หลังจาก Frank ได้พาคุณไปดูเมืองน่าเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกันมาแล้ว บทความนี้ขอเอาใจติ่งชาว K-pop หรือคนรักอาหารเกาหลีที่ชอบเที่ยวแบบชิค ๆ เก๋ ๆ หรือกำลังอยากเที่ยวแดนโสมต้องอ่าน 10 ทิปท่องเที่ยวเกาหลีอย่างสบายใจที่คุณต้องรู้ก่อนออกบินเที่ยวด้วยตัวเอง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า คนไทยส่วนมากติดตม.เกาหลีมากที่สุด! เหตุผลมาจาก มีคนไทยหลายคนลักลอบเข้าประเทศเกาหลีและไม่กลับประเทศไทย จึงมีการตรวจคนไทยมากเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นเรามาดูวิธีเตรียมตัวผ่านตม. เข้าประเทศเกาหลี!! ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น มาครับ มาอ่านกันเถอะ
พกพาสปอร์ดตัวจริงทั้งเล่มเก่า และเล่มใหม่ไปด้วยครับ เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ธรรมดาที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวไปต่างประเทศ แต่การที่เราพกพาสปอร์ดเล่มเก่าไปนั้นเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือ หรือเพิ่มข้อมูลให้กับคุณเอง ไม่ว่าคุณอาจจะเคยไปเพียงแค่ 1 ประเทศก่อนหน้า
*หากคุณมีการเปลี่ยนชื่อควรนำหลักฐานการเปลี่ยนชื่อไปด้วย*
สิ่งสำคัญที่สุดหากคุณไม่ต้องการตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผีน้อยแอบลักลอบเข้าทำงานในเกาหลี ดังนั้น ควรมีข้อมูลการท่องเที่ยวให้แน่ชัด ว่าคุณมีแพลนพักที่ไหน ตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน แม้ว่าคุณจะจองผ่านเว็บไซต์ที่ต่างกัน เช่น คุณจองโรงแรมอาทิตย์แรกที่ไหน และ จองโรงแรมอาทิตย์ต่อไปที่ไหน เพราะอาจได้ราคาที่ถูกกว่า ก็ต้องพิมพ์หลักฐานนั้นออกให้ทั้งหมด เพื่อยื่นให้กับเจ้าหน้าที่
จำเป็นต้องถือคติว่า “ปลอดภัยไว้ก่อน” อย่าคิดว่าการซื้อประกันการเดินทางไม่สำคัญ เพราะประกันเดินทางนั้นสามารถรองรับการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องบินดีเลย์ หรือการโจรกรรม แย่งชิงทรัพย์สินระหว่างทริปการเดินทางเที่ยวเกาหลีใต้ของคุณ ประกันการเดินทางนี้จะช่วยให้คุณอุ่นใจตลอดการเดินทาง
เพื่อให้การผ่านเข้าตม.เกาหลี เป็นไปได้ด้วยดี ฉะนั้น การแต่งตัวที่เหมาะสม ควรใส่เสื้อผ้าทีดูเรียบร้อย เสื้อกันหนาวฮู๊ท กางเกงขายาว และรองเท้าผ้าใบก็ดูดีแล้วค่ะ นั้นมีความสำคัญอย่างมาก ห้ามแต่งตัวล่อแหลม ทั้งนี้ก็ไม่ควรแต่งหน้าที่ดูจัดจ้านจนเกินไป
หากคุณเป็นนักเรียนก็ควรจะมีใบรับรองการเป็นนักเรียน หรือ นักศึกษา ส่วนหากคุณเป็นคนทำงาน ก็ควรจะมีใบรับรองการทำงาน เพราะการออกใบรับรองการทำงานนั้นจะทำให้ทางเจ้าหน้าที่มั่นใจว่าคุณจะกลับประเทศอย่างแน่นอน หากคุณต้องการผ่านฉลุยในการเดินทางผ่านเกาหลี สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การเตรียมหลักฐานที่แน่นชัดในการกลับเข้าประเทศ
