เมื่อพูดถึง “เพนกวิน” หลายคนก็จะนึกถึงสัตว์น้อยแสนน่ารักที่อาศัยอยู่ตามซีกโลกใต้หรือขั้วโลกใต้ เนื่องจากเพนกวินเป็นสัตว์เมืองหนาว ที่มีขนหนาๆ เหมาะกับการใช้ชีวิตตามอากาศที่หนาวจัด แต่คุณรู้หรือไม่ว่า? อวัยวะของเพนกวินยังสามารถเอาตัวรอดจากศัตรูได้ด้วยนะ เป็นยังไงล่ะ !! “เก่งจริง ๆ เลยนะตัวเล็กแค่เนี้ยะ!!” ยังรู้จักหาวิธีเอาตัวรอดด้วย วันนี้กูรูเพนกวินอย่าง Frank เลยอยากจะมาแชร์เรื่องราวแสนน่ารัก และเรื่องน่ารู้วิธีเอาตัวรอดของเพนกวินมาฝากชาวเเฟรงค์กันด้วย จะมีอะไรบ้าง ลองมาดูกันเถอะ
ด้วยคุณสมบัติของเพนกวินจะมีดวงตาเล็ก ๆ สีสันแตกต่างกัน เช่น สีขาว สีดำ สีส้ม และสีเหลือง (ขึ้นอยู่แต่ละสายพันธุ์นะครับ) โดยตาของเพนกวินจะไวต่อการมองเห็น และปรับตัวกับสภาพแวดล้อมได้ดีมาก บางสายพันธุ์ก็มีขนตาที่ยาวมากทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นไปอีก หากมีศัตรูเข้ามาทำร้าย เพนกวินก็จะรีบหลบหนีทันที แถมยังมองเห็นตอนกลางคืนได้ดีด้วย แล้วเพนกวินบางสายพันธุ์ก็มีเปลือกตาช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากดวงตาอีกด้วยนะ อื้อหื้อ เท่สุด ๆ เลยครับ
สำหรับวิธีการเอาตัวรอดของเพนกวินนั้น มันจะคอยส่งเสียงเรียกหากัน เพื่อสื่อสารกับฝูงครับ ซึ่งเพนกวินจะมีเสียงความถี่เฉพาะตัวในการตามหาลูกๆ ของมันอยู่แล้ว จึงสามารถจดจำเสียงกันได้ หากเพนกวินรู้สึกว่ากำลังมีศัตรูเข้ามาเยือนใกล้ ๆ ก็จะเปล่งเสียงร้องออกมา เพื่อเรียกให้ครอบครัวเข้ามารวมตัวกัน และที่แปลกแต่จริง เพนกวินยังสามารถจำเสียงของคู่รักได้ด้วยนะ ถึงแม้ว่าเสียงของเพนกวินจะเหมือนกันเป๊ะจนแทบจะแยกไม่ออกก็ตาม
ถือเป็นอวัยวะที่สำคัญของเพนกวินเลยครับ เนื่องจากเพนกวินเป็นสัตว์ที่ใช้ชีวิตอยู่ในน้ำ 75% และมีปีกที่สามารถว่ายน้ำใกล้เคียงกับปลา โดยปีกเพนกวินเนี้ยะใช้ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 22-24 กิโลเมตร/ชั่วโมง และยังสามารถดำน้ำลึกได้อีกถึง 250 เมตร เพื่อว่ายน้ำหนีสัตว์นักล่าต่าง ๆ อย่างเช่น สิงโตทะเล แมวน้ำเสือดาว วาฬเพชฌฆาต และนกนางนวลครับ แต่สาเหตุทำไมเพนกวินมีปีกแล้ว ถึงบินไม่ได้? เพราะว่าความสามารถที่ดีในการว่ายน้ำ และดำน้ำนี่แหละครับ จึงทำให้ปีกของเพนกวินไม่สามารถบินได้ รวมถึงการว่ายน้ำจะใช้พลังงานน้อยกว่า ในขณะที่เพนกวินบินจะใช้พลังงานมหาศาลนั่นเอง
