สำหรับคู่รักไหนมีแพลนจะไปเที่ยวด้วยกัน แล้วยังไม่รู้ว่าจะฮันนีมูนที่ไหนดี? นอกจาก 5 ที่เที่ยวประเทศในยุโรปที่ฮันนีมูนแล้ว ก็ลองจูงมือแฟนไปเที่ยว “บาหลี” ประเทศอินโดนีเซียกันต่อครับ ขอบอกเลยว่า อยู่ใกล้ไทยมากๆ ไม่ต้องบินข้ามทวีปให้เสียเวลา คุณก็จะได้เห็นธรรมชาติแบบใกล้ชิด แล้วที่สำคัญไปเที่ยวบาหลีค่าใช้จ่ายไม่แพงด้วย เพียงแค่ไปค้างสักสี่ห้าคืนก็ฟินได้ครับ ว่าแล้วเที่ยวบาหลีจะน่าสนใจสำหรับคู่รักยังไงนะ เพนกวิน Frank รวบรวมคำตอบให้คุณแล้วที่นี่….
แน่นอนครับ ถ้าคุณมีโอกาสพาแฟนมาเที่ยวบาหลีแล้ว คุณก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินที่ชายหาดด้วยกัน ขอบอกเลยว่า ทะเลหลายจุดสวยมาก และโรแมนติกสุด ๆ แนะนำให้คุณรีบเข้ามาจับจองที่นั่งกันก่อน เพื่อให้ได้พิกัดนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน หรือถ้าใครพอมีเวลาหน่อยก็ลองดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันต่อ เพราะบริเวณชายหาดจะมีร้านขายอาหารจำนวนมาก พร้อมบริการให้นักท่องเที่ยวรับลมทะเลยามค่ำคืน โอ้ย! เเค่หลับตาคิดก็ฟินแล้วเนอะ
ลองมานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินกันที่ “ชายหาดคูต้า” สิครับ เขาลือกันว่าบริเวณชายหาดนี้เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในบาหลี สามารถให้คุณเดินชายหาดทอดยาวได้ถึง 8 กม. เต็มไปด้วยโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร และสถานที่เที่ยวกลางคืนมากมาย ส่วนตรงบริเวณถนนใหญ่เลียบชายหาดยังมีบริการรถม้าลากรับส่งกันด้วยนะ เดินทางง่าย ไม่ไกลจากสนามบินครับ
มาเที่ยวบาหลี ไม่ได้มีดีแค่ทะเลอย่างเดียว เพราะคุณยังได้สัมผัสธรรมชาติ และอากาศข้างบนหน้าผาอีกด้วย โดยเฉพาะคู่รักที่หลงใหลในความเขียวขจีของธรรมชาติ ก็ลองควงแขนกันไปชมนกชมไม้กันดูนะครับ นอกจากนี้คุณยังสามารถถ่ายรูปสวยๆ กลับบ้าน หรือจะลองหาจุดพักกางเต้นท์ นอนนับดาวก็โรเเมนติกไม่แพ้กัน
แนะนำให้มาสัมผัสความเงียบสงบกันที่ “Kelingking Beach บนเกาะ Nusa penida” ถือเป็นสถานที่ถ่ายรูปบนยอดเขาที่ดีที่สุด หรือรู้จักกันในนามคนไทยว่า “เกาะไดโนเสาร์” ครับ ซึ่งจุดเด่นบาหลีที่เที่ยวบนชายหาดนี้ ก็คือ เราสามารถเห็นวิวทิวทัศน์แบบพาโรนาม่า และสามารถเดินลงไปถ่ายรูปด้านล่างชายหาดได้ รับรองถ้าคุณเข้ามาแล้ว จะต้องตื่นตาตื่นใจแน่นอน
ไม่นั่งโล้ชิงช้าสวิงถือว่ามาไม่ถึงบาหลี เมื่อพูดถึงกิจกรรมฮันนีมูนที่ไหนดีสำหรับคู่รักที่เพิ่งแต่งงานใหม่ หรือยังไม่ได้แต่งงานก็ตาม หากคุณได้ลองมาเที่ยวบาหลีแล้ว ก็จะได้มีโอกาสนั่งชิงช้าบาหลีสวิงกับคนรักด้วยนะ ถือเป็นกิจกรรมน่าท้าทายอย่างยิ่ง เหมาะกับคนที่ไม่กลัวความสูงมากนัก โดยจะมีให้คุณเลือกเล่นได้ทั้งชิงช้าเดี่ยว หรือชิงคู่ พร้อมเพลิดเพลินไปกับการถ่ายรูปคู่ท่ามกลางหุบเขาในบาหลี
