เมื่อเราวางแผนว่าจะไปเดินซื้อของเข้าบ้านเคยไหมครับ ว่ามันเกินงบไปเยอะทุกที หรือไม่งั้นก็กลายเป็นเราต้องไปซื้อของกันอยู่บ่อย ๆ แทนที่จะไปตามแผนคือเดือนละครั้งเท่านั้น frank มีเคล็ดลับดี ๆ มาแนะนำกันครับ เพราะ frank ก็เป็นเพนกวิ้นพ่อบ้านที่ต้องพยายามจัดการการเงินของครอบครัวให้ได้ ว่าแล้วอย่าเสียเวลาเลยครับไปดูกันเลยว่าทำได้อย่างไร
ก่อนไปซื้อของเข้าบ้านให้เราสำรวจก่อนเลยครับว่า ของในบ้านอะไรหมดแล้ว อะไรใกล้หมดแล้วจดออกมาเป็นรายการที่เราต้องไปซื้อด้วยจำนวนที่แน่นอน เพื่อให้เราไม่ลืมจะได้ไม่ต้องไปซื้อของกันหลาย ๆ รอบ และทำให้เรารู้ตัวว่าของที่เราซื้อมาน่ะคือของที่จำเป็นต้องใช้
เรื่องของการซื้อของเข้าบ้านแล้วต้องคุ้มค่าและประหยัดที่สุดนั้นเข้าใจได้ครับ แต่อย่าตกลงไปในกับดักของการซื้อยกแพ็คเชียว เพราะบางครั้งจำนวนที่คุณต้องการใช้อาจจะไม่ได้มากนัก แต่ราคาที่จัดโปรโมชั่นแบบยกแพ็คนั่นเป็นตัวดึงดูดทำให้เราเผลอซื้อมากเกินความจำเป็นได้ครับแล้วของที่เหลือเราก็ต้องมาดูวันหมดอายุด้วยนะครับ
ไปซื้อของเข้าบ้านแบบไม่ต้องรีบร้อนดีกว่านะครับ เพราะเราจะมีเวลาเดินเปรียบเทียบราคาได้เพื่อเป็นการจัดการการเงินอย่างถูกต้อง เพราะการวางของในห้างสรรพสินค้านั้นเค้าออกแบบมาแล้วครับว่าให้เราเดินไปหยิบอะไรเด่น ๆ ก่อนและมันก็มักจะไม่ใช่ของที่คุ้มค่าที่สุดซะด้วยซิ หรือพยายามหลีกเลี่ยงวันที่คนไปซื้อของกันเยอะ ๆ ก็น่าจะช่วยให้เราไม่ต้องรีบร้อนหยิบของหรือรีบร้อนจ่ายเงินเพราะกลัวว่าคิวจะยาว
ฮัลโหล!!! ป้าย Sell ทั้งหลายที่มันดึงดูดความสนใจของเรานั้นให้คำนวณให้ดีก่อนนะครับ เช่น พวกซื้อชิ้นที่สองแล้วราคาชิ้นที่สองลดเหลือครึ่งเดียวอะไรพวกนี้ไม่ได้ช่วยให้เราประหยัดเท่าไหร่หรอกนะครับ กลับทำให้เราต้องซื้อเพิ่มขึ้นโดยที่เราไม่ต้องการซะด้วยซ้ำและนี่คือสาเหตุที่งบซื้อของเข้าบ้านเราปานปลายได้โดยไม่รู้ตัวแทนที่จะประหยัดนะครับ
อย่างที่บอกนะครับ พ่อบ้านเพนกวิ้นอย่างผมน่ะใช้จ่ายเป็นเพราะได้รับการอบรมมาอย่างดีจากหวานใจ (แหม...ใครจะกล้าหือล่ะครับ แหะๆๆ) เลยอยากแบ่งปันเคล็ดลับดีๆ เพื่อให้เพนกวิ้นสาว ๆ เค้ามองเห็นว่า พวกเราน่ะใช้เงินเป็น เหมาะแก่การสร้างครอบครัวเป็นที่สุดแล้วคร้าบ
หรือถ้าสนใจประกันบ้านและทรัพย์สินเลือกกับ Frank.co.th ได้นะ