หลายคนเคยสงสัยไหมครับ ว่าทำไมเพนกวินถึงสามารถทนกับความหนาวได้ดี? สาเหตุก็มาจากเพนกวินมีหน้าท้องเต็มที่ไปด้วยไขมันครับ จึงกักเก็บความร้อนของร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม เปรียบเสมือนถุงน้ำร้อนที่สาว ๆ ใช้ตอนเป็นประจำเดือนเลยล่ะ ซึ่งขนของเพนกวินจะมีทั้งหมด 2 ชั้น ได้แก่ ชั้นนอกที่มีขนหนาๆ เพื่อป้องกันความหนาวเย็น และกันน้ำได้ ส่วนชั้นในก็ทำหน้าที่เหมือนขนนกทั่วไป ว่ากันว่าความหนาของขนเพนกวินอยู่ที่ 100 ขนต่อตารางนิ้ว สามารถทนอุณหภูมิได้ต่ำสุดถึง -40 องศาเซลเซียส แถมยังทนต่อแรงลมได้มากถึง 40 เมตร/วินาทีอีกด้วยครับ
นอกจากนี้นักวิจัยบางคนก็พบว่า ขนหน้าท้องของเพนกวิน มีคุณสมบัติพิเศษก็คือ เมื่ออยู่บนบกขนเพนกวินก็จะตั้งตรงเพื่อลดการสูญเสียความร้อน แต่ถ้าเพนกวินว่ายลงไปในน้ำขนชั้นนอกของเพนกวินก็จะเเนบลำตัว เพื่อปรับตัวกับสภาพแวดล้อม หรือวิธีเอาตัวรอดของเพนกวินจากศัตรูบนบก มันก็จะใช้หน้าท้องในการไถลตัวไปตามทางลาดชันหรือพื้นที่ลื่นเป็นน้ำเเข็งครับ จะช่วยทำให้เพนกวินเคลื่อนตัวได้เร็วมากขึ้น
อีกหนึ่งวิธีเอาตัวรอดของเพนกวินที่สำคัญ และขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ เท้าของเพนกวินครับ มันจะมีลักษณะเหมือนกับเท้าเป็ด ถึงจะขาสั้นแต่แข็งแรง และพริ้วสุด ๆ สามารถบังคับทิศทางได้เป็นอย่างดี ซึ่งเพนกวินจะใช้เท้าในการว่ายน้ำ และดำน้ำไปพร้อม ๆ กับปีกของมัน เพื่อช่วยหลบหนีศัตรูในน้ำ แต่เมื่อเดินบนบกแล้ว เพนกวินก็จะเดินตัวตรงอย่างช้า ๆ บางครั้งก็จะเดินหาก้อนหินหรือกิ่งไม้มาทำรังให้กับตัวเองและครอบครัว เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น และอำพรางศัตรูครับ นอกจากนี้เพนกวินยังมีหางช่วยทรงตัวระหว่างเดินด้วยนะ
เห็นไหมล่ะ วิถีชีวิตสัตว์โลกแสนน่ารักอย่างเพนกวินที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในที่หนาวจัด เต็มไปด้วยดินแดนสัตว์นักล่า ก็ยังรู้จักใช้อวัยวะของตัวเอง เพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ รอบตัว ดังนั้น เราเองก็ต้องหาวิธีป้องกันตัวเองเหมือนกับเพนกวินนะครับ ด้วยการซื้อประกันเดินทางกับ frank.co.th ไม่คุณจะท่องเที่ยวที่ไหน เมืองร้อน หรือเมืองหนาวอย่างขั้วโลกใต้ ประกันเดินทางก็จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วย หรือบาดเจ็บระหว่างเดินทางให้ครับ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าห้องพัก ค่ายา หรือค่าเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ก็มั่นใจได้เลยว่าคุณจะปลอดภัยหายห่วง พร้อมกับบริการฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เอาเป็นว่าถ้าคุณอยากอุ่นใจเหมือนเพนกวิน ก็ลองหาความคุ้มครองให้ช่วยดูแลคุณกันเถอะ แล้วยังมีอีกหลาย ๆ ประกันภัยไว้ดูแลคุณอีกเพียบเลยนะ !!
เพนกวินชอบกินปลา, ครัสเตเชียน หรือหมึกครับ
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : seaworld.org