“พาพ่อแม่เที่ยวต่างประเทศ” คำนี้อาจฟังดูธรรมด๊า ธรรมดาสำหรับคนทั่วไป แต่คำนี้มีค่าและท้าทายสำหรับลูกๆ อย่างเรามากเลยนะ เพราะนอกจากเราจะได้ไปพาคุณพ่อ คุณแม่ หรือ ป่าป๊า หม่าม๊าไปเที่ยวที่สวยๆ ในต่างประเทศด้วยเงินที่เราตั้งใจทำงานหามาแล้ว การได้ดูแลท่านให้มีความสุขและปลอดภัยตลอดทริปก็เป็นความท้าทายอันยิ่งใหญ่ทีเดียวเชียว เพราะพวกท่านไม่ใช่หนุ่มสาวที่แข็งแรงพร้อมขึ้นเขาลงห้วยแบบพวกเรา
วันนี้เลยอยากมาบอก 8 เทคนิคการพาพ่อแม่เที่ยวต่างประเทศแบบแฮปปี้ทุกฝ่าย มาฝากทุกคนที่ยังกล้าๆ กลัว ๆ กับการพาคุณพ่อคุณแม่ที่สูงวัยไปเที่ยวกันครับ ทริปนี้แนะนำให้ไปกับครอบครัวเท่านั้น เพราะอยากให้ทริปนี้ Happy Family อบอวลไปด้วยความรักระหว่างพ่อแม่ลูกจริง ๆ
วิธีนี้จะแก้ปัญหา “การบ่น” ลงไปได้อักโขเลยล่ะครับ เพราะท่านเป็นคนเลือกเอง (แอบยิ้มมุมปาก ฮ่าๆ) เพราะการที่เราให้ท่านเลือกประเทศที่อยากไป คือจุดเริ่มต้นของทริปทั้งหมดครับ จะได้ดั่งใจสบอารมณ์หรือไม่ก็อยู่ตั้งแต่ที่การเลือกประเทศเลยล่ะ แล้วคุณพ่อคุณแม่เขาจะได้เตรียมตัวเตรียมใจถูกว่าจะต้องไปพบเจออะไรบ้าง (เพราะเท่าที่สัมผัสมาคนแก่ไม่ชอบเซอร์ไพรส์ครับ ฮ่าๆ) โดยอาจหารีวิวให้ท่านอ่าน หรือเปิดรูปให้ท่านดูก็ได้ แล้วแต่กลวิธีของลูกแต่ละบ้านเลย ก็ควรบอกท่านด้วยนะครับ ว่ามีงบประมาณเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าคุณแม่อยากไปทานเป็ดเจ้าดังที่ลอนดอน แต่เรามีงบประมาณเท่าไปหลวงพระบางนะครับ ข้อนี้ต้องบอกน้า อย่าไปเขิน
ข้อนี้ก็ถือว่าสำคัญมากทีเดียวครับ เพราะพ่อแม่แต่ละบ้านมีไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกันเนอะ บ้านไหนคุณพ่อคุณแม่ยังแข็งแรงฟิตเปรี๊ยะ! และเป็นสายลุยหน่อยๆ อาจจะเลือกแบบเที่ยวเองได้ แบบนี้จะสนุกมากเลยทีเดียวหละครับ เพราะเราจะได้เห็นวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้นจริงๆ จะได้ลองขึ้นขนส่งสาธารณะของเขา ได้เดินชมถนนหนทางบ้านเมือง ซึ่งการเที่ยวกับทัวร์ จะไม่ได้สัมผัสแบบนี้แน่ๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทัวร์จะไม่ดีนะครับ ดีเลยหละและเหมาะมากกับ การคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ได้แข็งแรงจนขนาดเดินได้เยอะๆ เพราะไปต่างประเทศวันหนึ่งเดินไม่ต่ำกว่า 5 กิโลแน่นอน คนแก่ที่เจ็บหัวเข่า ไม่ชอบความลำบาก ไม่ชอบความร้อน ไม่ชอบความแออัด แนะนำให้ไปเที่ยวกับทัวร์ อย่างยิ่งครับหรือ ถ้าใครที่มีทุนเยอะหน่อยอาจจะเลือกทัวร์แบบส่วนตัว เลยก็ได้จะสะดวกและเป็นส่วนตัวกว่า เพราะไม่ต้องรีบทำเวลาแบบทัวร์ทั่วไปและสามารถขอปรับเปลี่ยน โปรแกรมตามความต้องการของเราได้ครับ
ถ้าไปเที่ยวเอง มีอะไรตกหล่นเรายังไปหาเอาดาบหน้าได้ใช่ไหมครับ แต่ถ้าไปกับพ่อแม่นะ โนววววว ไม่ควรพลาดเด็ดขาดความโกลาหลจะตามมา โดยความพร้อมที่ว่าเริ่มตั้งแต่เครื่องแต่งกายเลยครับ ต้องดูอากาศด้วยว่าจะร้อนหนาวแค่ไหนจะได้เตรียมตัวถูก ยิ่งถ้าเดินทางไปเมืองหนาวๆ ยิ่งสำคัญนะครับ หากอุปกรณ์กันหนาวไม่ดี แทนที่จะไปสนุกกันกลับป่วยหรือหนาวจนทรมาน จากเสื้อผ้า ที่ไม่พอดี นี่คือจบเลยนอกจากนี้ยังต้องมีแผนการเดินทางที่ดี ระบุไปเลยครับว่าวันนี้จะไปไหน อาจเริ่มจากที่ไกลๆ ก่อนแล้วเที่ยวแบบเข้ามาใกล้ที่พัก ขึ้นก็ประหยัดแรงและค่าเดินทางดีครับ ส่วนเงินก็สำคัญควรแลกไปให้พอดี เหลือดีกว่าขาด จะได้ไม่ต้องร้อนใจหากเงินหมดระหว่างทางยังไงล่ะครับที่สำคัญคือพวก ยาประจำตัวห้ามลืมเด็ดขาด แล้วก็อาจจะเตรียมพวกขาตั้งกล้องไปด้วย เราจะได้มีรูปพร้อมหน้าพร้อมตา และจบปัญหาคุณพ่อคุณแม่ถ่ายรูปไม่สวยยังไงล่ะคร้าบ
ลูกบ้านไหนที่ไม่เคยหวานกับพ่อแม่ โอกาสนี้มาถึงแล้วครับ ! เอาให้ท่านตะลึงไปเลย !! ทำตัวเป็นโดเรมอนสักหน่อย กระเป๋าอาจจะหนักขึ้นอีกนิดแต่มีพร้อมทุกอย่างที่ท่านต้องการ ยาดมเอย ยาแก้เมารถเมาเรือเอย หมวกเอย ร่มเอย ทิชชู่เอย น้ำขนมนมเนยเอย หรือแม้แต่น้ำพริก น้ำจิ้มซีฟู้ด เตรียมไปครับเตรียมไป อาจจะดูเยอะสำหรับหนุ่มสาวแบบเรา แต่พ่อแม่จะแฮปปี้แน่นอน เพราะการได้ทานของอร่อยที่ถูกปากจะทำให้อารมณ์ดีขึ้นอีก 50% ครับ คอนเฟิร์มมมม !! (แต่ก็อย่าลืมบอกให้ท่านลองสิ่งใหม่ๆ หรืออาหารพื้นถิ่นด้วยล่ะครับ จะได้ไม่เสียเที่ยว) และที่สำคัญมากๆ คือ พวกเอกสารสำคัญต่างๆ รวมถึงตั๋วโดยสาร เราควรเก็บไว้ให้ท่านด้วย โดยอาจทำสำเนาให้ท่านติดตัวไว้ 1 ชุดเพื่อป้องกันการสูญหาย ที่อาจตามมา รอบคอบไว้ก่อนพ่อสอนไว้ครับ อ่ออีกอย่างที่เกือบลืมบอกคือควรนัดจุดหมายกันเสมอนะครับ เผื่อเกิดกรณีพลัดหลง เชื่อผมเถอะ การมีแผน A แผน B ดีเสมอ