จำเป็นต้องเตรียมแผนการท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษ หรือ หากคุณสามารถเขียนภาษาเกาหลีก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันนะครับ ควรเตรียมแผนการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ไปจนถึงวันนั่งเครื่องบินกลับประเทศ โดยระบุเวลา และ สถานที่ให้แน่ชัด
มีข้อมูลด้านการเงินหมุนเข้า-ออกอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป ในส่วนนี้เพื่อให้แน่ใจว่าเรามีเงินรองรับหากเกิดเหตุฉุกเฉินเช่น ทำเงินหล่นหาย อย่างน้อยตรงนี้ก็จะเป็นสิ่งที่แสดงว่าเราสามารถกลับเข้าประเทศได้ ทั้งนี้ อย่าลืมเตรียมค่าใช้จ่ายในการขอข้อมูลตรงนี้กับธนาคารนะครับ
อย่าลืมแลกเปลี่ยนสกุลเงินก่อนไปนะครับ เพราะคุณจะได้ค่าเงินที่ดีกว่าหากคุณแลกเงินในไทย อีกทั้งการแลกเงินยังง่ายกว่าอีกด้วย แนะนำให้แลกไปเท่าที่คุณต้องการใช้ เพื่อไม่ให้ขาดเกินไป หรือเยอะเกินไป เพราะหากคุณต้องการแลกกลับอาจได้กลับมาเป็นเงินไทยเพียงไม่กี่บาท อย่างที่รู้กันว่า ค่าเงินเกาหลีนั้นถูกกว่าเงินบาทของไทย
อีกหนึ่งตัวเลือกหากคุณไม่ต้องการเปิดใช้เครือข่ายไทยในประเทศเกาหลี ก็สามารถซื้อซิมที่สนามบิน พร้อมเลือกเติมเงินขั้นต่ำในการโทร ส่วนอินเตอร์เน็ต หากคุณไม่ได้ซื้อ Pocket Wifi ก็สามารถซื้อได้ที่สนามบินเกาหลีเช่นกันครับ ค่าบริการนี้จะอยู่ราวๆ วันละ 260 บาท ซึ่งจะมีค่ามัดจำอยู่ราวๆ 7,000 บาท ซึ่งทั้งนี้เราก็แนะนำให้คุณซื้อจากไทยไปดีกว่าเพราะราคาที่ถูกกว่า และ มีโปรโมชั่นให้เลือกอีกมาก
การเดินทางไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถบัส รถแท็กซี่ เราจำเป็นต้องใช้บัตร T-money แทนการใช้เงินสด เพราะนอกจากการใช้จ่ายด้วยบัตรนี้จะง่ายขึ้นกว่าเดิมเลย ยังประหยัดเวลาไปได้มากอีกด้วย คุณสามารถซื้อเป็นรายวัน หรือ เหมาหลายวัน หรืออาจจะเหมาเป็นรายเดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ
คำถามที่ทางเจ้าหน้าที่เกาหลีจะถามคือ:
เห็นไหมครับว่าไม่ยากเลย! เพียงแค่แต่ข้อมูลไปให้นักและแน่นพอตามอีกคติหนึ่งคือ เกินดีกว่าขาด เพราะหากคุณติดตม.เกาหลีคุณสิทธิที่จะถูกส่งกลับประเทศ นั่นหมายความว่าค่าจองโรงแรม ค่าตั๋วเครื่องบิน และทุกอย่างที่จ่ายมาคือหายไปหมดเพียงเพราะคุณขาดเอกสารเพียงไม่กี่ชิ้น ทั้งนี้อย่าลืมเตรียมการตอบคำถามไว้ด้วยนะครับ
หากคุณวางแผนเที่ยวยุโรปฤดูใบไม้ร่วงในเดือนพฤษจิกายนนี้ก็อย่าลืมอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยววีซ่าเชงเก้งให้ดีนะครับ เพราะวีซ่าเชงเก้งนี้ค่อนข้างมีความเป๊ะพอสมควรเลย