เป็นใครก็ต้องอยากได้ประกันสุขภาพราคาเป็นกันเองอยู่แล้ว แต่ซึ่งเบี้ยถูกที่สุดคงน่าจะเป็นประเทศไทยของเรานั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นทั้งค่ารักษาและการบริการที่ดีกว่าที่ไหนทั่วโลกแล้ว ยังมีตัวเลือกค่าประกันสุขภาพเดินทางต่างประเทศที่คุณสามารถเลือกซื้อได้ราคาถูกกว่าพร้อมความคุ้มครองที่คุณต้องการได้อีกด้วย
ชาวอเมริกันหลายคนต่างเป็นกังวลในการสูญเสียประกันสุขภาพเมื่อถึงตอนที่พวกเขาเกษียณจากงานที่ทำเพราะเนื่องจากค่าเบี้ยประกันสุขภาพในสหรัฐอเมริกานั้นแพงมาก ความกังวลนี้ตกอยู่ที่ผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเนื่องจากว่าผู้หญิงห่วงใยสุขภาพมากกว่าคุณผู้ชาย อีกทั้ง อัตราการว่างงานในประเทศอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจจากประชากรมวลรวมของประเทศ (GDP) เรื่องนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อประชากร เมื่อในยามป่วยไข้เพราะค่ารักษาพยาบาลที่แพงมากที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถทำรายได้มากในระดับปานกลางแต่เมื่อโดนค่าประกันสุขภาพเข้าไปแล้วก็ถึงจะต้องสะอึกเลยทีเดียว
ประธานาธิบดีโอบามาคนเก่าได้ลงทุนเงินอย่างมหาศาลในโครงการ Health Care Tax และทำการเก็บภาษีเพิ่มโดยเฉพาะภาษีจากเงินเดือนค่าตอบแทน (Medicare Payroll Tax) และภาษีเงินการลงทุนจากคนที่มีฐานเงินเดือนสูง (Investment Income Tax) เรื่องนี้ทำให้หลายคนไม่พอใจที่จะต้องเสียภาษีนับหลายแสนเหรียญให้กับทางรัฐบาล ภาระการคุ้มครอง ซึ่งหลังจากที่ทรัมป์พยายามขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีก็ได้เสนอประเด็นนี้ขึ้นมาและยืนยันจะต้องยกเลิกให้ได้ เขาพร้อมที่จะยกเลิกภาษีและค่าธรรมเนียม (Taxes and Fees ) รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆในการดูแลสุขภาพ (Medicare Components) แต่โอบามาก็พยายามอธิบายให้หลายคนเข้าใจโดยเขียนบทความอธิบายด้วยตัวเขาเองว่า โครงการโอบามาแคร์นี้จะส่งผลให้คนทำงานเพิ่มมากขึ้นและลดจำนวนคนว่างงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของพนักงานเพิ่มขึ้น
แน่ล่ะ ต้องเป็นสหรัฐอเมริกาที่มีค่าครองชีพสูงพร้อมด้วยค่าใช้จ่ายประกันสุขภาพต่อคนตกอยู่ที่ 8,713 เหรียญ ถึงแม้ว่าประเทศอเมริกาเป็นประเทศที่มีเงินมากกว่าประเทศส่วนใหญ่ในโลก แต่ก็มีค่าใช้จ่ายมากกว่าเงินอื่นๆ เช่นกัน โดยเฉพาะด้านการดูแลเรื่องสุขภาพซึ่งการเข้ารับรักษาพยาบาลที่นั้นมีค่าใช้จ่ายที่แพงมากและนอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปให้หมออีกด้วย
