อัพเดท ! มือใหม่หัดขับต้องระวัง เป่าแอลกอฮอล์เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าเมาแล้วขับ ตำรวจจับแถมประกันไม่จ่าย อ้างอิงตามตามกฎหมายและเงื่อนไขของประกันรถยนต์ที่ คปภ. ออกมาใหม่ล่าสุด โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีการปรับเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ผู้ทำประกันรถยนต์จำเป็นต้องรู้เพิ่มเติมจากข้อสอบใบขับขี่ 2563 รถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่ง Frank จะมาอธิบายให้ได้ทราบกันดังนี้ครับ
เมื่อก่อนเราเข้าใจกันว่า หากขับรถไปชนจนเกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แล้วมีการตรวจสอบเป่าแอลกอฮอล์พบว่าผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีความผิดในข้อหา "เมาแล้วขับ" และบริษัทประกันรถจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายจากกรณีเมาแล้วขับ
แต่..ภายใต้เงื่อนใหม่จะถูกปรับเปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่ง Frank จะสรุปให้เข้าใจง่ายดังนี้ครับ
1. เปลี่ยนมาตรฐานการเป่าวัดแอลกอฮอล์ใหม่ หากพบว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กำหนดจะถือว่าเมาแล้วขับ มีความผิดทางกฎหมาย และประกันจะไม่จ่ายค่าชดเชยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
2. หากผู้ขับขี่ไม่ยินยอมให้ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ตรวจเป่าแอลกอฮอล์ จะถือว่าผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ทันที และประกันก็จะไม่จ่ายค่าเสียหายกรณีเกิดอุบัติเหตุเช่นกัน ดังนั้นหากโดนเรียกตรวจเป่าแอลกอฮอล์ก็แนะนำว่าให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ดีที่สุดครับ
ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หากเทียบให้เห็นภาพแล้ว การดื่มสุราเพียงแก้วเดียวก็อาจทะลุเกินเกณฑ์ที่กำหนดแล้วครับ ดังนั้นไม่ว่าผู้ขับขี่จะอายุเท่าใด อยู่ในสภาวะไหน ไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือเก่า ก็ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถนะครับ เพราะนอกจากจะโดนตำรวจจับเป่าแอลกอฮอล์แล้ว หากเกิดอุบัติเหตุประกันก็จะไม่จ่ายเงินชดเชยให้คุณเช่นกัน รวมถึงยังมีความเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตคุณเองด้วยครับ
การปรับเงื่อนไขประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจฉบับใหม่ ยังมีหัวข้ออื่น ๆ ที่น่าสนใจนอกเหนือจากการปรับระดับเป่าแอลกอฮอล์ด้วยนะ Frank จะขออาสานำข้อมูลมาบอกกล่าวดังนี้ครับ
1. ปรับเงินเอาประกันในหมวดความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ขั้นต่ำ 500,000 บาท ต่อคน
ดังนั้นหากคุณขับรถเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิต จะได้เงินชดเชยจากประกันภาคสมัครใจรวมกับ พ.ร.บ. ที่ปรับความคุ้มครองใหม่ จะได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อคนเลยทีเดียว (ประกันภาคสมัครใจขั้นต่ำ 500,000 รวมกับ พ.ร.บ. 500,000 กรณีเสียชีวิต) ซึ่งเป็นการเพิ่มระดับเงินชดเชยค่าสินไหมให้ผู้ประสบภัยได้รับประโยชน์มากขึ้น แต่ทั้งนี้เบี้ยประกันอาจจะแพงขึ้นตามด้วยเพราะเงินเอาประกันขั้นต่ำเพิ่มขึ้นตามเงื่อนไขใหม่ ซึ่งผู้ทำประกันต้องตรวจสอบความคุ้มค่าของวงเงินเอาประกันกับเบี้ยที่ต้องจ่ายให้ดีก่อนเลือกซื้อนะครับ
2. แก้ไขการใช้รถในทางผิดกฎหมาย ขับรถหลบหนีเจ้าหน้าที่/ชนแล้วหนี ประกันไม่จ่าย !
ได้มีการเพิ่มเติมรายละเอียดกรณีใช้รถทำผิดกฎหมาย เช่น ปล้น/ชิงทรัพย์ ขนยาเสพติด ซึ่งส่วนที่เพิ่มเติมก็คือหากผู้ทำผิดใช้รถยนต์หลบหนีการตรวจค้นหรือการจับกุมเจ้าหน้าที่ แล้วเกิดอุบัติเหตุไปขับชน ประกันจะไม่จ่ายเงินชดเชยให้ครับ ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่ากลัวความผิดด้วยการขับรถหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจนะครับ เพราะนอกจากประกันจะไม่จ่ายเมื่อขับชนแล้ว ยังโดนโทษทางอาญาเพิ่มด้วยนะ
3. การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนโดยฉ้อฉล
ตั้งแต่นี้ไปบริษัทผู้รับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ สามารถปฏิเสธการเคลมได้ หากผู้ขับขี่ขอเคลมโดยทุจริต อย่างเช่นกรณีที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ คือ การขอเคลมสีรอบคันเท็จ หากตรวจสอบแล้ว บริษัทประกันนอกจากจะไม่จ่ายเคลมให้แล้ว คุณยังอาจโดนยกเลิกประกันโดยไม่คืนเงินให้แม้แต่บาทเดียวด้วยครับ
จะเห็นได้ว่าการปรับเงื่อนไขประกันภัยใหม่นั้นจะมีความเคร่งครัดทางกฎหมายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเป่าแอลกอฮอล์ที่ลดจำนวนมิลลิกรัมเปอร์เซ็นให้น้อยลง รวมถึงข้อกำหนดงดเคลมกรณีขับรถหลบหนีเจ้าหน้าที่ หรือการขอเคลมทุจริต แต่ในทางกลับกันก็ยังเพิ่มความคุ้มครองของวงเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำให้กับเราด้วย ซึ่ง Frank อยากให้มองว่าการปรับเงื่อนไขประกันครั้งนี้ทำเพื่อประโยชน์ต่อผู้ขับขี่คนทุก ซึ่งเป็นการผลักดันให้เราขับขี่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตลอดจนเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนครับ
Frank อยากให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญของการทำประกันภาคสมัครใจ รวมถึง พ.ร.บ. ว่าหากมีไว้ก็จะช่วยเราในยามเกิดเหตุไม่คาดฝันได้จริง ๆ ครับ สุดท้ายนี้ก่อนจากไปขอให้ทุกท่านขับขี่อย่างปลอดภัย เมาไม่ขับ เคารพกฎจจราจร และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจเป่าแอลกอฮอล์ด้วยนะครับ