
หากคุณสามารถทำได้ครบตามที่กล่าวไปแล้วในข้างต้นละก็ รับรองว่า รถยนต์ของคุณจะต้องมีสภาพใหม่ เงางามเหมือนรถยนต์ใหม่เป็นแน่ … ว่าแล้ว “คิดจะขายรถ อย่าลืมนึกถึง Carsome Thailand” กันด้วยนะคะ
ขอบคุณบทความจาก Carsome Thailand
Rewrite by Butter Cutter