เมื่อปลายฝนกำลังจะหมด หน้าหนาวเตรียมเข้ามาเยือน แต่ไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดี? วันนี้เราอยากจะพาทุกคนไปชมทะเลหมอกเมืองไทยด้วยกัน โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคมปลายฝนต้นหนาวจะเต็มไปด้วยความชุ่มช่ำ ไม่ว่าจะเป็นความเขียวขจีของธรรมชาติ ภูเขา และป่าไม้ พร้อมรับลมเย็นๆ ให้สดชื่นเต็มปอดอีกด้วย หากใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวแบบ 3 วัน 2 คืนชิวๆ ลองแวะมาเที่ยวเขากันเลย รับรองสนุกไม่ผิดหวังแน่นอน
“เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน” มุ่งหน้าเข้าสู่บนดอยแม่สลอง จ.เชียงราย เส้นทางแห่งดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือดอกซากุระเมืองไทย พร้อมพลิดอกไม้สีชมพูบานสะพรั่งในช่วงปลายฝนต้นหนาว สลับกับความงามด้วยไร่ชา 101 หรือไร่ชาวังพุดตาล ที่ทอดตัวปกคลุมไหล่เขาบนดอยแม่สลอง หากเราเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอชาวบ้านพื้นถิ่นมาเก็บชากัน เราสามารถแวะจิบชาร้อนๆ บนดอยแม่สลองกันได้ หลายคนลือกันว่ารสชาติของชาจะนุ่มลิ้น และหอมกลมกล่อมมากๆ ส่วนในยามเช้าที่ดอยแม่สลองเรายังได้ชมทะเลหมอกสุดอลังการด้วยนะ เหมาะกับการถ่ายรูปเช็กอินสุดๆ
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 น.-19.00 น. ค่าเข้าชม 20 บาท
“ป่าไม้เขียวขจี มีหมอกสามฤดู” เมืองที่เต็มไปด้วยหมอกหนาๆ และวัฒนธรรมของชาวไทยภูเขา ก็ต้องนึกถึงจังหวัดแม่ฮองสอนเป็นอันดับหนึ่ง เพราะที่นี่จะเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ หากคุณมีโอกาสสักครั้งลองมาเที่ยวปางอุ๋งจากโครงการพระราชดำริปางตอง 2 หลายคนต่างก็ขนานนามว่าที่นี่เป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” ด้วยความงามของทิวเขา ต้นไม้ใหญ่ สลับกับวิวอ่างเก็บน้ำปางตองที่เงียบสงบ พาให้คุณได้สัมผัสหมอกเย็นๆ ในช่วงปลายฝนต้นหนาว
นอกจากนี้ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ล่องแพชมวิว และบรรยากาศรอบๆ ปางอุ๋งอีกด้วย แต่ถ้าใครที่อยากนอนพักแรมชิวๆ แนะนำให้รีบจองที่พักในอุทยานจะมีทั้งบ้านพักและเต้นท์นอนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ราคาหลักร้อยแต่วิวหลักล้าน!!
