Hello December ! และแล้วเดือนที่ผมชอบที่สุดก็มาถึงซักที เดือนสุดท้ายของปีแบบนี้ บอกเลยครับว่าทำงานไปใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว มันมัวแต่จะคิดว่าปีใหม่นี้จะพาครอบครัวไปเที่ยวแบบพร้อมหน้าพร้อมตาที่ไหนดี แล้วทุกคนล่ะมีแผนท่องเที่ยวสำหรับการนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2019 ในดวงใจกันรึยังเอ่ย ? หากยังนึกไม่ออกกับคำถามที่ว่า “ปีใหม่เที่ยวไหนดี ?” Frank.co.th มี 4 พิกัดเคาท์ดาวน์ดูพลุสวยสุดเจ๋ง ไม่ไกลเมืองไทยที่เหมาะเหลือเกินที่จะพาเที่ยวทั้งครอบครัวมาฝากกัน
แต่ออกตัวย้ำกันตรงนี้ก่อนนะครับว่า ทริปเที่ยวดูพลุรับปีใหม่นี้เราจะเน้นแบบเที่ยวสนุกลุกนั่งสบายเป็นหลัก เพราะการไปเที่ยวทั้งครอบครัว จะต้องพาทั้งคุณพ่อ คุณแม่ หรือบางบ้านอาจมีคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ผู้สูงวัยเดินทางไปด้วย เราต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักกับ 4 พิกัดดูพลุสวย ๆ ที่เพนกวินแฟรงค์คัดมาให้คุณเลือก เป็นที่เที่ยวใกล้ไทย ปลอดภัย เดินทางสะดวก ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก เหมาะกับทุกช่วงวัย และที่สำคัญ คือ เป็นประเทศเที่ยวง่ายไม่ต้องใช้วีซ่าครับ !!
พิกัดแรกที่ผมยกให้เป็นตัวเต็งอันดับ 1 คือ ประเทศสิงคโปร์ ครับ ค่อนข้างครบครันและตอบโจทย์มากๆ สำหรับการพาครอบครัวไปเที่ยวมากเพราะใช้เวลาบินแค่ 2 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น เรื่องความปลอดภัยสิงคโปร์ไว้ใจได้ครับเพราะกฎหมายเขาค่อนข้างแรงผู้คนเลยไม่ค่อยกล้าทำผิด แล้วก็เดินทางสะดวกดีครับ มีรถไฟฟ้า มีรถบัสที่เป็นระบบ หรือถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว Grab ของที่นี่ก็ถือว่าโอเค ราคายุติธรรม สมเหตุสมผล
ส่วนเรื่องโรมแรมก็ดีครับ มีให้เลือกหลายแนว หลายระดับ ซึ่งต้องดูว่าคนที่บ้านเราชอบสไตล์ไหนด้วย แต่สำคัญคือเรื่องทำเลดี หากอยู่แถว Chinatown หรือสถานีรถไฟฟ้าใหญ่ๆ ก็จะยิ่งเดินทางสะดวกครับ
อาหารการกินก็มีให้เลือกหลากหลายสัญชาติ จะภัตตาคารหรือ Street Food ดีงาม รับรองว่าแฮปปี้กันทั้งครอบครัวแน่นอน ส่วนเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวก็มีครบ ทั้งศาสนสถานเช่น วัดพระเขี้ยวแก้ว วัดแขก ให้ผู้ใหญ่ในบ้านไปสักการะขอพร หรือจะเป็นแนวแฟนตาซี สวยงาม สนุกสนาน Garden by the bay และ สวนสนุก Universals Singapore ก็ตอบโจทย์สำหรับเด็กๆ ครับ
