เมื่อพูดถึง รถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ที่กำลังเป็นกระแสมากในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพสูงในการขับขี่ ขับนุ่มนวล เสียงเงียบ ไม่ปล่อยมลพิษ แถมช่วยประหยัดค่าน้ำมันรถได้ เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจของคนรุ่นใหม่ ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้ามีหลายรุ่น หลายสมรรถนะในการขับขี่ มาดูกันสิว่ารถ ev มีทั้งหมดกี่ประเภท แบบไหนดีกว่ากัน? เปรียบเทียบมาให้แล้ว
รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า มีประสิทธิภาพสูงในการขับขี่ ภายในประกอบด้วยเครื่องยนต์ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า มอเตอร์ แบตเตอรี ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ปล่อยมลพิษ ไม่ทำลายอากาศ
รถยนต์ไฟฟ้า แบบปลั๊กอิน ที่ใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ จะทำงานพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันเบนซิลหรือดีเซล ต้องดูแลทั้ง 2 ระบบ โดยสามารถเติมพลังงานไฟฟ้าจากภายนอก (Plug-in) ชาร์จไฟได้ทั้งจากไฟบ้านโดยตรงหรือสถานีชาร์จรถไฟฟ้า มีประสิทธิภาพในการขับระยะทางไกลกว่า มีประสิทธิภาพกว่ารถไฮบริดทั่วไป ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า PHEV ตอบโจทย์หลายคนที่สุด
ทางด้าน รถยนต์ไฟฟ้าที่มีเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel cell) ที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากไฮโดรเจนโดยตรง มีมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนและชาร์จกระแสไฟในแบตเตอรี ไม่มีการปล่อยมลพิษ และคาร์บอนไดออกไซด์ ข้อดีคือมีประสิทธิภาพเซลล์เชื้อเพลิงมีค่าสูงถึง 60% เลยทีเดียว
และรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี ถือเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% จากแบตเตอรีในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานภายนอก โดยพลังงานไฟฟ้าที่ชาร์จเข้ามาจะถูกเก็บไว้ที่แบตเตอรี ตัวระบบไม่มีเครื่องยนต์ที่เผาไหม้เชื้อเพลิง ทำให้ไม่ปล่อยไอเสียออกมา ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ข้อจำกัดอาจต้องชาร์จพลังงานไฟฟ้าก่อนใช้งานทุกครั้ง และต้องคำนวณเรื่องระยะทางในการขับขี่ให้ดีๆ
หลายคนอาจลังเลว่า ซื้อรถไฟฟ้าแบบไหนดีกว่ากัน? กลัวว่าจะหาที่ชาร์จไม่ได้ แต่ละประเภทย่อมมีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป อย่างรถไฮบริดอาจได้ราคาถูกว่า แต่เราต้องเปลี่ยนเเบตเตอรีตามที่กำหนดและอาจมีค่าซ่อมบำรุงสูง แต่ถ้าเป็นรถ PHEV จะทำงานพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันเบนซิลหรือดีเซล เหมาะกับขับรถทางไกลมากกว่า มีความเร็วขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายในการดูแลสูงกว่ารถไฮบริดเพราะต้องดูแลทั้ง 2 ระบบ ส่วนรถไฟฟ้าที่มีเซลล์เชื้อเพลิงจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กและใช้เทคโนโลยีเชื้อเพลิง Fuel Cell มีข้อดีหลายประการเช่น สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยมาก แทบไม่ปล่อยมลพิษเลย
รถไฟฟ้าแบตเตอรี เป็นพลังงานไฟฟ้าแบบ 100% ที่นิยมในวงการรถยนต์ไฟฟ้า ทำงานมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่มีข้อจำกัดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่และระยะทางในการขับขี่ ซึ่งในปัจุบันนี้สถานีชาร์จรถไฟฟ้าให้บริการหลายจุด ทำให้คุณสะดวกมากขึ้น หากคุณชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้าประเภทไหน รุ่นไหน สเปกไหน สามารถเลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ของคุณ