ยางรถยนต์ขึ้นราคาทุกปี ทำยังไงให้ได้ยางเหมาะที่สุด

กลับมาพบกันอีกครั้ง วันนี้เราอยากจะมาช่วยเพื่อนๆ หาทางออกเรื่องยางรถยนต์ราคาแพง ถ้าคนใช้รถจะรู้อยู่แล้วว่า ค่ายางรถเป็นอะไรที่แพงอยู่แล้ว พอเปลี่ยนทีก็เกือบหลักหมื่น อย่างรถกระบะรถ SUV ก็เกือบไปสองหมื่น สามหมื่น ส่วนยางรันแฟลตติดรถหรูก็ยิ่งไปกันใหญ่ ราคาถึงสี่หมื่นกว่าบาท ตามจริงแล้วการจะเปลี่ยนยางใหม่แต่ละทีก็นานจนลืมเลย เมื่ออายุครบ 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร

นับว่าราคายางยิ่งมีแต่จะแพงขึ้นๆ ตามสภาพตลาดของต้นทุนวัตถุดิบการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน สารเคมี ยางพารา ค่าแรงงาน ฯลฯ ทั้งหมดนี้ทำให้ยางรถยนต์ราคาขึ้นแบบต่อเนื่อง ไม่เคยจะลดลงเลยใช่ไหมล่ะ?! เพราะฉะนั้นเราอยากจะมาช่วยแนะนำเพื่อนๆว่า การที่เรามีงบประมาณที่จำกัด เราสามารถที่จะเลือกใช้ยางที่มีคุณภาพ และ ตรงกับงบประมาณของเราได้

ต้องบอกว่า ในบ้านเรามีการโฆษณาของแต่ละแบรนด์ยางที่หลากหลาย ทำให้เกิดความมั่นใจในสินค้าในแต่ละรุ่นยี่ห้อแตกต่างกัน ทั้งแบรนด์ยางชั้นนำ ในเรื่องของงบโฆษณาที่เยอะ ก็สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ถือว่าอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เพื่อนๆ รู้สึกอุ่นใจกับการเลือกใช้ยางรถยนต์เพราะเป็นแบรนด์ที่รู้จักนั่นเอง หากเพื่อนๆ เห็นยางรถและได้สัมผัสยางรถจริงๆ คงสามารถแบ่งแยกได้แน่นอนว่า ยางที่มีให้เลือกแต่ละรุ่นยี่ห้อมันแตกต่างกันขนาดไหนใช่ไหมล่ะ

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการเกาะถนน ระยะเบรกบนถนนเปียก ประหยัดน้ำมัน และเรื่องเสียงยาง เป็นส่วนสำคัญที่อยากจะโฟกัสลงไปจริงๆ สำหรับบทความนี้ปัจจุบันถ้าเราสังเกตข้อมูลเหล่านี้ได้จากสติกเกอร์ที่ติดอยู่บริเวณข้างยางได้ง่ายกว่าเดิม ซึ่งตัว Label เป็นตัวชี้วัดไปเลยอย่างน้อยจะได้เป็นเกณฑ์ให้เพื่อนๆ ได้เห็นกันอย่างชัดเจน เพราะยางราคากลางๆ หรือ ราคาประหยัดเรื่องระยะเบรกบนถนนเปียกก็มีหลายยี่ห้อที่ใช้งานได้ดีเหมือนกัน โดยเกรดเริ่มตั้งแต่ A – G ความแตกต่างของเกรดคือระยะเบรกบนถนนเปียกที่ 18 เมตร เกรด A เป็นระยะ 0 เมตร แล้วก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนเกรด G ที่ 18 เมตร

เพราะฉะนั้นเวลาๆ เพื่อน ๆ เลือกเปลี่ยนยางทุกยี่ห้อใดก็ตาม ถ้าเพื่อนๆ คาดหวังจะได้ยางในราคาที่เหมาะกับตัวเอง เรามาเลือกดูเกรดยางกันง่ายๆ ตามค่ามาตรฐานสากลกันที่ Label ได้เลย แต่ไทร์บิดต้องขอบอกก่อนว่า เกรด A-G เป็นเกรดที่อยู่ในมาตรฐานรับได้ โดยส่วนมากเกรดที่ทางไทร์บิดขอแนะนำเลยก็คือ A-C ถ้ายางอยู่ในกลุ่มนี้เพื่อนๆ สามารถที่จะเลือกใช้ได้เลย เพราะถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความปลอดภัยอยู่ในเกณฑ์ที่ดีถึงดีมากอยู่แล้ว แต่ถ้าต่ำลงไป ก็ D-F ก็ถือว่ารับได้ ก็เป็นส่วนที่เพื่อนๆ แนะนำสอบถามกันเข้ามามากว่าสังเกตอย่างไรก็ต้องจุดนี้เลย

แต่ทั้งนี้อายุของยางอาจจะสั้นเร็วก็ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีการผลิตให้มาในแต่ละยี่ห้อว่าจะมีอายุการใช้งานจริงที่ดีขนาดไหน รวมไปถึงการดูแลเรื่องลมยางจากผู้ใช้รถเองก็มีส่วนช่วยยืดอายุของยางได้เช่นกัน ทำให้เพื่อนๆ ใช้ยางได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น สำหรับไทร์บิดของเราก็จะแบ่งยางเป็นหลายเกรดยางรถให้อยู่ตั้งแต่กลุ่มพรีเมียมอย่าง Michelin Bridgestone Yokohama กลุ่มคุณภาพ อย่าง Goodyear, Dunlop, Continental, Hankook, Toyo, Kumho, Apollo ยางกลุ่มราคาประหยัดอย่าง Maxxis, Dayton, Goodride, Bfgoodrich, Firestone, Kinto ซึ่งทุกยี่ห้อที่ทางไทร์บิดเลือกสรรมาอย่างดี ก็เป็นยางที่มีคุณภาพในระดับความปลอดภัยแน่นอน เพื่อนๆ คาดหวังในระยะเบรกก็จะอยู่ในกลุ่มแรกทั้งหมดเลย 

หากใครมีข้อสงสัยไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหน ช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ https://tiresbid.com/home ได้เลย มีแบรนด์สินค้าคุณภาพให้เลือกมากที่สุด และเพื่อนๆสามารถหาอ่าน บทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดในประเทศ แถมไทร์บิดยังมีบริการผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาอย่างเป็นกลาง ให้เพื่อนๆ ที่ต้องการสอบถามได้ยางที่เหมาะสมที่สุดผ่านทาง Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะครับ) พร้อมกับมี โปรโมชั่นยางรถพิเศษไทร์บิด อีกมากมาย ให้บริการครบทุกรูปแบบ จุดบริการ เปลี่ยนถึงบ้าน จัดส่ง Fast service ทุกรูปแบบการรับบริการนัดหมายล่วงหน้า ใช้เวลาเพียง 1 ชม.ในการรับบริการติดตั้งเปลี่ยนยาง ให้เรื่องยางรถของคุณง่ายยิ่งขึ้น ซื้อยางรถมั่นใจทุกครั้งที่ไทร์บิด วันนี้ก็ขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตาม หากมีข้อสงสัยเลือกยางไม่ถูกสอบถามมาที่ไทร์บิดของเราได้เลย