แต่ที่พลาดไม่ได้เลย คือ ไฮไลต์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เพราะบริเวณ Marina Bay หรือตึกเรือใบที่หลายคนเรียกกัน จะมีการจัดงาน “Marina Bay Singapore Countdown” ขึ้นทุกปี ซึ่งภายในงานจะมีทั้งการแสดงดนตรี, แสงไฟ, เลเซอร์ และหัวใจของงานอย่าง การดูพลุไฟหลากสีที่จะถูกจุดขึ้นเหนือบรืเวณทะเลสาบอย่างสวยสดงดงาม เมื่อเสียงนับ 5 4 3 2 1 .. Happy New Year จบลง ซึ่งตัวผมเคยไปร่วมเคาท์ดาวน์ที่สิงคโปร์มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2016 บอกเลยครับว่าประทับใจสุดๆ สิงคโปร์เขาเล่นใหญ่ จัดหนักกันมากจริงๆ ผมจึงคิดไว้นานแล้วว่าอยากจะพาครอบครัวไปฉลองปีใหม่ที่สิงคโปร์ด้วยกันสักครั้ง
ประเทศนี้ยังไงก็ไม่เคยหลุดจากลิสต์ประเทศในดวงใจของผมได้สักที ไม่รู้เป็นเพราะอะไรทั้งที่ไปก็ล้มละลายกลับมาทุกที แต่ก็ยังประทับใจและคิดถึงการไปญี่ปุ่นครั้งใหม่เสมอ จึงไม่แปลกที่ผมจะอยากพาครอบครัวไปฉลองปีใหม่กันที่ญี่ปุ่นด้วย จะได้เข้าใจผมสักทีว่าทำไมถึงชอบไปหนักหนา (ฮ่าๆ)
ต้องยอมรับว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เฟรนลี่กับผู้สูงอายุที่สุดเลยนะ อาจเป็นเพราะญี่ปุ่นอยู่ในยุคสังคมสูงวัยแบบเต็มตัว (Aging Society) ซึ่งประเทศไทยก็กำลังอยู่ในภาวะนี้เช่นกัน ระบบขนส่ง และสาธารณูปโภคของที่นั่น ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุและผู้พิการเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ระบบขนส่งสาธารณะ ห้องน้ำ หรือสถานที่ท่องเที่ยวไหนๆ ก็มักจะมีสิ่งของเครื่องใช้ที่ออกแบบมาให้ผู้สูงอายุได้ใช้อย่างสะดวกสบาย และท่องเที่ยวได้อย่างสุขกายสบายใจ
เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นมีให้เลือกเยอะมาก Frank.co.th แนะนำคุณให้วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นทำลิสต์แล้วให้ท่านเลือกตั้งแต่ที่เมืองไทยเลยดีกว่า ว่าอยากไปจุดไหนบ้างแล้วค่อยวางแผนการเดินทางเพราะที่เที่ยวญี่ปุ่นจะใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก เพราะค่าแท็กซี่ค่อนข้างแพง หากวางแผนไม่ดีก็อาจทำให้ผู้ร่วมเดินทางเหนื่อยหอบได้ไม่น้อย ทั้งนี้ อย่าลืมเลือกประกันเดินทางอย่างไร ให้เหมาะกับการไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นด้วยนะ
ไฮไลต์ของช่วงปีใหม่ในโตเกียว จะจัดขึ้นอย่างครึกครื้นยิ่งใหญ่มีหลายบริเวณ โดยจะการจัดคอนเสิร์ตและดอกไม้ไฟอย่างสวยงามอลังการ บริเวณ Tokyo Tower และ Shibuya เป็นหลัก ซึ่งความน่ารักของการเคาท์ดาวน์ที่ญี่ปุ่น จะอยู่ที่หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นจะพากันใส่ชุดยูกาตะสวยงาม มาร่วมเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่กันอย่างคับคั่ง เป็นบรรยากาศที่สวยงามและเต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ญี่ปุ่นเลยล่ะคร้าบบบบ
