ด้วยความเป็นกุลบุตรของพวกเรา เมื่อถึงคราวที่เราต้องดูแลแม่บ้างแล้ว เราก็อยากจะให้รู้เคล็ดลับเด็ดๆ ที่เราสามารถดูแลแม่แบบลูกสุดกตัญญู แล้วยังช่วยให้เราสบายใจมากขึ้นในความปลอดภัยของแม่ได้ด้วย นั่นก็คือ การใช้ความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมที่ดูแลด้านค่าชดเชยต่างๆ มาดูกันครับว่ามีค่าชดเชยอะไรกันบ้างที่น่าสนใจ
1.ความคุ้มครองเพิ่มเติมด้านชดเชยค่าเดินทางระหว่างซ่อม
2.ความคุ้มครองเพิ่มเติมด้านชดเชยปลอบขวัญจากอุบัตเหตุ
3.ความคุ้มครองเพิ่มเติมด้านคุ้มครองทรัพย์สินในรถที่ถูกโจรกรรม
มาเริ่มกันที่อย่างแรกกันก่อนเลยครับ เรื่องของการชดเชยค่าเดินทางระหว่างซ่อม นั่นก็คือ ไม่ว่ารถขอแม่เราจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกก็ตามในระหว่างที่เอารถเข้าซ่อมที่เกินว่า 12 ชั่วโมงนั้น เราสามารถที่จะเบิกค่าเดินทางเป็นค่าชดเชยได้นะครับ เพียงแต่ระวังเรื่องของข้อยเว้นของการประกันภัยเช่น เรื่องปริมณแอลกอฮอล์ในเลือดอย่าให้เกิน 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (ถ้าแม่จะปาร์ตี้ เราไปรับไปส่งดีกว่าครับ)
ส่วน การชดเชยปลอบขวัญจากอุบัติเหตุ นั้นก็คือ ความคุ้มครองตัวเราเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นที่เราเป็นฝ่ายถูกและมีคู่กรณีเท่านั้น เราสามารถเรียกค่าชดเชยที่เราเสียขวัญจากการเกิดอุบัติเหตุได้ สูงสุดไม่เกิน 2 ครั้งต่อปีนะครับ เพราะงั้นการติดกล้องที่รถยนต์ให้แม่ก็สำคัญนะครับ เพราะเราสามารถนำมาเปิดพิสูจน์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น สมัยนี้โจรมันแสบครับ
สุดท้ายคือ ความคุ้มครองทรัพย์สินในรถที่ถูกโจรกรรม ซึ่งก็คือ ความคุ้มครองที่เราซื้อเผื่อไว้ในกรณีที่รถของแม่โดนทุบกระจก หรือมีการงัดแงะแล้วโดนขโมยทรัพย์สินส่วนตัวในรถไป เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าเงิน โทรศัพท์ อุปกรณ์สื่อสารและอุปรณ์ต่อพ่วง เช่น iPad ที่เราไว้ให้แม่ดูแผนที่ กล้องถ่ายรูป และนาฬิกา เป็นต้น ที่เราสามารถเคลมค่าชดเชยได้ตามมูลค่าของที่ว่าหักค่าเสื่อมตามการใช้งาน หรือถ้าเกิดรถหายไป เค้าก็จ่าย 2 เท่าเลยครับ เพราะแม่อายุเยอะแล้วและต้องยอมรับความจริงที่ว่าโจรมักจะเลือกเหยื่อที่ดูอ่อนแอ ไม่มีทางสู้ หรือไม่เราก็คงต้องส่งแม่ไปเรียนชกมวยเพิ่มไว้แทนนะฮะ เพื่อแม่จะได้ป้องกันตัวเองได้ครับ