อ่านเพิ่มเติม : 55 พิกัดเที่ยวหน้าหนาว รวมพิกัดเหนือจรดใต้
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 05.30 น.-18.00 น. ทั้งนี้ปางอุ๋งจะมีพื้นที่บางส่วนอยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสือ จึงมีค่าเข้าชมอุทยานด้วย ราคาผู้ใหญ่ 20 บาท และราคาเด็ก 10 บาท
“สูงสุดแดนสยาม เมืองงามแห่งขุนเขา” อีกหนึ่งพิกัดที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวบนดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เมืองล้านนาที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติป่าไม้ ภูเขาลำเนาไพร ไม่ว่าใครต่างก็ต้องรู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งที่เที่ยวดอยอินทนนท์จะมีจุดให้แวะหลายจุด ทั้งบนดอยอินทนนท์และบริเวณใกล้เคียง ได้แก่
ถือเป็นหนึ่งเส้นทางเที่ยวเชียงใหม่หน้าฝนที่คุณห้ามพลาด!! ยิ่งถ้ามาเที่ยวหน้าฝนทุ่งนาบริเวณนั้นจะเขียวชอุ่ม และมีนาขั้นบันไดสลับสวยงามด้วย หรือใครมีเวลาหน่อยจะแวะซื้อผักผลไม้จากโครงการหลวงบนดอยอินทนนท์ เพื่อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกันได้
เปิดให้ทำการทุกวัน เวลา 05.00 น.-18.00 น. ค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนไทย 40 บาท และเด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ราคา 200 บาท และเด็ก 100 บาท
“สวรรค์ทะเลหมอกในยามเช้า” พาเดินทางเข้าสู่ถิ่นใน จ. เพรชบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ เมืองไทยกันต่อ นอกจากจะมีที่เที่ยวเขาค้อให้ชมวิวสวยๆ กันแล้ว อีกหนึ่งพิกัดไม่ควรพลาดเลยก็คือ “ที่เที่ยวภูทับเบิก” จุดชมทะเลหมอกที่สวยและสูงสุดในเพชรบูรณ์ คุณจะได้ชมความเขียวขจีของป่าไม้ และไร่กระหล่ำปลีที่ชาวบ้านปลูกสลับเป็นขั้นบันได หากมาเที่ยวในช่วงเดือนตุลาคมปลายฝนต้นหนาวจะได้ชมทะเลหมอกในยามเช้า ส่วนบริเวณนั้นสามารถกางเต้นท์นอนเองได้ แต่เราอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์เดินป่าตั้งแคมป์เผื่อไว้ด้วยนะ จะได้รับลมเย็นๆ บนยอดเขาแบบใกล้ชิด
เปิดให้ทำการทุกวัน เวลา 00.00 น.- 24.00 น. ค่าเข้าชมอุทยาน 40 บาท (ทั้งนี้ค่าเข้าชมอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำให้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานก่อน)
“เมืองหนาวสูงสุดแห่งหุบเขา” ต้องแวะมาเที่ยวกันที่จังหวัดเลย ท่ามกลางหุบเขาและอากาศที่หนาวเย็นจับใจ สำหรับใครที่อยากจะมาพิชิตยอดเขาต้องมาเที่ยวภูกระดึงสักครั้ง โดยที่นี่จะเป็นอุทยานแห่งชาติที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่เดือนตุลาคม - พฤษภาคมของทุกปี ทางเดินจะค่อนข้างยาวประมาณ 9 กิโลเมตร และใช้เวลา 3-5 ชั่วโมง เราจะต้องเตรียมกายเตรียมใจให้พร้อมก่อนออกเดินทาง นอกจากนี้ที่เที่ยวภูกระดึงยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ให้เราเยี่ยมชมอีกด้วยนะ เช่น
ส่วนเรื่องกระเป๋าสัมภาระของเรา ก็หมดห่วงไปได้เลย เพราะที่นี่จะมีบริการรับจ้างหาบสัมภาระขึ้นให้ด้วย เราจะได้เดินขึ้นเขาอย่างสบายใจ ซึ่งแต่ละจุดจะมีที่พักชมวิวระหว่างเดินขึ้น-ลงภูกระดึง พร้อมบริการที่พัก และร้านค้าให้นักท่องเที่ยวได้เติมพลัง เหมาะกับการพักผ่อนแบบ 3 วัน 2 คืน ไม่ควรพลาด!!
