สวัสดีทุกท่าน กลับมาอีกครั้งกับ Topic กับคำถามยางรถไฟฟ้าจะหมดเร็วกว่ายางรถธรรมดาหรือไม่ ปัจจุบันในประเทศไทยเริ่มมีการนำเข้ารถไฟฟ้าจำนวนเพิ่มมากขึ้น หลากหลายยี่ห้อ โดยส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศจีน อย่างรถไฟฟ้า Tesla เองก็ตาม หรือจะเป็นรถไฟฟ้าจากจีนอย่างยี่ห้อ NETA BYD HAVAL และแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันอย่าง BMW BENZ TOYOTA HOANDA NISSAN ก็ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นมาเรื่อยๆ
เนื่องจากคนเริ่มให้ความสนใจ และใช้รถไฟฟ้ากันเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมากๆ กับการเติบโตสูงเร็วเป็นพิเศษ ใช้เทคโนโลยีสูง ค่าดูแลรักษาที่ต่ำกว่ารถยนต์ธรรมดาและมีความประหยัดในเรื่องของค่าใช้จ่ายพลังงานที่มากกว่ารถน้ำมันปกติ ค่าพลังงานน้ำมันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนหันมาสนใจรถกลุ่มประเภทนี้มากขึ้น อีกส่วนหนึ่งที่เราต้องคำนึงคือเรื่องของยางรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถประเภทไหนๆ ก็ต้องใช้ยางรถยนต์อยู่ดี การซื้อยางรถยนต์ที่ดีก็ต้องใช้เงินก้อนใหญ่เลย ถึงแม้ว่าจะมียางทางเลือกเพิ่มเยอะขึ้นก็ตาม อาจทำให้ลำบากกระเป๋าเหมือนกัน
สิ่งหลักๆ ที่เป็นคำถามคือ รถแบบไหนที่จะทำให้ยางสึกเร็วกว่ากัน แน่นอนต้องตอบว่า รถยนต์ไฟฟ้า เพราะถ้าเพื่อนๆ ที่ได้ลองขับรถไฟฟ้าเพื่อนๆ จะรู้เลยว่ารถไฟฟ้าจะมีแรงทอร์คที่พุ่งสูงปรี้ดในช่วงออกตัว สิ่งนี้เองจะส่งกระทบต่ออัตราการสึกของยางมากกว่ารถปกติ ทำให้ผู้ผลิตบางแบรนด์เริ่มมีการขยับตัวในการออกยางรุ่นใหม่ที่รองรับกับรถไฟฟ้า โดยให้ยางมีการสึกที่ช้าขึ้นหรือมีความทนทานต่อแรงทอร์คที่มากขึ้น ส่วนประกอบที่ทำให้ยางสึกช้าหลักๆ คือ คาร์บอนแบล็ค
ส่วนของคาร์บอนแบล็ค เป็นส่วนประกอบตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่ผู้ผลิตยางเอามาใส่เป็นส่วนผสมกับยางพารา แต่ข้อเสียของคาร์บอนแบล็คก็มี เพราะการที่ยางสึกช้านั้นหมายถึงว่ายางนั่นมีความหนืดและเกาะถนนที่น้อยลง ทางผู้ผลิตหลายๆ ค่ายจึงพัฒนาและนำวัตถุดิบที่ชื่อ ซิลิกาเข้ามาเป็นส่วนประกอบเพิ่มเติม เป็นตัวช่วยทำให้เนื้อยางนั่นสามารถที่จะมีความยืดหยุ่นได้ดียิ่งขึ้น และแนบสนิทกับถนนได้ดีขึ้น
แน่นอนว่า ทั้งสองส่วนเป็นเรื่องขัดแย้งสำหรับเรื่องความทนและการเกาะถนน แต่ผู้ผลิตปัจจุบันมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องทำให้ยางที่เราใช้กันนั่นมีความสมบูรณ์แบบเพิ่มยิ่งขึ้น ทั้งทนและเกาะถนนควบคู่กันไป โดยเฉพาะยางสำหรับรถไฟฟ้า นั่นอาจจะมีส่วนผสมของคาร์บอนแบล์คที่เพิ่มมากกว่ายางทั่วไป เพื่อให้ทนต่อการสึกได้ดีมากยิ่งขึ้น
ส่วนต่อมาเรื่องของยางรถไฟฟ้าที่มีข้อดีกว่ายางธรรมดาคือ เรื่องของรับน้ำหนัก เนื่องจากรถไฟฟ้าจะมีน้ำหนักมากในส่วนที่เป็นแบตเตอรี่ทำให้ยางรถไฟฟ้าต้องทำหน้าที่รับน้ำหนักได้ดีกว่ายางปกติ อีกข้อหนึ่งที่เป็นข้อดีของยางรถไฟฟ้าคือ ต้องประหยัดพลังงานด้วยครับเพราะรถไฟฟ้าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าผลิตออกมาเพื่อลดพลังงาน แล้วจะดีไหมถ้ายางสำหรับรถไฟฟ้าช่วยทำให้ประหยัดพลังงานด้วย โดยยางรถไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานมากกว่าเพราะว่ายางรถไฟฟ้าจะมีแรงต้านทานการหมุนที่ต่ำกว่ายางธรรมดา ส่วนนี้เองทำให้รถไฟฟ้าที่มีพลังงานจำกัดสามารถใช้งานได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากที่สุด
สรุปได้เลยว่า รถไฟฟ้านั่นทำให้ยางสึกมากกว่ารถปกติทั่วไป แต่ถ้าคุณเลือกใช้ยางรถไฟฟ้าที่เหมาะสมและผลิตมาเพื่อรถไฟฟ้าโดเยฉพาะ จะช่วยให้ยางเหมาะสมกับรถ ซึ่งการใช้งานแทบต่างกับยางธรรมดาทั่วไป
สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการเช็กยางใหม่เปลี่ยนยางใหม่ สามารถเข้ามาเช็กได้ที่เว็บไซต์จอง Tiresbid แพลตฟอร์มจำหน่ายยางรถยนต์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย เพื่อให้เพื่อนๆ เลือกซื้อยางสะดวกเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทั้งเลือกยางและบริการครบวงจร หากเพื่อนๆ มีข้อสงสัยไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนดีและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ https://tiresbid.com/home ได้เลย มีแบรนด์สินค้าเพื่อนๆ ภาพให้เลือกมากที่สุดรวม 18 ยี่ห้อชั้นนำ และกว่า 80 รุ่นยอดนิยม และสามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดในประเทศ
เพื่อนๆ ที่ต้องการสอบถามได้ยางที่เหมาะสมที่สุดผ่านทาง Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะ) พร้อมรับโปรโมชันยางรถพิเศษไทร์บิดมากมาย ให้บริการครบทุกรูปแบบ จุดบริการร้านยางใกล้บ้าน เปลี่ยนยางถึงบ้าน และจัดส่งทั่วไทย Fast service ทุกรูปแบบรับบริการนัดหมายล่วงหน้า ใช้เวลาเพียง 1 ชม. ในการรับบริการติดตั้งเปลี่ยนยาง ให้เรื่องยางรถง่ายยิ่งขึ้น
เชื่อมต่อ กับพวกเรา