ไปเที่ยวกับพ่อแม่เรื่องการเลือกโรงแรมสำคัญมาก นะครับ เพราะการเที่ยวมาเหนื่อยๆ ทั้งวันแล้วได้กลับ มาพักบนเตียงนุ่มๆ ให้เท้าได้แช่น้ำอุ่น ที่โรงแรมนี่ถือว่าเป็นสวรรค์มากๆ เลยหละ สำหรับทั้งคนแก่ และคนไม่แก่ เรื่องนี้ห้ามงกครับ ผมแนะนำให้เลือกโรงแรมที่ค่อนข้างสะดวกสบาย มีลิฟต์ มีน้ำอุ่น เป็นโซนปลอดบุหรี่ มีอาหารเช้า มีสิ่งอำนวยความสะดวก และไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าหรือสถานที่ ท่องเที่ยวต่างๆ ราคาอาจสูงกว่าพวกโรงแรมแคปซูล หรือโฮสเทลแต่ความสบายต่างกันแน่นอนครับ แล้วก็ ควรออกเที่ยวสายๆ หน่อย แล้วก็กลับเข้าที่พักแบบไม่ดึกมาก ท่านจะได้มีเวลาพักผ่อน เช็คของ วันรุ่งขึ้นจะได้ออกเที่ยวตามแพลน ไม่เกิดการอิดออดไม่อยากตื่นยังไงละครับ (อ่ออ เตรียมแผน สำหรับวันที่ไม่อยากตื่นไปด้วยนะครับ เคสนี้ผมเคยเจอมาแล้ว ฮ่าๆ) อ้อ อาจจะเซอร์ไพรส์ท่าน (เอ๊ะ ไหนบอกคนแก่ไม่ชอบเซอร์ไพรซ์ ฮ่าๆ) ด้วยจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น จองชุดกิโมโนและยูกาตะ ให้คุณแม่คุณแม่เดินใส่ถ่ายรูปครับ ตอนแรกท่านอาจจะเขิน แต่เชื่อเถอะ หลังจากนั้นถ่ายรูปเพลินแน่ๆ ดีไม่ดี คุณพ่อคุณแม่อาจได้รูปชุดย้อนวัยหวานแบบ After Wedding ไปเป็นอัลบั้มเลยนะครับ คราวนี้แหละลูกตกกระป๋อง
สำหรับการไปเที่ยวในระยะเวลาสั้นๆ หลายคนคงอยากเก็บแต้มสถานที่ท่องเที่ยว ให้เยอะที่สุด ใช่ไหมครับ อย่างผมเนี่ยจากประสบการณ์ถ้าไปเที่ยวคนเดียว วันนึงอาจไปได้ 5-6 ที่เลยนะครับ แต่ ถ้าไปกับคุณพ่อคุณแม่เพื่อไม่ให้เหนื่อยเกินไป เที่ยว 3 สถานที่ต่อวันน่าจะกำลังดี ถือว่าเก่งมากแล้ว เน้นเที่ยวแบบลงรายละเอียดแทน อาจจะได้เที่ยวน้อยกว่า แต่รับรองว่าอินกว่า ฟินกว่าแน่นอนครับ หากพ่อแม่อยากอยู่จุดไหนนานหน่อยก็ตามใจนิดนึง ทริปนี้เราจะเป็นลูกที่ดี (ท่องไว้ๆ ฮ่าๆ)
เรื่องร้านอาหารก็เช่นกัน ไปถึงต่างประเทศเราก็อยากกินอาหารตามร้านเด็ด ๆ ที่คนเขารีวิวกันอ่ะเนอะ ซึ่งแน่นอนความอร่อยมักมาพร้อมกับคิวมหาศาล เราก็ต้องตัดสินใจนะครับว่าจะรอหรือไม่รอ เพราะบางทีพ่อกับแม่อาจจะไม่ได้อยากยืนคอยนานแบบนั้น และอย่าลืมว่าบางทีร้านที่ไม่ต้อง ต่อคิวก็อร่อยเหมือนกัน
(หรือเผลอๆ อาจจะอร่อยกว่าก็ได้นะครับ)
การบอกคุณพ่อคุณแม่ถึงมารยาทของแต่ละท้องถิ่นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จะดีมากหากทำได้ เพราะเราจะกลายเป็นนักท่องเที่ยวผู้น่ารักขึ้นมาทันทีครับ เพราะบางทีวัฒนธรรมแต่ละที่ ก็ไม่ได้เหมือนกับบ้านเราเสมอไป อาจมีจุดต่างกันบ้าง หรือบางทีอาจดีกว่าที่เราเคยทำ ซึ่งถ้าเรารับมาปฏิบัติบ้างก็น่าจะดี เช่น การขึ้นบันไดเลื่อนแล้วต้องชิดซ้าย หรือชิดขวาข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อให้คนที่รีบกว่ามีที่สำหรับเดินแซงขึ้นไปได้ การสั่งเซ็ทอาหารของใครของมันไม่แบ่งกัน การซู้ดราเมนเสียงดัง ๆ เพื่อบ่งบอกว่าอาหารอร่อย การไม่คุยเสียดังบนรถไฟฟ้า หรือการไม่เดินรับประทานอาหาร เป็นต้น
แต่ถ้าบ้านไหนเกรงว่าการบอกเรื่องมารยาท พวกนี้จะดูเป็นการสั่งสอนผู้ใหญ่มากไปนั้น ผมแนะนำให้บอกท่านว่า “ผู้รู้บอกมา” จะเป็นอาจารย์ เป็นดารา หรือใครพูดแทนเราก็ได้ ท่านจะเชื่อครับ (อันนี้ประสบการณ์ตรงของผมเอง ฮ่าๆ) เรียกว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ยังไงล่ะคร้าบบบบบ
หลายคนอาจคิดว่าประกันการเดินทางเป็นเรื่องไม่จำเป็น เป็นเรื่องฟุ่มเฟือย แต่ผมว่ามันคือ ความอุ่นใจครับยิ่งโดยเฉพาะในยามที่เราต้องพาผู้สูงอายุเดินทางไปต่างประเทศ ด้วยการ ดูแลเพียงลำพัง ซึ่งอาจทำได้ไม่ทั่วถึง ถ้าพลาดท่าเกิดการลื่นล้ม เกิดอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยกะทันหัน ประกันเดินทางที่มีความคุ้มครองจะช่วยเรา เพราะทุกคนก็น่าจะทราบกันดี ว่าการรักษาพยาบาลในต่างประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และค่าใช้จ่ายแพงหูฉี่ นอกจากคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแถมประกันการท่องเที่ยวยังคุ้มครองเหตุอื่น ๆ อีกด้วย
นี่ก็เป็น 8 ข้อเคล็ดลับที่อยากเอามาฝากทุกคน เพื่อจะได้นำไปปรับใช้กับทริปครอบครัว ที่กำลังจะมาถึงนี้ ขอให้ทุกคนมีความสุข สนุกกับการท่องเที่ยว แฮปปี้กันทั้งคนพาไปและคนถูกพาไปนะคร้าบ และถ้าสนใจประกันการเดินทาง ก็สามารถโทรหา Frank.co.th ได้ที่เบอร์ 02-106-5800 หรือ Facebook frank.co.th จะสอบถามทางไลน์แอด @frank.co.th ก็เลือกได้แล้วแต่ความสะดวกครับ