เพียงแค่เดินทางไปยังใจกลางอูบุด เราก็จะพบกับ “ชิงช้าบาหลีสวิง (Bali Swing)” กิจกรรมสุดท้าทายให้ปลดปล่อยตัวเองจากความกลัว และสัมผัสทิวทัศน์อันงดงามของเกาะบาหลี ด้วยการนั่งชิงช้าที่มีความสูง และสามารถให้เราถ่ายภาพระหว่างนั่งชิงช้าได้ ถือเป็นความใฝ่ฝันของสาวๆ ทุกคนเลย เพราะคุณจะได้มีโอกาสใส่กระโปรงพริ้วๆ ถ่ายรูปบนชิงช้า โดยมีฉากหลังเป็นธรรมชาติอันงดงาม หากกลัวความสูง สู้ไม่ไหวยังมีจุดแวะให้ชิมกาเเฟถึง 10 รสชาติที่ “บาหลีสวิงคาเฟ่” ด้วย
ออกไปเที่ยวฮันนีมูนที่บาหลี คุณจะได้แช่บ่อน้ำพุร้อนที่ไม่ได้หากันง่าย ๆ อีกทั้งยังได้ดื่มด่ำกับวิวท้องฟ้า และธรรมชาติรอบ ๆ บริเวณ พร้อมปล่อยให้นักท่องเที่ยวได้แช่บ่อน้ำพุร้อนกันอย่างเต็มที่ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบแปลกใหม่ แล้วยังไม่รู้จะไปฮันนีมูนที่ไหนดี ก็ลองมาเที่ยวบาหลี เพื่อแช่บ่อน้ำพุร้อนกับแฟนสักครั้ง
หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน เราจะได้มาแช่บ่อน้ำพุร้อนกันที่ “Batur Natural Hot Spring” ด้วย สามารถว่ายน้ำในสระ และเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวริมทะเลสาบ หุบเขา เเละภูเขาไฟที่หาชมได้ยาก นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกสระว่ายน้ำตามความลึก และความร้อนที่ต่างกัน พร้อมมีบริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเวลา ก็ลองควงแฟนมาดื่มด่ำน้ำผึ้งพระจันทร์เติมความหวานให้กันและกันได้
มาเยือนบาหลีที่เที่ยวต่างๆ ก็ต้องมีอาหารพื้นเมืองให้คุณได้แวะชิมตลอดทาง อาหารเน้นรสชาติเข้มข้น แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร สามารถเข้ามาแวะชิมกันได้ทั้งคาวและหวาน โดยรสชาติดั้งเดิมของอาหารบาหลีนั้นจะมีรสชาติเผ็ด หวาน มัน และเน้นเครื่องเทศเกือบทุกเมนู ถ้าใครลองมาเที่ยวบาหลีแล้ว รับรองว่าคุณจะได้อิ่มอร่อยไปกับรสชาติอาหารบาหลีแท้ๆ แน่นอน
เริ่มด้วยอาหารพื้นเมืองของบาลี อย่างเมนู “ละว้า (Lawar)” ที่ปรุงรสชาติจากมะพร้าวขูดผัดกับเครื่องเทศสมุนไพร จะออกรสชาติเผ็ดหวานกลมกล่อม พร้อมเสิร์ฟกินกับข้าวสวยร้อนๆ ได้ตามใจชอบ ต่อด้วยกันที่เมนู “อายัม เบตูตู (Ayam Betutu)” หนึ่งในอาหารพื้นเมืองของบาหลีที่มีเครื่องเทศเข้มข้น ทำมาจากไก่อบหรือไก่ย่างด้วยซอสกระเทียม และพริกไทย มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม สามารถเลือกระดับความเผ็ดจากทางร้านได้ครับ
ส่วนอาหารคลาสสิกที่นิยมในบาหลีไม่แพ้กัน แนะนำให้ลองชิม “สะเต๊ะปลาหมักเครื่องเทศ (Sate lilit ikan)” จะเป็นเมนูสะเต๊ะปลาบดที่เสียบไม้ตะไคร้หอม ผ่านการปรุงเครื่องเทศแล้วนำไปย่างให้สุกพอดี และมีกลิ่นหอมของตะไคร้อย่างชัดเจน แล้วปิดท้ายด้วยของหวานขึ้นชื่อในบาหลีอย่าง “Klepon” ที่ทำมาจากเเป้งข้าวเหนียวสอดใส่น้ำตาลอ้อย แล้วนำมาคลุกกับมะพร้าวขูด ภายนอกจะมีกลิ่นหอมใบเตยอ่อน ๆ และมีใส้ข้างในทะลักออกมาเหมือนลาวาครับ พาให้คุณและคู่รักได้มีโอกาสชิมอาหารที่หลากหลาย และอร่อยขึ้นกว่าเดิม!
นอกจากนี้ถ้าคุณได้จูงมือพาแฟนมาเที่ยวบาหลี ก็จะได้มีโอกาสล่องเรือไปชมปลาโลมายามเช้าด้วยนะ มีกิจกรรมให้เพลิดเพลินมากมาย เช่น ดำน้ำดูปะการัง เดินเล่นชมเกาะ หรือนั่งเรือชมวิวได้ หากใครที่ต้องการชมปลาโลมาว่ายน้ำ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะพาคุณไปยังเรือลำเล็กๆ สามารถเลือกนั่งกันแบบสองต่อสอง ชวนให้คุณได้ใช้ช่วงเวลาโรแมนติกกับคู่รักอย่างเต็มที่ครับ
เดินทางมาชมปลาโลมายามเช้ากันได้ที่ “หาดโลวิน่า (Lovina)” อยู่ทางเหนือสุดของเกาะบาหลี มีหาดทรายสีดำดูแปลกตา และทอดยาวประมาณ 9 กิโลเมตร แนะนำให้ลองนั่งเรือโบราณจังโกลาน ออกสู่ท้องทะเล เพื่อชมความน่ารักของฝูงปลาโลมา ขอบอกเลยว่า คุณจะได้เห็นปลาโลมาแบบใกล้ชิด!! หรือสามารถถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก พร้อมเพลิดเพลินตลอดทั้งวัน
ปล. ถ้าคุณสายตาสั้นแนะนำเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำส่วนตัวมาให้พร้อมลุยนะจ้ะ หากใส่คอนเทนต์เลนส์ไม่ได้ อาจจะเตรียมหน้ากากดำน้ำแบบมีเลนส์สายตาสำหรับคนสายตาสั้น-ยาวมาก็ได้ จะได้สนุกกับทริปดำน้ำไงล่ะ
อีกหนึ่งเหตุผลที่คู่รักทั่วโลก ต้องมาฮันนีมูนบาหลีให้ได้ ก็เพราะที่นี่จะมีวัดศักดิ์สิทธิ์สามารถขอพรเรื่องลูกได้หลายแห่ง เหมาะกับคนที่ต้องการขอลูกหรืออยากมีลูก ก็ต้องลองมาบาหลีที่เที่ยวขอพรนะครับ และไม่เพียงแค่นั้น วัดในบาหลีส่วนใหญ่ยังมีบ่ออาบน้ำฮินดูให้ชำระร่างกายอีกด้วย เชื่อว่าจะช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ และช่วยให้สมหวังในเรื่องลูกครับ ดังนั้น ใครตั้งใจมีน้อง หรือมีลูกยากเตรียมทริปบุกขอพรให้มีลูกที่บาหลีได้เลย
หากคู่รักคนไหนต้องการขอลูก แนะนำให้เข้ามาไหว้ขอพรกันที่ “วัดถ้ำช้างหรือปุรากัวกาจาห์ (Pura Goa Gajah)” ซึ่งภายในจะมีลักษณะเป็นถ้ำทางศาสนาฮินดู และแกะสลักหินขนาดใหญ่ตรงบริเวณทางเข้าถ้ำ อีกทั้งยังมีแท่นเทพ 3 องค์ ได้แก่ พระศิวะ พระวิษณุ และพระพรหม ส่วนด้านหน้าของปากถ้ำ จะมีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ไหลออกจากหินสลักรูปสตรี 6 นาง ตามความเชื่อของชาวบาหลีเล่ากันว่า ให้ผู้หญิงลองดื่มน้ำหรืออาบน้ำกันที่นี่ จะช่วยขจัดโรคภัยไข้เจ็บ และให้มีลูกสมหวังดั่งปรารถนา
ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ดีได้มาเที่ยวบาหลีครับ เพราะอยู่ห่างไม่ไกลจากเมืองไทยเลย ใช้เวลาบินตรงสู่บาหลีประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้คุณประหยัดเวลาในการเดินทางมากขึ้น ผู้ที่ไม่ชอบนั่งเครื่องบินนาน ๆ มาได้ โดยเฉพาะคู่รักที่ต้องการมาฮันนีมูนในช่วงวันหยุดพักผ่อน ก็สามารถมาเที่ยวบาหลีประมาณ 4-5 วันก็คุ้มค่าแล้วครับ ไม่ต้องรอเปลี่ยนเครื่องให้เสียเวลา หรือถ้าใครห่วงเรื่องความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็น กรณีเจ็บป่วยหรือไม่สบาย ขณะเที่ยวต่างประเทศ หรือกรณีสัมภาระดีเลย์ เสียหาย ทำประกันเดินทางเผื่อไว้ ก็จะช่วยดูแลคุณได้ครับ
ใครมาบาหลีที่เที่ยวต่าง ๆ ขอบอกเลยว่า คุ้มค่ามากครับ เพราะค่าครองชีพใกล้เคียงไทยเลย ราคาที่พักและอาหารไม่แพงมากนัก สามารถเที่ยวภายใน 5 วัน 4 คืน ในงบหลักพันได้ เหมาะกับคู่รักที่อยากมาพักผ่อนบรรยากาศอันเงียบสงบ ด้วยงบประมาณไม่บานปลาย ก็ต้องลองไปเที่ยวบาหลีกันสักครั้ง คุณจะได้ดื่มด่ำความเป็นส่วนตัว และนอนพักชิลล์ริมทะเลตลอดทั้งวัน คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
เปิดโลกกว้างง่าย ๆ ไม่ต้องยุ่งยาก หมดปัญหาเรื่องขอวีซ่าเลย สำหรับคู่รักที่ต้องการทริปน้ำผึ้งพระจันทร์เที่ยวต่างประเทศ เนื่องจากอินโดนีเซียจะอยู่หนึ่งใน 31 ประเทศคนไทยเที่ยวฟรีวีซ่า เพียงแค่คุณมีพาสปอร์ตก็เที่ยวได้ทันที โดยเฉพาะคู่รักคนไทยที่ต้องการมาฮันนีมูนกันที่เกาะบาหลี สามารถเที่ยวบาหลียาว ๆ ได้ 30 วันครับ ว่าแล้วก็รีบจองตั๋วเครื่องบิน และเตรียมจัดกระเป๋าเดินทางกันเลย!
ถึงเวลาพาแฟนไปเติมความรักกันที่บาหลีแล้ว ก็อย่าลืมซื้อประกันเดินทางกับ frank.co.th ให้เราช่วยดูแลทริปครั้งนี้ของคุณให้หายห่วงด้วยนะครับ อย่างน้อยก็ช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีไม่สบายหรือบาดเจ็บระหว่างเดินทาง รวมถึงเวลาเครื่องบินดีเลย์ หรือถูกยกเลิกเที่ยวบินจนมีผลกระทบต่อการจองที่พักของคุณ ตรงนี้คุณก็จะได้รับค่าชดเชยเช่นกัน อุ่นใจมากขึ้นเพราะได้รับความคุ้มครองสัมภาระสูญหาย ล่าช้า หรือเสียหายขณะเดินทางอีกด้วย หากคุณมีปัญหาเรื่องการเดินทางก็สามารถติดต่อสอบถามได้เลย เราพร้อมช่วยเหลือคุณเสมอครับ