อ่านเร็วๆ
ข่าวเรื่องน้องหมาโดนรถชนที่เราเห็นเป็นข่าวอยู่นั้น หลายคนคงสงสัยว่าข้อกฎหมายที่จริงแล้วเป็นอย่างไรกันแน่ ฝ่ายไหนเป็นผฝ่ายผิด เจ้าของน้องหมาไปเรียกค่าเสียหายกับเจ้าของรถได้ไหม? หรือเจ้าของรถเรียกไปค่าเสียหายกับเจ้าของหมาได้ไหม? ถ้าเราชนหมาจรจัดล่ะเราจะเรียกค่าซ่อมรถได้จากใคร? หรือแม้แต่ในการแจ้งเคลมประกันรถยนต์ในกรณีที่ขับรถชนสัตว์บนถนนแล้วทำให้รถเสียนั้นทำได้หรือไม่อย่างไร? เราไปหาคำตอบกันเลยครับ
มาเริ่มด้วยข้อกฎหมายกันเลย ถ้าเราขับรถไปบนถนนแล้วเกิดไปชนวัว หรือน้องหมาโดยไม่ตั้งใจ ตามกฎหมายแล้วมีข้อกำหนดอย่างไรกันบ้าง พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 111 ได้พูดถึงกรณีที่เราขับรถไปบนถนนแล้วเกิดเหตุชนสัตว์เลี้ยงตายบนถนนแล้วรถของเราได้รับความเสียหายไว้ว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดขี่จูงไล่ตอน หรือปล่อยสัตว์ไปบนทางในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรและไม่มี ผู้ควบคุมเพียงพอ”
เพราะถนนไม่ใช่ทางเดินสำหรับสัตว์ เจ้าของต้องมีการป้องกันระมัดระวังอุบัติเหตุให้กับสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในความดูแล หากเกิดอุบัติเหตุเจ้าของสัตว์ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่ของรถทั้งหมดที่เกิดจากการขับรถชนสัตว์บนถนน แต่หากเกิดในที่ส่วนบุคคลหรือบนทางเท้ารถยนต์จะเป็นฝ่ายผิด
ส่วนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 433 ได้บอกไว้ว่า “ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ ท่านว่าเจ้าของสัตว์หรือบุคคลผู้รับเลี้ยงรับรักษาไว้แทนเจ้าของจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ฝ่ายที่ต้องเสียหายเพื่อความเสียหายอย่างใดๆ อันเกิดแก่สัตว์นั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยงการรักษาตามชนิดและวิสัยของสัตว์ หรือตามพฤติการณ์อย่างอื่น หรือพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้นย่อมจะต้องเกิดมีขึ้นทั้งที่ได้ใช้ความระมัดระวังถึงเพียงนั้น” จึงเป็นที่มาว่ารถที่ขับมาชนเรียกร้องค่าเสียหายได้นั่นเอง
โดยสรุปก็คือ ถ้าน้องหมาที่เราเลี้ยงไว้ออกไปเดินบนถนนแล้วเกิดอุบัติเหตุโดนขับรถชนสัตว์เลี้ยงตาย เจ้าของหมาผิดนะครับ เราต้องดูแลค่าซ่อมรถให้เจ้าของหมาด้วย แต่ถ้าน้องหมาอยู่ในบ้านของเราเองแล้วมีคนขับรถชนมันตายในบ้านหรือในพื้นที่ส่วนบุคคลของเราแบบนี้รถยนต์ที่ชนเป็นฝ่ายผิดครับ
อ้าว...แบบนี้ถ้าใครไม่ชอบหมา รังแกสัตว์ หาเรืองตั้งใจชนให้ตายแล้วมาเรียกร้องค่าเสียหายล่ะ เอาผิดไม่ได้เลยเหรอ? ทำได้ครับเพราะนี่คือที่มาของ พ.ร.บ. ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ที่เพิ่งออกมาล่าสุด
สำหรับ พ.ร.บ. ฉบับนี้เรารอคอยกันมาซักพักเลยก่อนที่จะมีการประกาศใช้ ซึ่งโดยเนื้อหาแล้วเพื่อไม่ให้คนทารุณสัตว์โดยไม่มีสาเหตุ เพราะสัตว์ทุกตัวก็มีชีวิตและย่อมรักชีวิตของมันเช่นเดียวกับพวกเรา สำหรับเนื้อหาโดยละเอียดอ่านเพิ่มได้ที่นี่นะครับ ส่วนในกรณีที่เจ้าของรถส่อ “เจตนา” ตั้งใจขับรถชนสัตว์เลี้ยงหรือน้องหมาของเรานั้น เรื่องจะเปลี่ยนไปทันทีครับ
เจ้าของรถจะมีความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ที่ระบุโทษจำคุกไว้ 2 ปี หรือปรับ 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีความผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 เนื่องจากทำให้เจ้าของเสียทรัพย์เพิ่มด้วยมีค่าปรับ 1,000 บาทครับ
ด้วยความที่เราทุกคนก็ใช้ถนนร่วมกัน สิ่งที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นตลอดเวลาทั้งด้วยความสุดวิสัยหรือถ้าเหยียบเบรกกระทันทันที่ความเร็วสูงแล้วจะทำให้รถเสียหลักเกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ Frank ว่าทุกคนเข้าใจได้นะครับ แต่ถ้าเราขับรถไม่เร็วนัก มีจังหวะที่จะชะลอรถหรือบีบแตรให้น้องหมาลุกหนีไปได้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรงที่ควรทำเลยล่ะครับ พวกเค้าทุกตัวก็มีชีวิตมีความรู้สึกเจ็บเช่นเดียวกับเรานะครับ
ถ้าทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้เพื่อนๆ แจ้งเคลมได้นะครับจะอยู่ในเรื่องของการชนกับสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่รถยนต์ จะดูแลการซ่อมรถให้เราได้ทั้งหมดเมื่อเราเกิดเหตุแล้วให้โทรแจ้งกับบริษัทประกันทันที (เคลมสด) แล้วรอรับใบเคลมเพื่อนำรถเข้าซ่อมได้เลย นี่จึงเป็นข้อดีที่ทำให้ประกันชั้น 1 มีค่าเบี้ยที่สูงกว่าประกันชั้นอื่นๆ แต่ได้รับความคุ้มครองที่มากกว่าไงครับ
เพื่อนๆ คนไหนอยากเช็คเบี้ยประกันชั้น 1 หรืออยากสอบถามเคสการเกิดเหตุเพิ่มเติมส่งคอมเม้นต์มาถามเราได้เลยนะครับ