จะไป เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่แค่มีเงินอย่างเดียวแล้วจะไปเที่ยวได้นะ แต่ยังต้องมี “ดวง” ด้วย เพราะวิธีการผ่านตม. เกาหลีสำหรับคนไทยทุกวันนี้จัดว่าเข้มงวดไม่เบาเชียวล่ะ เพราะคนไทยบางส่วนที่เราเรียกกันว่า “ผีน้อย” ได้ก่อวีรกรรมไม่น่ารักเอาไว้ด้วยการลักลอบเข้าประเทศเกาหลีใต้ อย่างผิดกฎหมายเพื่อไปทำงานและไม่กลับไทยในเวลาที่กำหนด
ยิ่งทำให้คนที่ต้องการเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือที่เราเรียกกันว่า ตม. ยากขึ้น เพราะ ตม. เข้มงวดมากกว่าที่เคยเนื่องจากเป็นด่านแรกที่จะคัดกรองคนเข้าสู่ประเทศเกาหลีใต้นั่นเอง บรรดานักท่องเที่ยวผู้บริสุทธิ์ใจที่อยากจะไปแค่เที่ยวหาอปป้า หรือแค่อยากจะไปทานอาหารเกาหลีอร่อยๆ แบบพวกเราได้รับผลกระทบพลอยฟ้าพลอยฝนกับการตรวจที่ละเอียดมากขึ้นเป็นพิเศษไปตามๆ กัน
แต่ก็อย่าตื่นตกใจไปครับ ! เจ้าหน้าที่ตม.เขาก็ทำตามหน้าที่ เรามารับมือด้วยการเตรียมตัวให้พร้อมกันดีกว่า ว่าการจะผ่านตม.เข้าประเทศเกาหลีใต้ได้แบบง่ายๆ นั้น ต้องทำอย่างไรบ้าง กับ 4 วิธีการผ่านตม.เกาหลี แบบชิล ๆ ไม่ต้องกลัวถูกส่งกลับไทย!
ที่เราเอาการแต่งกายมาไว้ตั้งแต่ข้อแรกมาแนะนำคนที่จะเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองก็เพราะ การแต่งกายคือสิ่งแรกที่คนมักจะมองครับ ยังไม่ต้องพูด ยังไม่ต้องรู้จัก แต่ การแต่งกายจะบอกนัยยะบางอย่างได้เสมอ แต่ผมไม่ได้บอกให้ทุกคน ใส่สูทผูกไทด์ใส่กระโปรงสวมแสล็คไปเกาหลีนะครับ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด การแต่งกายที่ดีในที่นี้คือ “แต่งเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป” ที่หมายถึงการเลือกเสื้อผ้าให้พอเหมาะพอดีกับสภาพอากาศขณะนั้น ไม่น้อยไปไม่มากไปไม่เวอร์ไป สุภาพ สะอาด สวยงาม กระฉับกระเฉง แต่ก็อย่าชิลไปจนลืมคำว่า “กาลเทศะ” ใส่ขาสั้นคีบแตะแบบนี้ไม่ไหวครับ เพราะ ตม.ก็จัดเป็นหน่วยงานราชการอย่างหนึ่งของทางประเทศเกาหลีใต้ที่เราควรให้เกียรติ
ใครจะอยากใส่เกาะอกแฟชั่นนิสต้า หรือใส่เดรสยาวแหวกหน้าผ่าหลังประหนึ่ง หางปลาโลมาเชิญด้านนอกสนามบินครับ เอาให้ผ่านจากตม.เสียก่อน แล้วจะจัดเต็ม แค่ไหนก็ตามใจท่านเลย แต่ก็อย่าลืมเคารพกฎหมายของบ้านเมืองอื่นด้วย นะครับ เพราะคุณเป็นคนไทย เวลาเขาตำหนิก็เหมารวมทั้งประเทศแหละครับ เอาเป็นว่าเราไม่ชอบแบบไหนก็อย่าทำแบบนั้นละกันเนอะ
การออกเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง ห้ามลืมหนังสือเดินทาง เพราะเป็นสิ่งสำคัญอันดับ 1 เวลาเราจะออกนอกประเทศครับ และความโชกโชน ของพาสปอร์ตก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้การผ่าน ตม.นั้นง่ายขึ้น สำหรับคนที่มีหนังสือเดินทางหลายเล่ม ผมแนะนำให้พกไปให้หมดนะครับ อย่ากลัวหนัก เพราะคุณ ตม.อาจจะขอดูเล่มเก่าๆ เพื่อประกอบการพิจารณาด้วยก็เป็นได้ โดยสิ่งที่จะพิจารณาคือ
แต่สำหรับคนที่หนังสือเดินทางยังหน้าขาวอยู่ ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่ค่อย ได้เดินทางหรือ เพิ่งไปทำหนังสือเดินทางมาใหม่ก็อย่าเพิ่งใจเสีย ถ้าเราเตรียมเอกสารไปให้พร้อม และมีความตั้งใจว่าเราจะไปเที่ยวแถมยังเตรียมตัวด้วยการอ่านบทความวิธีการผ่านตมเกาหลีแบบนี้มาแล้ว ร้อยทั้งร้อยยังไงก็ผ่านครับ ซึ่งนอกจากหนังสือเดินทาง เอกสารที่ควรเตรียมไปด้วยหากคุณไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง จะมีประมาณนี้ครับ