ประเทศที่มีค่าใช้จ่ายประกันสุขภาพสูงต่อหัวอยู่ที่ 6,325 เหรียญสหรัฐ สำหรับชาวสวิตเซอร์แลนด์นั้นจำเป็นต้องอาศัยอยู่อีกต่อไป ประเทศมีค่ารักษาพยาบาลมากกว่าประเทศอื่นใดทั่วโลก แม้ว่าทางระบบประกันสุขภาพของประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะมีระบบที่มีความเสมอภาคโดยมีประชาชนเป็นผู้ชี้นำในเรื่องของตลาด แต่ทั้งนี้ประชาชนของประเทศนี้ทุกคนถูกบังคับให้ทำประกันสุขภาพโดยมีบริษัทเอกชนมากกว่า 60 บริษัท เป็นรูปแบบการดำเนินการต้นแบบให้กับประเทศเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา
หากเรามองประเทศนอร์เวย์แบบเผินๆ อาจเห็นว่านี่ใช้ระบบการแพทย์แบบสังคมนิยม โดยภาครัฐเป็นเจ้าของและเป็นผู้บริหารจัดการด้านทรัพยากรด้านสาธารณสุขทั้งหมด ส่วนค่าใช้จ่ายประกันสุขภาพของที่นี่ก็มีมากถึง 5,862 เหรียญสหรัฐ ซึ่งในขณะเดียวกันประเทศสวีเดนเป็นประเทศที่ใช้แนวทางร่วมแบบผสมผสาน ในขณะเดียวกันก็มีรูปแบบค่าใช้จ่ายตอบแทนที่หลากหลายคือ ทางบริษัทอาจมีค่าธรรมเนียมในการรักษา
ค่าใช้จ่ายประกันสุขภาพในประเทศนี้เฉลี่ยคนละ 731 ยูโร ประชาชนชาวดัตช์ทุกคนจำเป็นต้องซื้อประกันสุขภาพจากบริษัทเอกชน คุณสามารถเลือกความคุ้มครองได้ตามที่คุณต้องการ ส่วนเรื่องเบี้ยประกันสุขภาพนั้นไม่ว่าคุณจะมีรายได้เท่าไหร่ก็จะต้องจ่ายเบี้ยในอัตราเดียวกัน การรักษาพยาบาลของประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นมีเพียง 70% ที่ได้มีการเจรจาต่อรองระหว่างประกันสุขภาพและทางโรงพยาบาลไว้แล้ว ซึ่งนอกเหนือจากนั้นการดูแลรักษาก็จะมีราคาที่แพงกว่าและถูกกำหนดราคาโดยทางรัฐบาล
ประเทศนี้เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีการดูแลเรื่องสุขภาพดีที่สุดในโลกเป็นประเทศหนึ่งของโลก รัฐบาลของที่นี่จะเป็นผู้รับผิดชอบด้านระบบสุขภาพจากภาษีที่เขาเรียกเก็บจากรายได้ประชาชน ประเทศสวีเดนมีการประกันสุขภาพแบบสมัครใจที่มีผู้ใช้เกือบร้อยละ 99 ซึ่งประเทศสวีเดนนี้จะจ่ายค่าชดเชยความเสียหายตามมาตรฐานการดูแลรักษา ประเทศสวีเดนที่มีค่าใช้จ่ายประกันสุขภาพเฉลี่ย 4,904 เหรียญสหรัฐ
ส่วนประเทศเยอรมันที่มีค่าใช้จ่ายประกันสุขภาพเฉลี่ยคนละ 4,819 เหรียญสหรัฐ เบี้ยประกันสุขภาพตามที่กฎหมายกำหนดจะขึ้นอยู่กับรายได้ เกณฑ์ที่ใช้เป็นหลักในการคำนวณคือ รายได้รวมก่อนหักภาษี หรือรายได้ที่คุณได้รับจากบริษัทก่อนหักภาษีนั่นเอง หากรายได้เกินจาก 4,4250 ยูโรต่อเดือนจะไม่มีผลต่อการคำนวณเบี้ยประกัน และการประกันสุขภาพตามกฎหมายนั้น บุตรและคู่สมรสจะมีส่วนร่วมในการประกันครอบครัวโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
