เส้นเลือดในสมองตีบ โรคร้ายใกล้ตัวที่คุณต้องระวัง มักเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป โรคอ้วน หรือคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ต้องระวังเรื่องของการกิน ทานอาหารที่มีประโยชน์ ถ้าคุณรู้จักดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ ขณะที่ตัวเองยังอายุน้อยๆ จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคนี้ได้
ภาวะโรคหลอดเลือดสมอง เกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งปัจจัยเสี่ยงที่ป้องกันได้และป้องกันไม่ได้ โดยขึ้นอยู่กับภาวะโรคประจำตัวก่อนหน้านี้ รูปแบบการใช้ชีวิต ได้แก่
เพราะสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ เราควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ก็จะช่วยลดโอกาสการเจ็บป่วยที่ไม่คาดคิด แล้วนี่เป็น 10 วิธีป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบหรืออุดตัน เส้นเลือดในสมองแตก สามารถดูแลตัวเองได้ง่ายๆ ดังนี้
การทานไขมันอิ่มตัวมากเกินไป ทำให้ร่างกายมีคอเลสเตอรอลสูงขึ้น เกาะตามผนังหลอดเลือดแดง เกิดอาการอุดตัน มักพบได้บ่อยในเนื้อสัตว์ที่มีไขมันมาก เช่น เนื้อวัวติดมัน เนื้อแกะ เนื้อหมูติดมัน เบคอน แฮม เนื้อไก่ที่มีหนัง น้ำมันหมู ครีม เนย กะทิ รวมถึงไขมันจากพืชบางชนิดที่เป็นไขมันอิ่มตัว ได้แก่ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว เป็นต้น
เน้นไขมันที่ไม่อิ่มตัวแทนเพราะมีประโยชน์ต่อร่างกาย พบได้ในน้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันงา เป็นต้น ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคเส้นเลือดในสมองตีบได้
คนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เป็นโรคอ้วน มักเสี่ยงเป็นเส้นเลือดสมองตีบตันได้ง่าย พยายามเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อาหารคลีน แนะนำให้ทานอาหาร 1,500-2,000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ลดอาหารที่ให้พลังงานสูง เพิ่มผักผลไม้ในมื้ออาหารมากขึ้น ก็จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดี ช่วยลดภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ
การทานเเป้งและน้ำตาลปริมาณที่มากเกินไป เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคไขมันในเลือดสูง โรคเส้นเลือดในสมองตีบ เป็นต้น เราต้องรู้จักควบคุมเเป้งและน้ำตาลที่เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคเหล่านี้
วิธีลดความดันโลหิตง่ายๆ คือ หลีกเลี่ยงทานอาหารรสเค็ม ขนมที่มีปริมาณโซเดียมสูง หรืองดของหมักของดอง พยายามลดระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติให้มากที่สุด คือ มีค่าอยู่ที่ประมาณ 120/80 มิลลิเมตรปรอท
เนื่องจากสารนิโคตินที่เกิดจากการสูบบุหรี่จะออกฤทธิ์ต่อผนังหลอดเลือดแดง ทำให้หลอดเลือดตีบ เลือดคั่งในสมอง เลือดออกในสมอง เสี่ยงเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด รวมถึงเป็นภาวะเส้นเลือดสมองแตก โรคอัมพฤกษ์หรืออัมพาตด้วย เราควรหากิจกรรมเบี่ยงเบนความสนใจในการสูบบุหรี่ไปเรื่อยๆ หรืองดไปได้ก็ยิ่งดี
หากใครที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ก็ให้ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายเลย ให้พยายามทำอย่างน้อยๆ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30 นาทีติดต่อกัน แต่ถ้าคุณไม่สามารถออกกำลังกายติดต่อกันได้ใน 30 นาที อาจพักให้หายเหนื่อย 10-15 นาทีได้ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณ ห่างไกลภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ
เมื่อร่างกายเกิดภาวะความเครียดจะส่งผลให้สมองทำงานหนัก เลือดและออกซิเจนไหลเวียนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ เกิดการอุดตันของเส้นเลือด รุนแรงถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลันได้ ดังนั้นเราควรหากิจกรรมคลายความครียด อย่างเช่น ฟังเพลง ดูหนัง ทำอาหาร ปลูกต้นไม้ ฝึกโยคะ นั่งสมาธิ เป็นต้น ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
จากผลวิจัยหลายแห่งพบว่า คนที่นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน เสี่ยงเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เพราะเลือดเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ เนื้องสมองส่วนต่างๆ จะถูกทำลายไป เราต้องปรับเปลี่ยนเวลาในการนอน โดยช่วงเวลานอนที่เหมาะสมคือ 20.00-22.00 และนอนให้ได้ครบ 7-8 ชั่วโมง/วัน
วิธีดูแลตัวเองที่ดีที่สุด คือ การตรวจสุขภาพประจำปี ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพหลอดเลือด ความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด ไขมันในเส้นเลือด เป็นต้น แนะนำให้ตรวจสุขภาพปีละ 1-2 ครั้ง แต่สำหรับใครที่มีสิทธิประกันสังคมอยู่แล้ว มีโปรแกรมตรวจสุขภาพฟรีกว่า 14 รายการ แนะนำให้คุณเข้ามา เช็กสิทธิประกันสังคม สถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ www.sso.go.th
โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน เป็นกลุ่มโรคร้ายแรงที่อันตรายถึงชีวิต เราควรมีหลักประกันความเสี่ยงเมื่อยามเจ็บป่วย นั่นคือ ซื้อประกันสุขภาพพ่วงด้วยประกันโรคร้ายแรง ช่วยทำให้คุณมีวงเงินเพิ่มขึ้นสำหรับใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลในอนาคต
ที่ช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง ค่ายา ค่าผ่าตัด และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการรักษา เบิกร่วมกับประกันสังคมได้ โดยโรคทั่วไปจะมีระยะเวลารอคอย 30 วัน หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน
คุ้มครองเป็นเงินก้อนแบบ เจอ จ่าย จบ แบ่งจ่ายตามระยะโรคร้ายหรือคุ้มครองเฉพาะโรคใดโรคหนึ่ง สามารถนำมาใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลได้ มีระยะเวลารอคอย 90 วัน หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน