อ่านเร็วๆ
เรื่องของ Insurtech นั้นหลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่? หรือบางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Fintech มากกว่าหรือบางคนอาจจะผ่านหูกับคำว่า startup ซะมากกว่า อย่างเพิ่งสับสนไปครับเดี๋ยว Frank จะเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายเวอร์มากใน 5 นาทีว่าแต่ละคำนั้นคืออะไรกันแน่ เรียกได้ว่าอ่านจบปุ๊บเป็นผู้รู้กันเลยทีเดียวครับ
จากคำถามคลาสสิกที่ว่า Insurtech คืออะไรนั้น เรามาทำความเข้าใจที่มาของคำนี้กันก่อนนะครับ insur มาจากคำว่า Insurance ก็คือการทำประกันหรือหมายความถึงการซื้อ-ขายกรมธรรม์ประกันเพื่อให้เกิดความคุ้มครองตามที่ต้องการ และคำว่า tech ก็ย่อมาจาก Technology ซึ่งก็คือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเกิดประโยชน์ให้มากที่สุดให้กับอุตสหกรรมการประกัน เช่น สะดวกมากขึ้น รวดเร็วขึ้น หรือง่ายขึ้นก็ได้เช่นกัน
Insurtech ถือเป็นส่วนหนึ่งของ Fintech นะฮะ เพราะประกันถือเป็นส่วนหนึ่งของการเงินครับ เราเรียกแบบง่ายๆ ได้ว่า Insurtech อยูใน Fintech ก็ได้ครับ
Frank เป็น Insuretech ที่ต้องการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการทำประกันรถยนต์เพื่อให้เพื่อนๆ เข้าใจความหมายของศัพท์ประกันแบบง่ายๆ รวดเร็วมากยิ่งขึ้นในการเช็คเบี้ยประกันไม่ถึง 1 นาที จ่ายเงินเสร็จและส่งกรมธรรม์ออนไลน์ให้คุณที่อีเมลทันที สะดวกมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ
ถัดมา Fintech ครับ คำนี้น่าจะได้ยินกันมาสักพักแล้ว ถ้าเราดูจากความหมายของคำว่า Fin ย่อมาจาก Finance ซึ่งก็คือการเงินนั่นเอง และ tech ก็มาจากคำว่า techology แบบเดียวกันกับ Insurtech ที่เน้นการเอาเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมการเงินให้ดียิ่งขึ้น สะดวกมากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้นและยังมีการรวมตัวกันจัดตั้งเป็นสมาคมฟินเทคประเทศไทยขึ้นเพื่อทั้งทดสอบและพัฒนา กำหนดทิศทางของแผนพัฒนาในระดับชาติ และสร้างให้เกิดระบบนิเวศของฟินเทคในประเทศขึ้นด้วย
ตัวอย่างของ Fintech ของประเทศไทยนั้นมีค่อนข้างเยอะและน่าสนใจมากด้วยนะครับ แบ่งออกได้หลายด้านครับ เช่น ด้านที่เราใช้บริการบ่อยๆ เวลาซื้อของออนไลน์เพื่อจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต คือ 2C2P ที่เป็น Payment gateway เว็บไซต์เปรียบเทียบบริการด้านการเงินต่างๆ Financial Comparison เช่น Gobear หรือ Refinn ก็จะรวบรวมข้อมูลให้เราเลือกกรองได้ง่ายมากขึ้นตามความต้องการของเรา
โลกของเรากำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุค Digital Technology ในเร็ววัน ในอนาคตอันใกล้พวกเราก็ต้องเข้าสู่สังคมไร้เงินสดหรือการใช้งาน bitcoin ที่เป็นเเงินสกุลดิจิตอลในระดับโลกเพื่อทั้งความสะดวกในการโอนเงินข้ามประเทศและค่าธรรมเนียมในการโอนเงินที่ถูกกว่าในปัจจุบันมาก หรือการใช้งาน Blogchain ที่เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลโดยไม่ต้องอาศัยคนกลางอีกต่อไป
เราจึงควรรู้จักเรื่องเหล่านี้ไว้ด้วยนะครับ เพราะทั้งเพื่อการเตรียมพร้อมเมื่อถึงวันที่เราต้องใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้และการประยุกต์ใช้งานให้เหมาะกับธุรกิจของเพื่อนๆ หรือค้นหาไอเดียเพื่อก้าวสู่การเป็น Startup ยิ่งดี เตรียมตัวเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 กันแล้วรึยังครับ?