แต่ที่เที่ยวภูกระดึงไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นตลอดปี ช่วงฤดูการท่องเที่ยวเปิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคมของทุกปี และช่วงปิดฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายนของทุกปี จะมีค่าเข้าชมคนไทย ราคาผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติ ราคาผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท
“ท่องเขาใหญ่ ลำเนาไพร” เราจะพาทุกคนไปที่เที่ยวเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา หลายคนต่างเล่ากันว่าที่เที่ยวเขาใหญ่มีความหลากหลายทางธรรมชาติมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพืชพรรณป่าไม้ ดอกไม้ สัตว์ป่า น้ำตก และภูเขา ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสอากาศเย็นๆ บนยอดเขา แต่ถ้าคุณอยากต้องการใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น สามารถจองที่พักกับทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ มีทั้งบริการที่พักเดี่ยว บ้านพัก และจุดบริการให้เช่าเต้นท์ด้วย พอเดินเลาะตามทางไปหน่อยจะมีน้ำตกให้เยี่ยมชม พร้อมให้คุณได้ถ่ายรูปสวยๆ กลับบ้านเพียบ
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00น.-18.00 น. ราคาบัตรผู้ใหญ่คนละ 40 บาท และเด็ก 20 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท และเด็ก 200 บาท
“แดนเนรมิต พิชิตยอดเขา” ที่ภูฝอยลม จ.อุดรธานีกันต่อ เที่ยวหน้าฝนต้นหนาวดีๆ แบบนี้เราจะได้มีเวลาชมวิวเขา-ดอกไม้นานาชนิด สลับกับเมฆหมอกสีขาว ซึ่งอุทยานแห่งชาติภูฝอยลมยังมีพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ รูปปั้นไดโนเสาร์จำลอง ซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ และเส้นทางเดินเท้าให้แวะชมตลอดทางด้วย ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมาทั้งกลุ่มครอบครัว กลุ่มเพื่อนและคู่รัก พร้อมทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ตั้งแคมป์พักแรม กิจกรรมเดินป่า สำรวจระบบนิเวศ เป็นต้น ถ้าเรามีโอกาสมาเที่ยวภูฝอยลมก็จะได้เห็นวิวต่างๆ ของจังหวัดอุดรธานีแบบพาโรนาม่าเลย
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00 น. - 20.00 น. ไม่มีค่าเข้าชม
“เมืองสองทะเล เสน่ห์ภูผา” หากพูดถึงเมืองใหญ่สองทะเลที่ติดทั้งอ่าวไทย และทะเลสาบสงขลาแห่งเดียวในไทย เราก็ต้องนึกถึงจังหวัดสงขลาเป็นอันดับแรก ดินแดนปักษ์ใต้บ้านเรานี่เอง วันนี้เราจะพาทุกคนไปชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามที่สุด นั่นก็คือ “เขาคอหงส์” สวนสาธารณะที่อยู่ใจกลางเมืองหาดใหญ่ มีทั้งโซนให้อาหารปลา โซนเรือปั่น โซนออกกำลังกาย และจุดให้นั่งชมวิวด้านบน แต่สำหรับใครที่เดินขึ้นเขาไม่ไหว ทางเจ้าหน้าที่จะมีบริการให้นั่งเคเบิ้ลคาร์ส่งนักท่องเที่ยวขึ้นเขาด้วยนะ พอลงจากเคเบิ้ลคาร์ก็จะได้เห็นพระพุทธมงคลมหาราช มีลักษณะองค์ใหญ่ยืนสง่างาม พร้อมสักการะเจ้าแม่กวนอิม ท้าวมหาพรหม และเทพองค์อื่นๆ อีกมากมาย นอกจากอิ่มบุญกันไปแล้ว เรายังได้เห็นทิวทัศน์เมืองหาดใหญ่แบบ 360 องศาด้วยนะ ฟินหมือนอยู่เมืองนอก
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00 น. - 20.00 น. ไม่มีค่าเข้าชม แต่จะมีค่าธรรมเนียมเคเบิ้ลคาร์ คนไทยผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท และชาวต่างชาติ 300 บาท