เดนมาร์กเพิ่งได้ยกเลิกบัตรประกันสุขภาพที่เคยนำมาใช้ในการเบิกค่ารักษาพยาบาล แต่กลับปรับให้ดีขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปประเทศอื่นในสหภาพยุโรปที่สามารถใช้บัตร European Health Insurance Card (EHIC) เพื่อเบิกค่ารักษาพยาบาลแทน ค่าใช้จ่ายประกันสุขภาพเฉลี่ยในประเทศเดนมาร์กคือ 4,553 เหรียญสหรัฐ
ประเทศออสเตรียมีโครงการสุขภาพที่ได้รับกองทุนประกันจากการเจ็บป่วยที่มีชื่อว่า Krankenkasse ที่นับเป็น 11% ของ GDP ซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าสหภาพยุโรป 7.8% ประเทศออสเตรียระบบเรื่องการดูแลสุขภาพมากถึงสองระดับ การดูแลของประเทศออสเตรียคือ ประชากรของประเทศที่จะได้รับความดูแลอย่างสะดวกสบายเกี่ยวกับแผนประกันภัยภาคเอกชน หากคุณเป็นนักศึกษาที่อยู่ในสหภาพยุโรปก็สามารถใช้บัตรประกันสุขภาพยุโรปได้ แต่ทั้งนี้การเป็นนักศึกษาก็จำเป็นต้องจ่ายค่าประกันด้วยตัวเอง 52.68 ยูโรต่อเดือน
เพื่อให้การประกันสุขภาพต่างประเทศคุ้มค่าต่อการเดินทาง สำหรับประเทศลักเซมเบิร์กนี้นั้นมีการเสียค่าใช้จ่ายประกันสุขภาพเฉลี่ยอยู่ที่ 4,371 ยูโรต่อเดือน การคุ้มครองสุขภาพของที่นี่ฟรีสำหรับประชาชนทุกคนและทุกพลเมืองลูกจ้างและพนักงาน สำหรับประกันสุขภาพในครอบครัวนั้นเด็กที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของผู้ปกครองของพวกเขาจะได้ความคุ้มครองจนกว่าจะถึงอายุ 27 เมื่อคุณเริ่มจ่ายเงินสมทบเงินประกันสังคม คุณก็จะได้บัตรประกันสุขภาพมาใช้ในประกันสุขภาพของประเทศลักเซมเบิร์ก
การประกันสุขภาพที่ประเทศแคนาดาได้ให้ความสนับสนุนนักเรียนและนักศึกษาเป็นอย่างมาก ด้วยความร่วมมือกับอิงเกิ้ลอินเตอร์แนชชั่นเนล อิงเกิ้ลอินเตอร์แนชชั่นแนลมีประกันสุขภาพทุกรูปแบบตามที่นักเรียนต้องการ ทั้งนี้ประกันสุขภาพของแต่ละเมืองก็มีความแตกต่างกันออกไป หากคุณทำงานอยู่ในบริษัทหรือเป็นลูกจ้างของบริษัทคุณจะได้รับบัตรประกันสุขภาพที่สามารถยื่นใช้เมื่อเข้าโรงพยาบาลไปเรียบร้อยแล้ว
ประกันสุขภาพที่มีเบี้ยราคาสูงแตกต่างกันออกไปโดยเฉพาะฝั่งทวีปยุโรปที่มีราคาเบี้ยที่แพงและประกันสุขภาพเป็นเหมือนกับเรื่องบังคับที่ทุกคนจะเป็นต้องทำไว้ หากเปรียบเทียบกับประเทศไทยแล้วก็คงเข้าใจกันว่าทำไมต่างชาติถึงประทับใจการรักษาพยาบาลและการบริการในกรุงเทพที่ไม่ต้องจ่ายเยอะแต่ได้พบตอบแทนที่เหมือนกันพร้อมความพึงพอใจในการบริการ
อ่านมาถึงตรงนี้อย่าเพิ่งกังวลจนไม่อยากออกเที่ยวในประเทศเหล่านี้นะครับ หากมีแผนเที่ยวอยู่ในลิสต์ 10 ประเทศนี้ แนะนำให้ซื้อประกันการเดินทางติดตัวไปด้วย รับรองว่า ปลอดภัยหายกังวลตลอดทริปเที่ยวต่างประเทศเลยล่ะคร้าบบบ สามารถอ่านเคล็ดลับน่ารู้เกี่ยวกับประกันการเดินทางก่อนตัดสินใจซื้อได้จ้ะ