เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงได้ยินคำว่า AI (Artificial Intelligence) หรือชื่อไทยเก๋ๆ ว่า ปัญญาประดิษฐ์ กันมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ หลายคนบอกว่า AI ว่ามีข้อดีอย่างนั้น ฉลาดอย่างนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงครับ AI นั้นฉลาดมาก และฉลาดขึ้นทุกวัน ทำให้ทุกวันนี้ มีการใช้ AI ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ คาดการกันว่า AI จะทำให้มนุษย์อายุยืนเพิ่มขึ้น 20 ปี
ว้าว! เยี่ยมไปเลยใช่ไหมครับ แต่ ทำไม AI คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์อายุยืนยิ่งขึ้น ตามเพนกวิน Frank ไปหาคำตอบกันเลย
แน่นอนครับว่าหาก AI จะทำให้มนุษย์อายุยืนยิ่งขึ้น ก็ต้องเอาชนะ โรคร้าย ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของมนุษย์ให้ได้ก่อน โดยเชื้อโรคร้าย ไวรัส หรืออื่นๆ ที่เป็นสาเหตุของโรคร้ายนั้นจะมีโครงสร้างที่ซับซ้อนมาก ๆ ครับ และการคิดค้นยารักษาก็ยากมากกว่านั้นอีก โดยข้อดีของ AI คือมีข้อมูลมหาศาลและการประมวลผลที่รวดเร็วกว่ามนุษย์ ทำให้สามารถทำการคำนวณและทดลองสูตรยาใหม่ ๆ ได้รวดเร็วกว่ามนุษย์หลายเท่า แถมยังสามารถวิเคราะห์ผลข้างเคียงของการใช้ยาได้แม่นยำอีกด้วย
นอกจากที่ AI จะทำให้เกิดการค้นพบยาใหม่ ๆ แล้ว ยังสามารถใช้ในการตรวจจับและวินิจฉัยโรคได้อีกด้วยครับ จากรายงานของหนังสือ Nature Medicine ได้มีการทดลองใช้ AI ตรวจหาจุดมะเร็งในปอด ซึ่งผลออกมาพบว่า AI สามารถวินิจฉัยได้แม่นยำเทียบเท่านักรังสีวิทยาที่เชี่ยวชาญเลย นอกจากนั้นการนำ AI รวมเข้ากับอุปกรณ์ เช่น เครื่องวัดความดัน อุปกรณ์ตรวจโรค หรือแม้แต่สมาร์ทวอทช์ ยังทำให้การตรวจหาโรคนั้นทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งข้อดีของการใช้ AI ในการตรวจหาโรคจะช่วยลดต้นทุน และทำให้ผู้ป่วยสามารถรับการรักษาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพิ่มโอกาสในการหายจากโรคได้มากเลยล่ะครับ
ชีวิตของคนเราจะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น หลายคนคงได้ยินว่า AI จะเข้ามาแย่งงานมนุษย์ใช่ไหมครับ ซึ่งงานที่ AI จะเข้ามาทำแทนมนุษย์เป็นอันดับแรกก็คือ “งานอันตราย” โดยงานอันตรายในที่นี้ คืองานที่ทำในสภาพแวดล้อมที่มีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อชีวิตหรือสุขภาพ เช่น งานเหมือง งานก่อสร้าง งานที่ต้องทำกับเครื่องจักรขนาดใหญ่ งานดับเพลิง กู้ภัย เป็นต้น อย่างที่เราเห็นว่าทุกวันนี้มีการพัฒนา หุ่นยนต์กู้ภัย ที่สามารถวางแผนหาเส้นทาง และเข้าไปช่วยเหลือในที่ ๆ มนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงได้ เช่นใต้ซากปรักหักพัง ในพื้นที่ปนเปื้อนรังสี ใต้ทะเลลึก หรือจะเป็นการใช้ AI ในการช่วยวางแผนป้องกันอุบัติเหตุระหว่างทำงาน เช่น หาก AI พบว่าเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรมมีโอกาสที่จะทำงานผิดพลาด จนอาจเกิดอันตรายแก่มนุษย์ AI ก็สามารถแจ้งเตือนหรือปิดการทำงานของเครื่องจักร ซึ่งทำให้มนุษย์ปลอดภัยในการทำงาน ลดอาการเจ็บป่วยจากการทำงานมากยิ่งขึ้น