ฮ่องกง เป็นอีกจุดหมายการเดินทางที่ผมอยากแนะนำด้วยสำหรับการไปท่องเที่ยวทั้งครอบครัวครับ เพราะเดินทางใกล้ ของกินอร่อย สถานที่ท่องเที่ยวเยอะ วัดเยอะ ศาลเจ้าเยอะ เรียกได้ว่าถูกใจทั้งสายบู๊และสายบุญแน่นอน สำหรับคนที่ยังโสด จะบอกคุณพ่อคุณแม่ว่า ทริปนี้มีเพื่อขอลูกเขย ลูกสะไภ้ให้พวกท่าน ก็น่าจะเป็นคำเชิญชวนที่ดีไม่ใช่น้อยเลยล่ะครับ (เว้นแต่ว่าบ้านไหนไม่อยากให้ลูกมีแฟน คำโฆษณานี้จะใช้ไม่ได้นะครับ อิอิ)
แล้วที่สำคัญคือที่นี่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุและผู้พิการมากๆครับ สังเกตได้จากตามสถานีรถไฟฟ้า รถเมล์ และเรือ จะมีส่วนอำนวยความสะดวกให้เป็นพิเศษ
ส่วนใหญ่คนที่เดินทางเปิดโลกกว้างทริปฮ่องกง จะนิยมมาไหว้พระ เพราะการเที่ยวฮ่องกงมีพิกัดวัดดังที่เที่ยวฮ่องกงไหว้แล้วรวยหลายแห่ง คงต้องบอกเลยว่า ถ้าใครเป็นสายบุญ ก็ต้องไปวัดแชกงหมิว หรือวัดกังหันอันเลื่องชื่อ ไปวัดหว่องไท่ซิน หรือที่คนไทยเรียกว่าวัดหวังต้าเซียน เพื่อผูกไหว้แดงขอเนื้อคู่ หรือขอพรด้านสุขภาพก็โด่งดังไม่แพ้กัน
และมาเที่ยวฮ่องกงกินของอร่อยครับ เรื่องความปลอดภัยฮ่องกงก็ยังน่าวางใจ แต่ด้วยความแออัดคงปลอดภัยไม่เท่า 2 ประเทศข้างต้นที่ได้กล่าวไปแล้วแน่นอน แต่ก็อย่าตระหนกไปครับ ถ้าเราช่วยกันเป็นหูเป็นตา หรือทำประกันเดินทางไว้ยังไงก็ไม่ต้องกลัวครับผม อาหารการกินที่ฮ่องกงจริงๆคนไทยคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่มาทั้งทีก็ควรลองของเด็ดของเขานะครับ ทั้งโจ้ก ติ่มซำ หมูแดง หมูกรอบ หมูอบ ไอศกรีม ชาไข่มุก ทาร์ตไข่ ก็มีให้เลือกชิมมากมายเอาเป็นว่า อิ่มพุงกางตลอดทริปฮ่องกง
แล้วอย่าลืมก็ไปเที่ยวดูพลุจุดไฮไลท์ ชมการแสดงแสงสีเสียง The Symphony of Lights ณ อ่าววิคตอเรีย ซึ่งผมแนะนำให้ไปหาทำเลตรงแถวหอนาฬิกานะครับ เพราะว่าวิวดีกว่า มีที่นั่งทั้งด้านบน ด้านล่างให้คุณพ่อคุณแม่เลือกนั่งชมวิวสวย ๆ อย่างสบาย และที่สำคัญคือเวลามีการแสดงโชว์แสงเลเซอร์ หากนั่งที่ทำเลตรงนี้ แสงไฟจะอยู่ที่ด้านหน้าเราพอดีเลยล่ะครับ ที่นี่แห่งนี้ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
นอกจากจะมีการแสดงแสงเลเซอร์แบบทุกๆวันแล้ว จะมีงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่เต็มไปด้วยสีสันของแสงไฟและพลุ โดยบริเวณท่าเรือเฟอร์รี่และย่านจิมซาจุ่ยจะมีสตรีทปาร์ตี้ มีการแสดงคอนเสิร์ตเพื่อสร้างความสนุกสนานตั้งแต่ช่วงหัวค่ำไปจนถึงเวลาเคาท์ดาวน์ตอนเที่ยงคืน ซึ่งพลุทั้งหลายจะถูกจุดขึ้นจากตึกสูง และจากน้ำ สวยงามสุดๆ แนะนำให้เตรียมของกินให้พร้อม หาที่นั่งเหมาะๆ แล้วปักหลักอยู่ตรงนี้กันยาวๆทั้งคืน จะได้มีรูปแสงสีเสียงสวยๆ อัพโซเชียลพร้อมกับคำว่า “Happy New Year 2019 from Hong Kong” ยังไงละคร้าบบบบบบ งานนี้รับรองว่า เต็มอิ่มและประทับใจมิรู้ลืม!!
