ท่ามกลางหมอกควันที่ส่งผลกระทบกับร่างกายของเราสามารถเข้าสู่จมูก ปอด และหลอดเลือดได้โดยตรง สำหรับเหตุการณ์ ฝุ่น PM 2.5 กำลังคุกคามหลายพื้นที่ในเมืองไทย ฝุ่นละอองขนาดจิ๋วมีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร หากนึกไม่ออกว่า เล็กขนาดไหน คงต้องบอกว่า “เล็กกว่าเส้นผมของคนเรา” และมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
ตอบคำถามที่ว่า “ฝุ่น PM 2.5 คือ ?” ด้วยข้อมูลข้อมูลดัชนีคุณภาพอากาศ อ้างอิงจากเว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ บอกว่า “เป็นฝุ่นที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน เกิดจากการเผาไหม้ทั้งจากยานพาหนะ การเผาวัสดุการเกษตร ไฟป่า และกระบวนการอุตสาหกรรม สามารถเข้าไปถึงถุงลมในปอดได้ เป็นผลทําให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ และโรคปอดต่างๆ หากได้รับในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานจะสะสมในเนื้อเยื่อปอด ทําให้การทํางานของปอดเสื่อมประสิทธิภาพลง ทําให้หลอดลมอักเสบ มีอาการหอบหืด”
และฝุ่น PM 2.5 ยังมีผลระยะยาวที่ทำให้การทำงานของปอดเสื่อมลง และยังเสี่ยงต่อมะเร็งปอดอีกด้วย และเพื่อป้องกันให้สุขภาพของเราไม่เสี่ยงต่อโรค Frank.co.th มีวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น ดังนี้
“อย่าเขินอายครับ!!” สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นเถอะครับ เพราะหน้ากากเหล่านี้ช่วยเราได้มากจริง ๆ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยชนิด N95 ที่ช่วยดูแลว่าป้องกันมลพิษได้ หรือถ้าหาหน้ากาก N95 ไม่ได้ หรือมีงบน้อย จะใช้หน้ากากอนามัยสวมด้วยกระดาษทิชชู่ก็ได้ช่วยได้ครับ เพื่อความปลอดภัยสวมใส่หน้ากากไว้ก่อนนะ อย่างน้อย ๆ ก็ป้องกันได้ส่วนหนึ่ง
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรง พร้อมสู้ทุกสถานการณ์ครับ อย่างไรก็ดี จะซื้อเครื่องฟอกอากาศไว้ในห้องนอนก็ช่วยได้ เพราะฝุ่น PM 2.5 นี้เล็กจิ๋วชนิดที่แทรกซึมได้ทุกพื้นที่ พร้อมกับรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และอาหารเสริมอย่างวิตามินซีและวิตามินอีร่วมด้วย
สายแอดแวนเจอร์ หรือสายสปอร์ตถ้าเป็นไปได้เลี่ยงการออกกลางแจ้งก่อนนะครับ เพื่อความปลอดภัยเบื้องต้นจากฝุ่น PM 2.5 ถึงจะสวมหน้ากากวิ่งหรือออกกำลังก็ไม่ควรครับ เพราะจะทำให้หายใจลำบากและมีอันตรายต่อร่างกายอย่างแรง อ้างอิงจากเว็บไซต์ข่าวสด ระบุว่า “เตือน ใส่หน้ากากกันฝุ่น N95 นานเกินไป อาจหมดสติ ถึงเสียชีวิตได้!!” เนื้อหาข่าวภายในให้เหตุผลว่า ไม่ควรใส่เกินครึ่งชั่วโมง เพราะหน้ากากดังกล่าวไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใส่ต่อเนื่อง หรือสวมใส่เวลาออกกำลังหนัก ๆ เพราะจะทำให้หายใจไม่ทัน และหมดสติ
นอกจากการดูแลตัวเอง เรายังต้องดูแลผู้อื่นและสังคมด้วยครับ หากใช้ยานพาหนะควรเช็กเครื่องยนต์อยู่เสมอ ๆ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ้าง ดูแลท่อไอเสียให้ไม่สร้างควันดำและฝุ่นพิษเพิ่มเติม คนละไม้คนละมือช่วยได้ครับ
แน่นอนครับว่า ถ้าเกิดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ ไอ มีเสมหะ หายใจติดขัด หายใจไม่อิ่ม แน่น ๆ หน้าอก ปวดหน้าอก หรือเกิดผื่นขึ้นตามร่างกาย คุณจะต้องเดินทางพบแพทย์เพื่อรักษาอาการโดยด่วนเลยนะครับ อย่าชะล่าใจปล่อยให้อาการลุกลามเด็ดขาด
ควรติดตามข่าวสารเป็นประจำตามเว็บไซต์ข่าว และใช้ความไฮเทคในยุค Thailand 4.0 แบบนี้ให้เป็นประโยชน์ แนะนำโหลดแอปพลิเคชัน เช็คมลพิษทางอากาศไว้บนสมาร์ทโฟนเลยครับผม เช่น
สามารถติดตามข่าวสารที่ Frank จะนำเรื่องราวน่าสนใจมาสรุปเล่าและอัปเดทให้ฟังเรื่อย ๆ ทำความเข้าใจการดูแลตัวเองจากฝุ่นเบื้องต้นแล้ว หากสนใจประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองดี ๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แฟรงค์ไลฟ์ อินชัวร์รันซ์ได้ครับ โทร. 02-106-5800 (เวลาทำการ 09.00-18.00 น. วันจันทร์-ศุกร์)
แหล่งข้อมูล :