อ่านเร็วๆ
หลายคนคงยังรู้สึกตกใจกันอยู่นะครับ กับเรื่องของอุบัติเหตุรถตู้ชนประสานงากับรถกระบะแล้วเกิดไฟไหม้จนมีผู้เสียชีวิตถึง 25 ศพและมีผู้ได้รับบาทเจ็บ 2 คน Frank อ่านข่าวแล้วรู้สึกว่าเป็นอุบัติเหตุที่รุนแรงมาก ที่น่าเสียใจที่สุดคงเป็นไฟไหม้รถคันที่เกิดเหตุทั้ง 2 คันจนมีจำนวนผู้เสียชีวิตถึง 25 คน
ซึ่งก่อนหน้านี้ Frank เคยเล่าให้ฟังเรื่องของอุบัติเหตุรถตกเหวพลึงและอยากให้ภาครัฐเพิ่มการคุมเข้มและเน้นความชำนาญเส้นทางของคนขับรถโดยสารสาธาณะให้มากขึ้น แต่อย่างว่านะครับ อุบัติเหตุนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่คาดคิดมาก่อน และนั่นเป็นที่มาของการทำประกันรถยนต์เพื่อลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุบนท้องถนน และยังมีการเยียวยาหลังเกิดเหตุนั่นเองล่ะครับ
ไปเจอ survival guide for นั่งรถตู้มาแล้วมันโดนมาก โดยเฉพาะความปลอดภัยในการโดยสารรถตู้ครับ เรารู้กันดีว่ารถตู้นั้นออกแบบมาเพื่อการขนของหรือขนส่ง แต่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการโดยสาร โดยเฉพาะเมื่อมีผู้โดยสาร 15 คน (หรือเกินกว่านั้นในบางวัน ซึ่ง Frank ว่าทุกคนน่าจะเคยเห็นเบาะเสริมตรงทางเดินกันมาบ้างนะฮะ)
นอกจากจุดศูนย์ถ่วงของรถไปถ่วงไปด้านหลัง (อาจจะทำให้ล้อหน้าลอยและรถเสียหลักได้เมื่อขับเร็ว) และยอมรับเถอะว่าผู้โดยสารก็ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ยกเว้นเบาะหน้าข้างคนขับที่เอาไว้กันคุณตำรวจมาตรวจเจอมากกว่าป้องกันชีวิตและทรัพย์สินจริงๆ ยางของรถตู้เป็น 4 ล้อ ไม่เหมือนรถบัสที่เป็นยางคู่ซึ่งเมื่อยางระเบิดยังพอมีทางรอดได้ ดังนั้นการเลือกตำแหน่งที่นั่งน่าจะเป็นทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ของผู้โดยสารอย่างเราครับ
สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ คือ ขับรถเร็วกว่ากำหนดในผู้ขับรถระยะทางไกล หรือมีอาการหลับในเนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ และเมาแล้วขับจากคนในพื้นที่
ช่วงสุดยอดรถติดใน 2 เทศกาลหลักของบ้านเรา คือ สงกรานต์และปีใหม่ เพราะเป็นวันหยุดต่อเนื่องหลายวันที่ต้องเพิ่มเวลาเดินทางเข้าไปอีกอย่างน้อย 3 ช.ม. และทุกปีอีกเช่นกันเราอาจจะชินกับ “7 วันอันตราย” ที่ทางตำรวจทางหลวงได้ออกมารณรงค์ ตั้งด่านตรวจ แจกกาแฟ แจกผ้าเย็น
แต่รู้ไหมครับเราเป็นประเทศเดียวในโลกที่ภาครัฐออกมาทำกิจกรรมแบบนี้เพื่อต้องการให้อุบัติเหตุลดลง ที่น่าสนใจคือกิจกรรมสกัดคนเมาไม่ให้ขับโดยการยึดรถไว้ก่อนหายเมาแล้วค่อยมารับรถกลับ แต่สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุก็ยังเป็น “เมาแล้วขับ” อยู่นั่นเอง Frank เขียนไปก็อดรู้สึกเศร้าไม่ได้เลยครับ
ในเมื่อเราต้องเดินทางขับรถโดยสารรถประจำทาง หรือโดยสารรถตู้กันแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว เรามาหาวิธีเอาชีวิตรอดกันเถอะครับ อย่างเช่น
1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ ของกรมการขนส่งทางบก
1193 แจ้งตำรวจทางหลวง
สุดท้ายเรื่องที่ไม่มีใครอยากพูดถึงเท่าไหร่ เพราะเรามักจะคิดถึงก็ต่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว นั่นคือรถมีประกันไหม? ประกันจ่ายเท่าไหร่? ผู้สูญเสียได้รับเงินชดเชยเท่าไหร่? ซึ่งจากอุบัติที่ว่านี้รถตู้โดยสารได้ทำประกันชั้น 3 และพ.ร.บ.ส่วนรถกระบะได้ทำประกันชั้น 1 และพ.ร.บ. ไว้เช่นเดียวกัน
โดยรวมแล้วทายาทของผู้ประสบเหตุและผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับการชดเชยทั้งจากบริษัทประกันภัยของทั้ง 2 ฝ่ายรวมถึงเงินชดเชยผู้ประกันตนจากประกันสังคม, ประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุ ทำให้เราเข้าใจความสำคัญของการทำประกันรถยนต์กันมากขึ้น แต่ Frank ว่ามันไม่คุ้มเลยนะครับกับความสูญเสียบุคคลในครอบครัวของเราไป
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียที่เกิดขึ้นทุกท่านครับ