การที่เรามีตั๋วเครื่องบินกลับ แสดงให้เห็นว่าเรามีกำหนดกลับที่แน่นอน ไม่อยู่เกินกำหนดแน่ๆ แนะนำให้พิมพ์แยกชุดสำหรับให้เจ้าหน้าที่ตม.ดูไปเลยครับ
การไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง "ที่พัก" เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าหากเราไปกับบริษัททัวร์ เรายังมีบริษัททัวร์คอยรับประกัน แต่ถ้าไปเที่ยวด้วยตัวเองคือไม่มี ที่พำนักเป็นหลักแหล่ง ของนักท่องเที่ยวขณะอยู่ในเกาหลีใต้จึงเป็นสิ่งบ่งบอกว่าเรา ไม่ได้อยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ หรือหนีไปในสถานที่ผิดกฎหมาย ซึ่งบางครั้งอาจมีการตรวจสอบไปยังโรงแรมเลยนะครับ ว่าในวันและเวลาดังที่เรากล่าวอ้าง มีชื่อเราเป็นผู้เข้าพักจริงหรือเปล่า ฉะนั้นการจองที่พักไปก่อนก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากไปหาเอาดาบหน้าคงไม่เหมาะ
วิธีการผ่านตมเกาหลีที่ดีที่สุดของคนที่ไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองสำหรับผม คือการทำแพลนเที่ยวในภาษาของผมเองให้ละเอียดที่สุด (ใช้ภาษาอังกฤษนะ ) เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเราตั้งใจมาเที่ยวเกาหลีจริงๆ อุตส่าห์ทำการบ้านมาขนาดนี้ โดยหากคุณเองเป็นคนที่แพลนการเที่ยวทั้งหมดก็คงไม่ยากเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ถามอะไรคงตอบได้ แต่สำหรับคนที่เดินทางมาด้วยแล้วไม่รู้แพลน ต้องพูดคุยกันก่อนนะครับ ควรให้เข้าใจตรงกันทุกคน และ ควรพิมพ์แผนการท่องเที่ยวฉบับภาษาอังกฤษออกมาถือกันไว้คนละ 1 ฉบับ เลย เจ้าหน้าที่จะได้ทราบว่าเรามาเที่ยวจริงๆ และแต่ละวันเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหนบ้าง ย้ำนะครับว่าทุกคนควรรู้แพลนว่าแต่ละวัน จะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เพราะเคยมีกรณีคนไทยถูกส่งกลับเพราะตามเพื่อนมา แถมยังไม่อ่าน แผนเที่ยว ที่เพื่อนทำให้ ขอล่ะ! อ่านสักนิด จำสักหน่อยเถอะ เพราะถึงเวลาเข้าห้องเย็น เพื่อนคนไหนก็ช่วยไม่ได้น้า
หากมีเอกสารรับรองอย่างที่ว่าคือสวยเลย เพราะเจ้าหน้าที่จะรู้ว่าตัวเรามีภารกิจที่เมืองไทย ที่ต้องกลับไปทำแน่นอน ไม่อยู่นานแน่ๆ เป็นเครดิตที่ให้น้ำหนักดีมากๆ เลยล่ะครับ จะปริ้นหลักฐาน หรือเอาบัตรประจำตัวพนักงานไปโชว์เลยผมก็เคยทำมาแล้วครับ
จริงๆ อาจดูเหมือนว่าเยอะเกินความจำเป็น แต่สำหรับคนที่มีหลักฐานด้านอื่นๆ ไม่แน่น เช่น อาจจะว่างงานอยู่ หรือเป็นฟรีแลนซ์ ไม่มีใบรับรองการทำงาน จะยื่น Statement ไปด้วยก็ได้นะครับ เพื่อเป็นหลักประกันว่าเราจะมีเงินใช้จ่ายมากพอจนไม่ไปประกอบ การทุจริตผิดกฎหมายในประเทศเขา
ประกันการเดินทางนอกจากจะช่วยคุ้มครองเรา ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ เจ็บป่วยกะทันหัน สัมภาระหาย แม้กระทั่งการล่าช้าของเที่ยวบิน ประกันการเดินทางจึงเป็นอีก วิธีการผ่านตมเกาหลี ของผม เพราะรายละเอียดและความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันระดับโลกจะทำให้เจ้าหน้าที่ ตม. ทราบว่าเราจะเข้าและออกจากประเทศภายในวันไหน (ประกันจะระบุจำนวนวันเดินทาง)
