Bolttech Insurance Broker
LinePhone

5 สาเหตุยอดฮิต ไฟไหม้รถยนต์ พร้อมวิธีป้องกัน

ไฟไหม้รถยนต์ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้จริง สาเหตุหลัก ๆ มักมาจากความประมาทเลินเล่อ และการบำรุงรักษารถยนต์ที่ไม่เพียงพอนั่นเอง บทความนี้ bolttech จึงอยากนำเสนอ 5 สาเหตุยอดฮิตของไฟไหม้รถยนต์ไฟไหม้ พร้อมวิธีรับมือ เพื่อให้คุณสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย

1. ระบบไฟฟ้าลัดวงจร

ระบบไฟฟ้า เปรียบเสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงการทำงานต่าง ๆ ของรถยนต์ หากเกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร อาจทำให้เกิดประกายไฟ และลุกลามเป็นไฟไหม้ได้ง่าย สาเหตุหลัก ๆ ของไฟฟ้าลัดวงจรอาจมาจากสาเหตุดังนี้

สายไฟเก่า ชำรุด หรือฉนวนหุ้มหลุดลอก

สายไฟเสื่อมสภาพ อาจทำให้เกิดประกายไฟ หรือไฟฟ้ารถยนต์ลัดวงจรได้ง่าย เช่น สายไฟที่ถูกรอยขีดข่วน สายไฟที่โดนความร้อน สายไฟที่เปียกน้ำ หรืออาจโดนสัตว์กัดแทะจนเกิดความเสียหาย

อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถเสื่อมสภาพ

อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น วิทยุ แอร์ พัดลม หรือกระจกไฟฟ้า เป็นต้น ล้วนมีโอกาสเสื่อมสภาพจากการใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน และแน่นอนว่าอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้

การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติมโดยไม่ได้มาตรฐาน

สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติมที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือรถที่ซ่อมแซมโดยช่างที่ไม่มีความชำนาญ รวมไปถึงการเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ไม่มีมาตรฐาน อาจทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรได้

ฟิวส์ขาด หรือใช้ฟิวส์ที่มีขนาดไม่เหมาะสม

ฟิวส์มีหน้าที่ป้องกันความเสียหายของระบบไฟฟ้า ในกรณีฟิวส์ขาด หรือใช้ฟิวส์ที่มีขนาดไม่เหมาะสม ก็ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นได้

วิธีรับมือ

  • ตรวจเช็คสภาพสายไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ อยู่เสมอ ควรเช็คสภาพสายไฟอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง โดยช่างผู้ชำนาญ
  • เปลี่ยนอุปกรณ์ต่าง ๆ ใหม่ เมื่อตรวจพบความผิดปกติ หรืออุปกรณ์เกิดการชำรุด ไม่ควรปล่อยไว้ อาจตรวจสอบคู่มือรถเบื้องต้น หรือปรึกษาช่างผู้ชำนาญเพื่อรับการแก้ไขอย่างถูกต้อง
  • ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติมโดยช่างผู้ชำนาญ และ ใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน โดยเลือกใช้ช่างที่มีใบอนุญาต และใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน มอก.

2. รถเกิดอุบัติเหตุ

การเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการชนท้าย หรือพลิกคว่ำ อาจทำให้ถังน้ำมันรั่ว ท่อส่งน้ำมันแตก หรือสายไฟชำรุด ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย

วิธีรับมือ

  • ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เช่น ควรขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า หรือไม่ขับรถในขณะง่วงนอน
  • ตรวจเช็คสภาพรถยนต์อยู่เสมอ โดยเฉพาะระบบเบรก และระบบกันสะเทือน เช่น สภาพเบรก ผ้าเบรก น้ำมันเบรก หรือระบบกันสะเทือนของซีตรอง เป็นต้น

3. ของเหลวภายในรั่วไหล

ของเหลวภายในรถยนต์ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำยาหล่อเย็น ล้วนมีความไวไฟสูง กรณีเกิดการรั่วไหล ของเหลวดังกล่าวอาจทำให้สัมผัสกับความร้อนจากเครื่องยนต์ ทำให้รถร้อนสูง และเกิดการไฟและเกิดรถยนต์ไฟไหม้ตามมาได้ได้