พิกัดสุดท้ายกับไต้หวัน สำหรับที่เคาท์ดาวน์แจ่มๆ Frank.co.th ขอปิดท้ายด้วยประเทศสุดฮิตที่ตอนนี้คนไทยนิยมไปเหลือเกิน ใช่ครับบบบ “ไต้หวัน” นั่นเอง ซึ่งผมขอปักหมุดไปที่เมืองไทเป เมืองหลวงของไต้หวันซึ่งหลอมรวมทุก ๆ ไฮไลท์เอาไว้ที่นี่
อ่านจากหลาย ๆ รีวิว ใคร ๆ ก็มักจะพูดถึงแต่ของกินเด็ดๆ และชาไข่มุกซึ่งตอนนี้กำลังฟีเวอร์อย่างมากในไทย แต่จริงๆแล้วผมว่าไต้หวันมีดีกว่านั้นนะครับ ทั้งเรื่องของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และผู้คน เป็นเสน่ห์เอเชียที่น่าไปสัมผัสอย่างมาก ยิ่งตอนนี้หลายสายการบินยิ่งขยันออกโปรโมชั่นจนค่าตั๋วเครื่องบินขยับราคาต่ำลงมา สามารถอ่านวิธีจองตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศให้ได้ราคาถูกที่สุด!! การพาทั้งครอบครัวไปเที่ยวไต้หวันจึงไม่ใช่เรื่องยากแบบเมื่อก่อน โดยระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพไปไทเปก็แค่ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น หลับ 1 ตื่นก็ถึงพอดี ไม่บินนานให้คุณพ่อคุณแม่ปวดเนื้อปวดตัวปวดหัวจนเกินไป
ธรรมชาติที่ว่าเด็ดของไทเป มีทั้งภูเขาและทะเลสาบ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ใครยังฟิตอยากให้พาท่านขึ้นไปบนเขาช้างเลยครับ ไปดูพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า และดูวิวตึกที่เรียงตัวสูงๆต่ำๆ และตึกที่เป็นพระเอกอย่าง Taipei 101 ที่เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกจากกลางธรรมชาติก็ฟินดีนะครับ แต่ถ้าไม่ไหวขยับลงมาเอาใจสายชิลที่ทะเลสาบสุริยันจันทราก็ได้ ที่นี่เลือกเอาได้เลยว่าจะเดินชมวิว รับลมเอื่อยๆ หรือจะเช่าจักรยานแล้วปั่นให้หน้าปะทะลมเย็นๆ ก็แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละบ้านได้เลยคร้าบบบ
แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าเที่ยวๆไปแล้วจะหิวนะครับ เพราะที่นั่นมีของกินตลอดทาง ไม่แพ้ที่ไทยเลยหละ แถมยังราคาถูกและรสชาติดี เหมาะแก่การหยุดซื้อทุกร้านแล้วแบ่งกันกินพ่อแม่ลูกซะจริงๆ ยิ่งถ้าบ้านไหนเป็นสายกินแล้วด้วย ที่นี่พวกคุณจะเพลิดเพลินเจริญใจสบายพุงโดยที่กระเป๋าตังค์ยังตุงอยู่แน่นอนครับ โดยอาหารที่เขาว่าหากไปไต้หวันแล้วต้องกินให้ได้คือ ชาบูหมาล่า เสี่ยวหลงเปา ซาลาเปาอบโอ่ง บะหมี่อาจง สารพัดของทอดของย่าง อร่อยยยย ถูกใจหลาย ๆ เด้อ