“ดินแดนแห่งธรรมชาติและสายหมอก” อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จะพาเพื่อนๆ ไปชมเขาพะเนินทุ่งจังหวัดเพชรบุรี สถานที่เที่ยวน่าสนใจในอุทยานแก่งกระจาน บริเวณรอบๆ ป่าเขาจะมีทิวทัศน์งดงาม เราจะได้ชมทะเลหมอกในยามเช้า สำหรับการเดินทางไปยังเขาพะเนินทุ่งก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง เพื่อเตรียมอาหารและเต้นท์พักให้กับคุณได้ แต่ที่นี่จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงกรกฎาคมของทุกปี และมีรถให้ขึ้นเขาเป็นรอบๆ อีกด้วย ว่าแล้วก็ไม่รอช้ารีบมาเที่ยวเขาพะเนินทุ่งที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกันเลย
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจะปิดพื้นที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ตั้งแต่บริเวณด่านสามยอด - บ้านกร่างแคมป์ – เขาพะเนินทุ่ง ในวันที่ 1 ส.ค - 31 ต.ค. แล้วจะเปิดอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ย.ของทุกปี สำหรับเวลาขึ้นเขา (ช่วงเช้า) 05.30 น. - 07.30 น. เวลาลง 09.00 น. - 10.00 น. และช่วงบ่ายเวลา 13.00 น. - 15.00 น. เวลาลง 16.00 น. - 17.00 น. โดยมีค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานคนละ 100 บาท
“ภูเขาสุดชายแดนแสนอัศจรรย์” ถ้าคุณเป็นสายรักเขาจะต้องไม่พลาดกับที่เที่ยวทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อีกหนึ่งพิกัดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะคุณจะได้สัมผัสทั้งธรรมชาติ และสัตว์ป่าแบบใกล้ชิด ซึ่งอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิจะมีจุดชมวิวทั้ง 3 จุด ได้แก่ จุดชมวิวเนินกุกดอย จุดชมวิวเนินช้างพลาย และจุดชมวิวเนินช้างศึก
อ่านเพิ่มเติม : รวมเส้นทางตื่นตาตื่นใจ ขับรถไปเที่ยวเมืองกาญฯ
ถ้าคุณมีโอกาสมาเที่ยวหน้าฝนจะได้สัมผัสทั้งความร่มรื่น และเขียวขจีของต้นไม้ นอกจากนี้ภายในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิจะมีแม่น้ำลำธาร น้ำตกที่ไหลผ่านให้แวะถ่ายรูปกันด้วย หรือใครที่ชอบส่องสัตว์ในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิจะมีสัตว์ป่าที่หาชมได้ยากอาศัยอยู่หลายแห่ง เช่น เลียงผา เก้ง ชะนี ชะมด พังพอน กระต่ายป่า นกนางแอ่น นกกระสา นกขุนทอง เป็นต้น รับรองจะต้องตื่นตาตื่นใจแน่นอน
เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี มีค่าเข้าชมสำหรับคนไทย ราคาผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 20 บาท สำหรับชาวต่างชาติ ราคาผู้ใหญ่ 200 บาท และเด็ก 100 บาท
หากใครยังนึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวไหนดี? ก็สามารถเดินทางตามพิกัดที่ Frank เเนะนำข้างต้นได้เลย จะมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือจะลองค้างคืนสักคืนสองคืนก็ยิ่งดี เพียงหาวันหยุดว่างๆ ชวนเพื่อน ชวนแฟน หรือชวนคนในครอบครัวมาเที่ยวด้วยกันได้ ทั้งสนุกและผ่อนคลายแน่นอน แล้วที่สำคัญก่อนออกเดินทางเที่ยวหน้าฝนต้นหนาว เพื่อนๆ อย่าลืมมองหาประกันเดินทางในประเทศกับ frank.co.th เพื่อให้ดูแลทริปของคุณด้วยนะ ไม่ว่าจะไปเส้นทางไหนก็หายห่วงมากขึ้น เบี้ยเริ่มต้นเพียง 55 บาทเท่านั้น!!