ลดหย่อนภาษี 2566 ของผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รายได้เกิน 120,000 บาทต่อปี ต้องจ่ายภาษีตามระยะเวลาที่กำหนด โดยสามารถยื่นภาษีออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร ทำง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน แต่ก่อนที่เราจะไปยื่นภาษีออนไลน์ ในช่วงนี้ใครที่กำลังวางแผนลดหย่อนภาษี 2565 ใช้สำหรับยื่นภาษีในปี 2566 มาดูกันเลยว่า สิทธิลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง (ข้อมูลอัพเดตจากสิทธิลดหย่อนภาษีในปี 2565 ทั้งนี้ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
1. ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัว และครอบครัว
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท ผู้ที่ยื่นภาษีมีสิทธิลดหย่อนภาษีส่วนตัวโดยอัตโนมัติ
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท ต้องเป็นคู่สมรสที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และคู่สมรสต้องไม่มีรายได้
- ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร ภรรยาสามารถนำใบเสร็จและใบรับรองแพทย์มาเป็นหลักฐานในการลดหย่อนภาษี 2565 โดยตามจ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท ใช้ได้ทั้งรพ.รัฐและเอกชน ทั้งนี้สามีสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้กรณีภรรยาไม่มีเงินได้
- ค่าลดหย่อนบุตร สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 30,000 บาท และสำหรับบุตรคนที่ 2 เป็นต้นไปสามารถลดหย่อนเพิ่มอีก 30,000 บาท แต่มีเงื่อนไขที่ว่าบุตรต้องอายุไม่เกิน 20 ปี หรือมีอายุไม่เกิน 25 ปี และยังศึกษาในมหาวิทยาลัย หรือชั้นอุดมศึกษา (ระดับอนุปริญญาขึ้นไป) รวมถึงการศึกษาในหลักสูตรเนติบัณฑิต ในกรณีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไป และเกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป สามารถลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท แต่มีเงื่อนไขที่ว่าบุตรโดยชอบตามกฎหมายสามารถใช้สิทธิลดภาษีได้ตามจำนวนบุตรจริง และบุตรบุญธรรมโดยชอบด้วยกฎหมายลดหย่อนได้เพียง 3 คนเท่านั้น
- ค่าลดหย่อนบิดามารดา กรณีเลี้ยงดูพ่อแม่ตนเองและคู่สมรสอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท สามารถหักค่าเลี้ยงดูได้ 30,000 บาท/คน (สูงสุดไม่เกิน 4 คน) แต่ลดหย่อนภาษีซ้ำระหว่างพี่น้องไม่ได้ ต้องมีการระบุลงลายมือชื่อในหนังสือรับรองการเลี้ยงดู (ลย.03) ว่าบุตรคนใดจะเป็นฝ่ายเลี้ยงดูพ่อแม่
- ค่าอุปการะคนพิการ หรือคนทุพพลภาพ ไม่เกิน 60,000 บาท/คน แต่ผู้ดูแลบุคคลทุพพลภาพ หรือผู้พิการต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี หลักฐานที่ใช้เป็นหนังสือหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูคนพิการ (ล.ย.04) และสำเนาบัตรประจำตัวคนพิการโดยสำเนาพร้อมรับรองว่าคุณเป็นผู้ดูแลคนพิการ ส่วนคนที่ทุพพลภาพต้องมีบัตรประจำตัวคนพิการ หรือใบรับรองแพทย์เกี่ยวกับการทุพพลภาพ
2. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน
- ประกันสังคม อัตราเงินสบทบประกันสังคม 2566 ปรับเป็น 5% ตามปกติ หลังสิ้นสุดการปรับอัตราประกันสังคมเหลือ 3% ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2565 ทำให้ประกันสังคมในปี 2566 ลดหย่อนได้สูงสุด 9,000 บาทตามเดิม (อาจมีจำนวนเงินเปลี่ยนแปลงได้ หากมีประกาศปรับลดส่งเงินสมทบอีกครั้ง)
- เบี้ยประกันชีวิต สามารถหักได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ในกรณีที่คู่สมรสไม่มีรายได้สามารถใช้สิทธิประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 10,000 บาท โดยค่าลดหย่อนประกันชีวิต ต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป และทำประกันชีวิตในประเทศไทยเท่านั้น
- ประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษี 2565 ได้ไม่เกิน 25,000 (จากเดิมได้ 15,000 บาทต่อปี) เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท อีกทั้งลูกยังสามารถใช้เบี้ยประกันสุขภาพพ่อแม่ หักได้ไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งพ่อแม่ต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี แต่ไม่จำเป็นต้องอายุ 60 ปีขึ้นไป
- เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ ไม่เกิน 15% ของเงินได้ และต้องไม่เกิน 200,000 บาท โดยเมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และ RMF จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
3. ค่าลดหย่อนกลุ่มเงินออม และการลงทุน
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หักลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กบข. กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ใช้ลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี ตามจริงสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
- กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ตามจ่ายจริง ไม่เกิน 13,200 บาท เหมาะกับคนที่ทำงานฟรีแลนซ์หรืออาชีพอิสระที่ใช้เป็นตัวเลือกลดหย่อนภาษี
- กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และต้องถือกองทุนดังกล่าวเป็นเวลา 10 ปี
หมายเหตุ : สิทธิลดหย่อนภาษี 2566 เมื่อรวมกองทุน RMF + กองทุน SSF, กบข. + กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ + ประกันชีวิตแบบบำนาญ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท เท่านั้น
4. ค่าลดหย่อนอสังหาริมทรัพย์
- ดอกเบี้ยบ้าน ลดหย่อนภาษี คือ ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย ลดหย่อนได้ตามจริง ไม่เกิน 100,000 บาท เป็นดอกเบี้ยจากเงินกู้การเช่าซื้อบ้าน คอนโด หรือที่อยู่อาศัย โดยเราต้องอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้ด้วย รวมถึงการกู้เพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่บนที่ดินของตัวเอง
5. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค
- เงินบริจาค ลดหย่อนภาษี เพื่อสนับสนุนการศึกษา การกีฬา และเงินบริจาคเพื่อประโยชน์สาธารณะ ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของยอดเงินบริจาค โดยรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนอย่างอื่น
- เงินบริจาคให้แก่สถานพยาบาลของรัฐ ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของยอดเงินบริจาค โดยรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนอย่างอื่นแล้ว
- เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนภาษี 2565 ได้ตามที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนอย่างอื่น เช่น บริจาคเพื่อสาธารณกุศลให้แก่วัดวาอาราม มูลนิธิ สถานสงเคราะห์ เป็นต้น
- เงินบริจาคให้พรรคการเมือง ตามจำนวนที่บริจาคจริง แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 10,000 บาท
6. ค่าลดหย่อนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
สิทธิลดหย่อนภาษี สามารถใช้ค่าลดหย่อน ช้อปดีมีคืน 2566 เป็นโครงการกระตุ้นการซื้อและการขายภายในประเทศของภาครัฐ
- ผู้มีเงินได้สามารถนำใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบจากการซื้อสินค้าหรือบริการที่ตรงตามเงื่อนไขของโครงการ ใช้สิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นระยะเวลา 46 วัน มาใช้เป็นค่าลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 40,000 บาท (จากเดิม 30,000 บาท)
ยื่นภาษี่ผ่านช่องทางไหนบ้าง ?
เมื่อเราได้วางแผนลดหย่อนภาษี เพื่อยื่นภาษี 2566 จากนั้นให้เตรียมเอกสารทุกอย่างจนครบ โดยสามารถยื่นภาษีได้หลายช่องทาง ได้แก่
- ยื่นภาษีด้วยตัวเองที่กรมสรรพากร
- ยื่นภาษีออนไลน์ ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร https://www.rd.go.th ให้เป็นไปตามมาตการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 สามารถยื่นภาษีออนไลน์ได้เลย
- ยื่นผ่านแอปพลิเคชั่น RD Smart Tax แต่ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรก่อน
ทั้งหมดนี้เป็นรายการ ยื่นภาษี 2566 เพียงคุณเตรียมเอกสารให้ครบ แล้วนำไปยื่นภาษีออนไลน์ หากสิทธิลดหย่อนภาษีของเราเป็นไปตามเงื่อนไข ก็สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ทำให้คุณมีเงินออมมากขึ้น
วางแผนลดหย่อนภาษี ซื้อประกันสุขภาพ ที่ bolttech.co.th นำมาลดหย่อนภาษีได้ หรือถ้าคุณต้องการซื้อประกันสุขภาพให้คุณพ่อคุณแม่ ก็นำมาลดหย่อนภาษีได้ เหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลต่อปี ทั้งค่าห้อง ค่ายา ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จำเป็นต่อการรักษา สามารถเบิกประกันสุขภาพได้ ทำให้รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น