และนอกจากนี้ประกันการเดินทางยังเป็นเอกสารสำคัญในการขอวีซ่าเชงเก้นเที่ยวยุโรปด้วยล่ะ สามารถซื้อประกันการเดินทางจาก Frank.co.th ก็ได้นะ โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-106-5800 หรือ Facebook frank.co.th หรือจะสอบถามทางไลน์แอด @frank.co.th ได้เลยตามความสะดวกครับ
สัมภาระใครว่าไม่สำคัญ สำคัญนะคุณ! ขนาดควรพอเหมาะไม่น้อยไปหรือมากไป ไม่ใช่น้อยไปเหมือนไปปิกนิกหน้าบ้าน เขาจะคิดว่าคุณต้องมีใครมาเตรียมรอรับแน่ๆ ทั้งที่ความจริงคุณอาจจะอยากมาช้อปเสื้อผ้าที่นี่แทน หรือก็ไม่ใช่ว่าใหญ่ไปเหมือนจะไปยุโรป 3 เดือน แบบนี้ตม.ก็คงคิดว่าคุณต้องเตรียมมาตั้งรกรากที่นี่แน่นอน ขนาดกระเป๋าไซส์ 24 นิ้วน่าจะกำลังพอดีครับ ส่วนพวกซิมอินเทอร์เน็ตและเงินวอนก็ควรเตรียมไปให้พร้อม แต่ก็อย่าแลกไปเยอะเกินไปจะเสี่ยงต่อการทำเงินสูญหายได้นะครับ ทีนี้ล่ะเที่ยวไม่สนุกแน่
การเดินเข้าช่อง ตม.ไปด้วยความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญ ครับ จะทักเขาก่อนด้วยคำว่า สวัสดีค่ะ หรือ Hi ก็ไม่ผิด (แต่ตม.เขาก็จะไม่ค่อยตอบกลับมาหรอกนะ เพราะงานเขายุ่งและต้องรักษาภาพ ให้ดูน่าเกรงขาม) เพราะนี่เป็นเหมือนการเปิดประตูใจให้เขาเห็นก่อนว่า เออ ..เรามาแบบบริสุทธิ์ใจนะ เรามาเที่ยวนะ จริงใจขนาดทักคุณก่อนเลยนะเนี่ย แล้วก็ขณะที่รอก็กรุณานิ่งนะครับ ใครที่ทั้งชีวิตไม่เคยสงบนิ่งได้เลยเกิน 5 วินาทีก็ควรไปฝึกนิ่งให้ได้ สบตาเขาบ้างตามแต่โอกาส เพราะการที่คุณยืนกระสับกระส่าย มองซ้ายที ขวาที นั่นคือ “พิรุธ” ครับ ทั้งที่ความจริงคุณอาจจะแค่ตื่นเต้นไปหน่อย ใครไม่นิ่งก็เตรียมตัวบินเข้าห้องเย็นได้เลย แล้วก็ตั้งใจฟังตั้งใจดูเผื่อคุณ ตม. มีคำถามอะไรที่อยากจะถามเพิ่มเติม แล้วเมื่อผ่านแล้วก็อย่าลืมที่จะ Say Thank you! ด้วยน้า ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นคำถามประมาณนี้ครับ
ส่วนมากเจ้าหน้าที่ ตม.จะถามแค่ไม่กี่คำถามหรอกครับ แล้วก็มักจะวนๆ กับคำถามเหล่านี
โดยเจ้าหน้าที่จะถามด้วยภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ ไปฝึกพูดกันได้เลย ซึ่งถ้าฟังไม่ถนัดหรือยังไง สามารถถามเขาใหม่ด้วยคำว่า “Pardon ?” พร้อมยิ้มน้อยๆ ได้ครับ ไม่ต้องกลัว เมื่อเข้าใจแล้วก็ตอบไปตามความจริงแค่นั้นเอง ซึ่งผมจะบอกเคล็ดลับอีกข้อให้ครับ ว่าถ้าสมมติคุณเดินทางหลายคน แต่คนที่เดินทางกับคุณพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ และคุณใช้ภาษาอังกฤษได้ดีกว่า แนะนำให้คุณเข้าไปก่อน แล้วเวลาที่คุณ ตม.ถามเราจะได้บอกเขาไปว่ามากับอีก 2 คนข้างหลังด้วย เวลาถึงตาของ 2 คนนั้น เขาจะได้ไม่ถามมากเพราะเราบอกให้ก่อน แล้วว่าเดินทางมาเที่ยว กับเรายังไงล่ะครับ
นี่ก็เป็นข้อควรรู้และเทคนิคการเตรียมตัวต่าง ๆ ที่ Frank.co.th รวบรวมและกลั่นกรองจากประสบการณ์มาฝากทุกคนนะ สำหรับใครที่กำลังจะไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองสามารถอ่าน 10 เรื่องต้องรู้ก่อนเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองเพิ่มเติมได้นะคร้าบ
แหล่งข้อมูล