ฝนตกทุกวัน น้ำท่วมทุกมุมเมืองแบบนี้ frank มีวิธีคุมรถฝ่าวิกฤตมัลดีฟทั่วกรุงแบบนี้มาฝากกันคร้าบบ
เมื่อต้องควบคุมรถเวลาที่เราขับผ่านน้ำท่วมสูงให้
1.กะระยะน้ำก่อน ถ้าระดับน้ำสูงเกินครึ่งล้อรถคันหน้า ให้เลี่ยง เพราะรถจะลอยไปกับน้ำ
ถ้าเราเจอน้ำท่วม เราต้องกะระยะก่อนเลยนะครับ ว่าน้ำลึกขนาดไหน เพราะถ้าลึกกว่าครึ่งล้อแล้ว เราลงน้ำเราจะลอย ถึงแม้เรารู้สึกว่ารถเราหนักนะครับ แต่รถเรามีอากาศข้างใน เพราะฉะนั้นเมื่อลงน้ำ รถเราจะลอยครับ แต่ลอยได้แค่เเป้บเดียวแหละครับ แต่อย่าเพิ่งดีใจ รถยนต์ของเราไม่ได้ออกแบบมาให้วิ่งลุยน้ำครับ เมื่อรถเราลอยแล้วน้ำแทรกตัวเข้ามาในรถ รถเราจะจมอีกรอบ แล้วนั่นเอง งานเข้าครับ น้ำเข้า เครื่องพัง จอบอ เลยคร้าบบบ
2.ปิดแอร์ เพื่อกันไม่ให้น้ำเข้าเครื่องยนต์
หลังจากที่กะระยะแล้ว ว่าน้ำไม่ถึงครึ่งรอชัวร์ๆ เพื่อความมั่นใจ ปิดแอร์ก่อนลุยน้ำครับ เพราะว่า ถ้าเปิดแอร์ เรายิ่งเปิดโอกาสให้น้ำเข้าตัวรถครับ เพราะฉะนั้นปิดแอร์แล้วเปิดหน้าต่างแทนแล้วกันนะคร้าบบ
3.เว้นระยะห่างจากคันหน้าเยอะหน่อย ป้องกันควบคุมรถไม่ได้แล้วลอยไปชนคันหน้า
เพราะว่าบนถนนมีน้ำท่วมครับ พื้นถนนลื่นกว่าปกติ เราต้องค่อยๆ ขับช้าๆ แล้วเว้นระยะดีๆ อย่างซิ่งมาก เดี๋ยวรถจะลอยแล้วไปชนคันข้างหน้านะครับ
4.ขับช้าๆ เพื่อให้น้ำกระเด็นขึ้นมาให้น้อย จะได้มองเห็นทางที่ขับว่ามีอะไรลอยอยู่ในน้ำบ้าง
นอกจะขับช้าๆ เพื่อไม่ให้รถเราลอยจากพื้นถนนแล้ว เราต้องขับช้าๆ เพื่อเราจะได้สังเกตว่ามีอะไรลอยอยู่ข้างๆ ตัวรถบ้างไหม เผื่อจะเป็นอะไรอันตราย หรืออะไรที่สามารถขูดขีดรถเรา เราจะได้เลี้ยวหลบทันครับ
5.ถ้าเครื่องดับกลางน้ำ อย่าสตาร์ท เดี่ยวน้ำเข้าเครื่อง และเครื่องพัง ให้เข็นรถหลบข้องทาง แล้วโทรหาบริษัทประกัน
ข้อสุดท้าย ถ้าเราทำตาม 4 ข้อบนแล้ว แล้วน้ำยังเข้ารถ เครื่องดับ ห้ามสตาร์ทรถนะครับ!!! เพราะจะทำให้น้ำเข้าเครื่อง เครื่องพังเลยนะครับ ทางที่ดีคือลงแล้วเข็นรถไปหลบข้างทาง แล้วโทรเรียกประกันครับ
แค่ 5 วิธีนี้ เราก็จะกลับถึงบ้านกันอย่างปลอดภัยแล้วคร้าบบ แต่อย่าลืมตรวจสอบให้ดีนะครับว่าประกันรถยนต์ของเราหมดอายุหรือยัง ถ้าหมดแล้วรีบต่อประกันรถยนต์เลยนะครับก่อนจะงานเข้าได้ไปมัลดีฟไม่รู้ตัว