อยากรู้ไหมครับว่าในมุมของประกันรถที่สืบเนื่องจากเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เราคงได้เห็น clip กันไปแล้วนั้นว่าใครจ่าย? จากข่าวฮ้อทใน Facebook ที่ในตอนแรก frank นึกว่าเพื่อนมันอำครับ พอได้เข้าไปดูเท่านั้นล่ะ โห….นึกว่ากำลังถ่ายทำหนังกันอยู่อ่ะ ทั้งน่าตกใจและน่ากลัวมาก ที่สำคัญรถติดๆ กันอยู่ด้วยนะเราหาทางหนีไม่ได้เลย ขนาดบางคันพยายามขับแอบข้างทางก็ยังไม่พ้นเลยคร้าบ...บ ไม่แปลกใจเลยว่าบางคันเปิดประตูวิ่งหนีบนถนนกันเลย
มาเริ่มกันที่ความคุ้มครองตัวรถคันที่เอาประกันภัย (รถเรา) ที่ครอบคลุมการซ่อมจากเกิดอุบัติเหตุที่ถูกชนโดยรถ 6 ล้อที่ว่ากันบ้างนะครับ โดยปกติแล้วเราจะใช้คำว่า “การเกิดอุบัติเหตุจากยานพาหนะทางบก” ซึ่งประกันที่ให้ความคุ้มครองนั้นก็คือ ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+ และประกันชั้น 3+ ครับ
ส่วนใครที่ทำประกันชั้น 3 ไว้ frank ต้องแสดงความเสียใจด้วยนะครับ อาจจะต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทของรถ 6 ล้อเอาครับ (ประกันชั้น 2 ปกติแล้วจะทำไว้ให้รถที่ส่วนมาจะจอดทิ้งไว้เฉยๆ เช่น ตามเต้นท์รถ เพราะไม่ครอบคลุมความเสียการที่เกิดจากการชน)
อุบัติเหตุทางรถยนต์นั้นไม่ได้เกิดจากตัวเราเสมอไป ส่วนมากแล้วเกิดจากเพื่อนร่วมทางซะมากกว่าด้วยซ้ำ แล้วทางเลือกของเรามีอะไรบ้างล่ะ?
สุดท้ายแล้วก็กลับมาที่คำถามที่เรามักจะถามตัวเองทุกครั้งก่อนต่อประกันกันรายปีอีกตามเคย เพราะอย่างที่เรารู้จากข่าวว่า อุบัติเหตุทางรถยนต์นั้นไม่ได้เกิดจากตัวเราเสมอไป ส่วนมากแล้วเกิดจากเพื่อนร่วมทางซะมากกว่าด้วยซ้ำ แล้วทางเลือกของเรามีอะไรบ้างล่ะ?
หลักการเป็นอย่างนี้นะครับ คือเมื่อเราขับรถไปเกิดอุบัติเหตุโดยที่เราเป็นฝ่ายถูก (ชาวบ้านมาชนเรา) เราก็เรียกให้บริษัทประกันมาดูแลตามปกติ แต่ถ้าเราดันเป็นฝ่ายผิด (ขับไปชนชาวบ้าน) งานนี้เราต้องจ่าย ค่าความเสียหายส่วนแรก ซึ่งก็คือ เจ้าค่า Deductible ที่ว่านี่ล่ะครับตามที่เราเลือกไว้ในกรมธรรม์เลยซึ่งจะอยู่ในช่วง 2.000 - 5,000 บาท เช่น เราเลือกให้มีค่า Deductible 5,000 บาท เราก็จะได้ส่วนลดค่าเบี้ยประกันปีนั้นไป 5,000 บาทเน้นๆ ไปซิคร้าบ
ที่จริงแล้วประกันชั้น 2+ ยังสามารถเลือกให้มีค่า Deductible ได้ด้วยนะครับ สูงสุดได้ 2,000 บาท แหม่...มันช่างคุ้มค่าน่าคบหาซะจริงๆ ฮะ
จากที่เล่าให้ฟังมาทั้งหมด frank อยากให้เราดูที่สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครับ นั่นคือ “ยาเสพติด” ครับ เพราะงั้นมาตราการในการควบคุมและกวดขันผู้ที่ขับรถบรรทุก 10 ล้อ หรือรถ 6 ล้อ (ใบขับขี่ประเภท 2) น่าจะต้องเข้มงวดกว่านี้ หรือมีการตรวจการใช้สารเสพติดให้บ่อยขึ้น (อย่าลืมว่าพวกเราใช้ถนนร่วมกันอยู่นะคร้าบ) ไม่ว่าจะมีของความเครียดมาจากอะไรก็ตามการเสพยาไม่ใช่ทางออก และเรื่องของการทำประกันรถยนต์ก็เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอุบัติเหตุไใ่คาดฝันที่อาจขึ้นได้ในอนาคตล่ะครับ
อย่าลืมต่อประกันรถก่อนเดินทางนะครับ