AI นั้นอัจฉริยะมาก ๆ ครับ และ AI ก็เข้ามาทำให้ทุกอย่างอัจฉริยะขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพที่ใกล้ตัวอย่าง นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart Watch) ที่มีฟังก์ชันในการดูแลสุขภาพ ทั้งวัดชีพจร วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เตือนรอบประจำเดือน หรือจะใหญ่กว่านั้น อย่าง บ้านอัจฉริยะ (Smart Home) นั่นเอง ที่เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างภายในบ้าน ถูกควบคุมด้วย AI ประโยชน์ก็อย่างเช่น เจ้าของบ้านจะสามารถสั่ง เปิด ปิด ไฟได้โดยไม่ต้องเดินไปที่สวิตช์ เพียงแค่สั่งการด้วยเสียง หรือใช้เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุภายในบ้านได้
ไม่ใช่แค่ทำตามคำสั่งของเจ้าของบ้านได้นะครับ AI ยังสามารถคิดได้เองเพื่อดูแลคุณภาพชีวิตของเจ้าของบ้าน เช่นควบคุมเครื่องปรับอากาศเพื่อให้อุณหภูมิภายในบ้านให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ดีต่อสุขภาพ ล้ำไปกว่านั้นนะครับ AI สามารถวิเคราะห์และคาดการณ์เหตุการณ์ได้ เช่น หาก AI พบว่า มีผู้สูงอายุเข้าไปในห้องน้ำนานกว่าปกติ AI สามารถคาดการณ์ได้ว่าผู้สูงอายุอาจเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มในห้องน้ำ และจะทำการแจ้งไปยังคนในครอบครัว หรือเบอร์ฉุกเฉินให้อัตโนมัติ ทำให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตได้โดยลำพังอย่างปลอดภัย แถมมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีอีกด้วย
รู้หรือไม่ครับ ว่าอุบัติเหตุบนท้องถนน คือสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโลก จากรายงานขององค์กรอนามัยโลก แต่ละปี มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนกว่า 1.35 ล้านคน ยิ่งในประเทศไทย ก็มีอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นทุกวัน ทั้งรถชนรถ รถชนมอไซค์ รถชนคน โดยเฉลี่ยแล้ว มีคนไทยเสียชีวิตจากการเดินทางบนท้องถนนถึง 24,000 คนต่อปี หรือ 66 คนต่อวันเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ นี่ถือว่าเป็นจุดเด่นที่เห็นภาพชัดที่สุดของ AI ในชีวิตประจำวันเลยครับ เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเห็นข่าว รถยนต์ไร้คนขับ กันมาบ้าง การที่รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้เองอย่างปลอดภัยนั้น ก็เพราะมี AI สั่งการควบคุมนั่นเองครับ ซึ่ง AI จะทำงานร่วมกันกับเซนเซอร์รอบคันรถ เพื่อตรวจดูสภาพการจราจร ความเร็วของรถโดยรอบ เส้นถนน เพื่อวางแผนและควบคุมให้รถวิ่งอย่างปลอดภัย โดยความฉลาดของ AI นั้นถึงขนาดสามารถคาดการณ์อุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้เลย โดยดูจากความเร็วของรถคันอื่น ทิศทางการขับขี่และคำนวนความเสี่ยงขึ้นมา พร้อมทั้งสั่งการให้รถของเราหยุดทันก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกด้วยครับ โดยคาดกันว่า หากเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับนี้สมบูรณ์และใช้กันอย่างแพร่หลาย อุบัติเหตุบนท้องถนนจะลดลงเกิน 90% อย่างแน่นอน
และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไม AI คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์อายุยืนยิ่งขึ้น ต้องยอมรับนะครับว่า AI นั้นฉลาดอย่างมาก และเพนกวิน Frank เชื่อเหลือเกิน ว่าไม่นาน AI จะเข้ามาดูแลชีวิตของเราอย่างแน่นอน แต่ถึง AI จะฉลาดแค่ไหน แต่หากเราไม่ระมัดระวัง อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้อยู่ดี ดังนั้น ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังกันด้วยนะครับ และถ้าจะให้ดีที่สุด ก็ซื้อประกันอุบัติเหตุกับ frank.co.th ไว้เพื่อดูแลหากเกิดเหตุไม่คาดฝันด้วยนะครับ ดูแลดี รู้ใจ รักคุณยิ่งกว่าใคร Frank ไงจะใครล่ะ รักน้า!