โรคมะเร็งปากมดลูก หรือเรียกกันว่า HPV เป็นอีกหนึ่งโรคมะเร็งยอดฮิตที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้หญิง ที่มีอายุในช่วง 30-50 ปี ส่วนใหญ่เกิดมาจากพฤติกรรมในการใช้ชีวิตเช่น การมีเพศสัมพันธ์ที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ หากมีพฤติกรรมเหล่านี้จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูก และที่น่ากลัวไปกว่านั้นผู้ที่ได้รับเชื้อ HPV มักจะไม่แสดงอาการใดๆ เมื่อรู้ตัวอีกทีกลับพบว่า เป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายไปแล้ว เพื่อไม่ให้สายเกินแก้ รีบมาเช็กโดยด่วน!!
มะเร็งปากมดลูก เกิดขึ้นในเซลล์ปากมดลูกที่อยู่บริเวณช่วงล่างของมดลูกและเชื่อมต่อกับช่องคลอด โดยติดเชื้อไวรัสชนิดฮิวแมนแปปปิโลมาไวรัส (Human Papillomavirus) หรือเอชพีวี (HPV) ชนิดที่ก่อให้เกิดมะเร็ง มีทั้งหมด 15 สายพันธุ์ จากทั้งหมด 100 สายพันธุ์ โดยเฉพาะ HPV สายพันธุ์ที่ 16 และ 18 ที่ทำให้เสี่ยงเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก มักจะติดต่อทางเพศสัมพันธ์
การเปลี่ยนคู่นอนหลายคน ถือเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด เนื่องจากมีโอกาสติดเชื้อ HPV จากคู่นอนได้ผ่านจากการมีเพศสัมพันธ์ และสามารถติดต่อทางการสัมผัสได้ เสมือนเป็นพาหะที่นำพาเชื้อไปสู่ช่องคลอด นอกจากนี้ยังมีโอกาสเกิดหูดหงอนไก่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง รวมถึงมีเซ็กส์กับคู่นอนที่มีความเสี่ยงสูง เท่ากับคุณได้เพิ่มโอกาสเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกให้กับตัวเองด้วย
การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุไม่ถึง 18 ปี เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก เพราะเป็นช่วงอายุที่มีความไวต่อการติดเขื้อไวรัส HPV ไม่สามารถต้านทานไวรัสได้ดี จากงานวิจัยพบว่าเด็กที่มีอายุ 9 – 14 ปี ควรเน้นฉีดมะเร็งปากมดลูก 2 เข็ม เพราะได้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการฉีด 3 เข็มในผู้ใหญ่ หากได้รับวัคซีนก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันได้มีประสิทธิภาพกว่า
รู้หรือไม่ว่า? การสูบบุหรี่ เป็นอันสาเหตุที่ทำให้เกิด “มะเร็งปากมดลูก” เพราะบุหรี่มีสารเคมีปะปนมากมายกว่า 4,000 ชนิด และยังมีสารที่ก่อโรคมะเร็ง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชอบสูบุหรี่บ่อยๆ จะทำให้มีผลโดยตรงต่อระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิง ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก เกิดภาวะวัยทองเร็วขึ้น อาการรุนแรงมากขึ้น และมีภูมิคุ้มกันเชื้อโรคต่ำ เพิ่มความเสี่ยงทั้งโรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งเต้านม และโรคมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง
สำหรับผู้ที่กินยาคุมติดต่อกันเป็นเวลานาน มากกว่า 5-10 ปี งานวิจัยพบว่าจะเพิ่มความเสี่ยงทั้งมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากยาคุมอาจมีผลในการกระตุ้นเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา รวมถึงเชื้อไวรัสชนิดนี้ด้วย ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการกินยาคุมเป็นเวลานานๆ หาทางป้องกันวิธีอื่นดีกว่า อย่างเช่น การสวมใส่ถุงยางจะช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์
การมีเพศสัมพันธ์ เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ โดยไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน HPV จะเพิ่มโอกาสเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก โดยเชื้อไวรัสนี้จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงเซลล์บริเวณปากมดลูก ทำให้กลายเป็นเซลล์นื้อร้าย หรือมะเร็ง ด้วยเหตุนี้เองในผู้หญิงควรฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 9-26 ปี ถึงแม้ว่าการฉีดวัคซีน HPV ไม่สามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ 100% แต่จะช่วยลดความเสี่ยงได้มากถึง 70% ครอบคลุมเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด และ มะเร็งปากช่องคลอด
ข้างต้นนี้ถือเป็น พฤติกรรมเสี่ยงในการใช้ชีวิต ที่อาจทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก เพราะเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) นั้นมีหลายสายพันธ์ แต่ที่รู้จักคือ สายพันธุ์ 16 และ 18 ที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูกและทวารหนัก ส่วน สายพันธุ์ 6 และ 11 จะทำให้เกิดหูดหงอนไก่ (พบได้บ่อยในเพศชาย) ดังนั้น ผู้หญิงและผู้ชายที่อายุตั้งแต่ 9 ปีขึ้นไป สามารถฉีดวัคซีน HPV ในปัจจุบันนี้มีวัคซีนป้องกันได้มากถึง 9 สายพันธุ์ ได้แก่ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58 ถือว่าเป็นวัคซีนที่ครอบคลุม ลดความเสี่ยง และป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกได้
อย่าปล่อยให้โรคร้ายมาเยือน ซื้อประกันโรคร้ายแรง ลดสูงสุด 12% ที่ bolttech.co.th ตรวจพบโรคร้าย รับเงินก้อน!! คุ้มครองโรคมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ หรือเลือกแผนคุ้มครองโรคร้ายแรงอื่นๆ 10 ชนิด อย่างเช่น โรคปอดระยะสุดท้าย โรคหลอดเลือดสมองแตก โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือโรคไตวายเรื้อรัง เป็นต้น ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการรักษาได้ ทำให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น