เรียกได้ว่าเป็นอีกเมืองที่ไม่เคยหลับไหลและมีเสน่ห์ของตัวเองมากๆ โดยเฉพาะในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ที่ไต้หวันก็จะมีการจัดงานเคาท์ดาวน์ขึ้นด้วยนะ โดยจะมีการแสดงบนเวทีจากศิลปิน และดอกไม้ไฟสุดตระการตาที่ตึกไทเป 101 ซึ่งพลุที่นี่จะสวยแปลกตามาก ในลักษณะที่ผมนิยามเองว่าเหมือน “หนอนบุ้ง” เพราะเขาจะจุดดอกไม้ไฟขึ้นสองแบบ คือจุดจากด้านในตัวตึก Taipei 101 ออกมาด้านนอก และจุดขึ้นฟ้านั่นเอง ทำให้เราสามารถมองเห็นพลุได้จากทั่วสารทิศเลยล่ะคร้าบ
แต่ที่ผมอยากบอกทุกคนมากๆ เวลาไปเที่ยวหน้าเทศกาลทุกครั้งเลยคือ จงเที่ยวแบบสนุกและไปแบบไม่คาดหวังครับ เพราะการเที่ยวช่วงเทศกาลหมายถึงการที่คนอื่นๆ เขาก็มาเที่ยวเหมือนกัน ฉะนั้นคนจะเยอะกว่าปกติ อาจมีบ้างที่ต้องแย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว ซึ่งอาจทำให้การบริการที่เคยดีมากๆ ดรอปลงไป หรือมุมสวยๆในสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากจะไปถ่ายรูปออกมาไม่ได้ดั่งที่ใจคาดหวัง
การรู้จักยืดหยุ่น ปล่อยวาง และมองทุกอย่างให้เป็นเรื่องสนุกจึงจำเป็นมากๆเลยล่ะครับ แล้วอีกอย่างที่สำคัญและมีพร้อมๆกับฝูงชนจำนวนมาก คือ “ผู้ไม่หวังดี” จะทั้งคุณโจร หรือคุณขโมย มีอยู่ทุกที่แหละครับ การรักษาสัมภาระ ทรัพย์สิน และเอกสารสำคัญจึงสำคัญมาก การเที่ยวระยะหลังๆ ผมจึงซื้อประกันการเดินทางไว้ด้วยเสมอ เพราะผมไม่มีทางรู้ได้เลยครับ ว่าวันไหนดวงจะกุดหรือดวงจะดี แต่ใครที่กำลังอยากได้รายละเอียดเกี่ยวกับเคล็ดลับประกันการเดินทางต่างประเทศอ่านที่ Blog นี้ได้เลยนะครับ เพราะทีมงานเพนกวิน Frank.co.th เขียนสรุปไว้ให้เข้าใจง่ายขึ้นครับ และที่สำคัญประกันของเราให้ความคุ้มครองครอบคลุมดูรายละเอียดกรมธรรมเพิ่มเติมได้ที่ประกันการเดินทางประเทศ ซึ่งมีให้เลือกทั้งรายเที่ยวและรายปีตามความต้องการของคุณ
หวังว่า ชาวแฟรงค์คงได้พิกัดเด็ดที่จะพาครอบครัวออกเที่ยวต่างประเทศในทริปปลายปีนี้แล้วนะครับ ตอนต่อไปผมจะมาแนะนำเคล็ดลับการพาพ่อแม่เที่ยวแบบสุขใจให้กลับมาแล้วรักกันแน่นแฟ้นขึ้นกว่าเก่า และเป็นทริปที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวกันนะคร้าบบบบบ