เมื่อถึงช่วงเวลาต้นปี เหล่าผู้มีรายได้ทุกคนต่างมีภารกิจที่ต้องรับผิดชอบนั่นคือ การยื่นภาษี ซึ่งในปี 2563 นี้ ทางภาครัฐได้อนุโลมให้ประชาชนยื่นภาษีบุคคลธรรมดาได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 63 เพื่อลดภาระผู้ยื่นภาษี ให้มีเงินนำไปใช้จ่ายหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เรามีเวลายื่นภาษีมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ Frank ก็ไม่อยากให้ท่านชะล่าใจ จึงขอมาเตือนด้วยความหวังดีว่า หากใครยังไม่ยื่นภาษีก็ให้เร่งดำเนินการก่อนจะสายเกินไป
แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าการยื่นภาษีนั้นมีความสำคัญอย่างไร ทำไมเราต้องยืนภาษี และจะยื่นภาษีนั้นต้องทำอย่างไร ทาง Frank จะมาช่วยไขคำตอบให้ตามประเด็นดังนี้ครับ
ตามกฎหมายไทยได้ระบุไว้ว่าให้ทุกคนที่มีรายได้ ยกเว้นผู้เยาว์ หรือผู้ที่ศาลสั่งว่าเป็นผู้ไร้ความสามารถต้องยื่นภาษี ซึ่งพูดง่าย ๆ ก็คือเหล่ามนุษย์เงินเดือน รวมถึงผู้ที่ประกอบอาชีพสร้างรายได้ทุกรูปแบบต้องมายื่นภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด. 90/91) ถ้าไม่ยื่นนับว่ามีความผิดตามกฎหมายและมีค่าปรับ โดยมีการกำหนดโทษคร่าว ๆ คือ ถ้าไม่ได้ยื่นภาษีภายในเวลาที่กำหนดจะมีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท หรือถ้าหนักสุดอาจโดนข้อหาหนีภาษีโดยมีโทษปรับสูงสุดถึง 200,000 บาทเลยทีเดียว
แต่ทั้งนี้อยากให้เราลองคิดว่าการยื่นภาษีนั้นจะเป็นการยื่นข้อมูลที่มีประโยชน์ให้กับทางภาครัฐ เพื่อให้ภาครัฐเก็บสถิติผู้ที่มีรายได้ของประเทศได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะมีส่วนในการวางแผนพัฒนาประเทศต่อไป ดังนั้นการยื่นภาษีให้ถูกต้องจึงเป็นการช่วยชาติไปในตัว เห็นแบบนี้แล้วเรามาเตรียมยื่นภาษีกันเถอะ
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่าการยื่นภาษีกับการเสียภาษีได้นั้นต่างกัน โดยการยื่นภาษีไม่ว่าจะมีรายได้มากหรือน้อยเท่าไหร่ก็ต้องทำเรื่องยื่นภาษี ซึ่งต้องทำทุกคน ถ้าไม่ทำจะมีโทษและค่าปรับทางกฎหมาย ส่วนการเสียภาษีเงินได้นั้น จะเป็นเงินที่ท่านต้องเสียหากมีรายได้สุทธิ (รายได้ทั้งหมดหักลบกับค่าใช้จ่ายและค่าลดย่อน) อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ดังนั้นสรุปได้ว่าหากท่านมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีเงินได้ ท่านก็ต้องยื่นภาษีเช่นกัน
การคำนวนภาษีเงินได้บุคคลแบบง่าย ๆ สามารถคำนวนได้จากการหารายได้สุทธิของเราเสียก่อน จากการนำรายได้มาหักลบกับค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน จากนั้นจึงนำรายได้สุทธิมาคำนวณอัตราการเสียภาษีแบบขั้นบันได ซึ่ง Frank เชื่อว่าหากท่านมานั่งคำนวนจริง ๆ ก็ค่อนข้างยุ่งยาก จึงขอแนะนำให้ไปโหลด App คำนวนภาษีมาใช้งานจะง่ายกว่า ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มี App มากมายหลายเจ้าให้เลือกใช้งาน เช่น RD Smart Tax, iTAX Pro, TaxCal Thai Lite เป็นต้น
เมื่อคำนวณดูแล้วทราบว่าตนเองจะต้องเสียภาษีในอัตราเท่าไหร่ หรือไม่ต้องเสียภาษีเลย ก็สามารถทำเรื่องยื่นภาษีเงินได้ที่เว็บไซต์กรรมของกรมสรรพากรได้ตามนี้
>> ยื่นภาษีกับกรมสรรพากร <<
ซึ่งต้องบอกเลยว่าระบบการยื่นถูกออกแบบมาให้เข้าใจง่าย ใช้เวลาไม่นานในการยื่น และสามารถยื่นได้ด้วยตัวเองแม้จะอยู่ที่บ้าน
แต่สำหรับใครที่ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ แล้วอยากจะยื่นลดหย่อนภาษี สามารถทำได้ง่ายตามวิธีการจากบทความนี้ อ่านบทความ ลดหย่อนภาษีฟรีแลนซ์ ? ต้องรู้ไรก่อนยื่นภาษีเงินได้
นอกจากยื่นภาษีแล้ว การวางแผนภาษีในปีถัดไปก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการวางแผนภาษีที่ดีก็จะช่วยลดหย่อนภาษีไปได้มาก ซึ่งในปีนี้ก็ตัวช่วยลดหย่อนภาษีมากมาย และ Frank เองก็ขอแนะนำการทำประกันสุขภาพ เพราะนอกจากจะช่วยลดหย่อนภาษีสูงสุดมากถึง 15,000 บาท แล้ว ยังได้รับความคุ้มครองในกรณีเจ็บป่วยหรือไม่สบาย เรียกได้ว่าซื้อความอุ่นใจพร้อมลดหย่อนภาษีไปในตัว
ขอบคุณข้อมูลจาก : Kapook, aommoney, กรมสรรพากร