วิธีรับมือ

  • ตรวจสอบระดับของเหลว ก่อนขับขี่ทุกครั้ง
  • สังเกตคราบของเหลวรั่วใต้ท้องรถ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหยด หรือคราบของเหลวอื่น ๆ ใต้ท้องรถ ให้รีบนำรถเข้าซ่อมแซม หรือตรวจสอบความปกติ
  • ใช้ของเหลวที่ได้มาตรฐาน และเหมาะสมกับรุ่นรถ โดยเลือกใช้ของเหลวที่ตรงกับสเปคของผู้ผลิต
  • เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง และไส้กรองต่าง ๆ ตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะไส้กรองจะช่วยกรองสิ่งสกปรก ป้องกันการอุดตัน และลดโอกาสการรั่วไหลของของเหลวได้

4. เครื่องยนต์มีอาการโอเวอร์ฮีท (Overheat) 

เครื่องยนต์จะมีความร้อนสูงอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากระบบระบายความร้อนเกิดทำงานผิดพลาด อาจทำให้เครื่องยนต์ร้อนสูงมากเกินไป  ซึ่งจะทำให้เกิดความร้อนสะสมภายในระบบระบายความร้อน (ระบบหล่อเย็น) สูงผิดปกติ จนอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหาย เกิดประกายไฟ และลุกลามเป็นไฟไหม้ได้

วิธีรับมือ

  • ตรวจเช็คระบบระบายความร้อนอยู่เสมอ เช่น ระดับน้ำในหม้อน้ำ ตรวจสอบสภาพหม้อน้ำ ท่อยาง ใบพัด และวาล์วต่าง ๆ
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และน้ำยาหล่อเย็นตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งน้ำมันเครื่อง และน้ำยาหล่อเย็นมีหน้าที่ช่วยระบายความร้อน
  • ไม่จอดรถตากแดดเป็นเวลานานๆ เนื่องจากความร้อนจากแสงแดดสามารถเพิ่มอุณหภูมิของเครื่องยนต์ได้

5. ระบบเชื้อเพลิงรั่วซึม

เครื่องยนต์มีความร้อนที่สูงอยู่แล้ว เมื่อน้ำมันเชื้อเพลิงรั่วซึมออกมา และสัมผัสกับความร้อนจากเครื่องยนต์ อาจทำให้เกิดไฟลุกไหม้ได้ง่าย รวมไปถึงภายในห้องเครื่องยนต์มีแหล่งกำเนิดไฟอื่น ๆ อยู่หลายจุด เช่น หัวเทียน แบตเตอรี่ ไดชาร์จ ฯลฯ ฉะนั้น หากน้ำมันเชื้อเพลิงรั่วซึมไปสัมผัสกับแหล่งกำเนิดไฟเหล่านี้ ก็สามารถทำให้เกิดไฟลุกไหม้นั่นเอง

วิธีรับมือ

  • ตรวจเช็คสภาพถังน้ำมัน ท่อส่งน้ำมัน หัวฉีด และ กรองน้ำมันเชื้อเพลิง โดยสังเกตรอยรั่ว คราบน้ำมัน หรือรอยฉีกขาดของอุปกรณ์ดังกล่าว
  • ปิดฝาถังน้ำมันให้สนิททุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำมัน และป้องกันสิ่งสกปรกเข้าถังน้ำมัน
  • ไม่เติมน้ำมันจนล้นถัง เพราะน้ำมันอาจไหลออกมา และเกิดไฟไหม้ได้

นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ได้ โดยเลี่ยงการสูบบุหรี่ภายในห้องโดยสารรถ เพราะสะเก็ดไฟแม้เพียงเล็กน้อย ก็เป็นเชื้อเพลิงชั้นดีได้ ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดไฟไหม้รถยนต์ได้แล้ว

ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ เพิ่มความอุ่นใจมากขึ้น คุ้มครองรถยนต์กรณีไฟไหม้ รถสูญหาย และพิเศษสุด! ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ กับ bolttech.co.th เช็กเบี้ยฟรี รู้ราคาทันที ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ พร้อมใส่โค้ด BUYONLINE ลดสูงสุด 18% หรือเข้ามาเลือกแผนประกันภัย ที่เหมาะกับความต้องการของคุณด้วย

Proudfah

เชื่อมต่อ กับพวกเรา

รับข่าวสารล่าสุดและข้อเสนอโดยติดตามเราในช่องโปรดของคุณ
LineFacebook
Bolttech
บริษัท โบลท์เทค อินชัวร์นส์ โบรคเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ใบอนุญาตินายหน้าประกันภัยหมายเลข
00017/2559
หมายเลขจดทะเบียนนิติบุคคล
0105559056161
รับรองความปลอดภัย และ อยู่ภายใต้ความควบคุม ของ
GeoTrustDBDOffice of Insurance Commission
Security & Compliances
GeoTrustDBDOffice of Insurance Commission
bolttech © 2021 All Rights Reserved.