สวัสดีครับชาว Frank.co.th ในเดือนนี้ก็พบกับ MR.CARRO แห่ง CARRO Thailand กันอีกเช่นเคยนะครับ สำหรับสาระความรู้เรื่องรถดีๆ มีมาเสิร์ฟให้อ่านกันเป็นประจำ หลายคนทราบกันแล้วว่าในเดือนกรกฎาคมนี้ เป็นเดือนที่มีการจัดงาน Motor Show 2020 (มอเตอร์โชว์ 2020) ซึ่งเป็นการเลื่อนจัดงานเป็นครั้งแรกในรอบ 41 ปี นับตั้งแต่จัดงานมา จากพิษของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วทุกวงการมหาศาล รวมไปถึงยอดขายรถในบ้านเราที่ดิ่งเหวมาหลายเดือน ซึ่งงานมีกันในวันที่ 15 - 26 กรกฎาคม 2563 และบัดนี้ยอดขายรถใหม่ในไทยก็เริ่มฟื้นตัว ดีขึ้นมาบ้างละ
และประเภทรถที่ได้รับความนิยมอย่างมากในงานนี้ คงต้องยกให้รถประเภท Crossover SUV เพราะเหมาะกับการใช้งานในบ้านเราในหลายรูปแบบ ซึ่งรถยนต์ Crossover SUV รุ่นเด่นๆ ในงาน จะมีรถรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง? MR.CARRO ขอนำมาเสนอให้ยลโฉมกัน 5 รุ่นครับ!
Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) นับได้ว่าเป็นรถ SUV Crossover เปิดตัวในไทยเป็นที่แรกของโลก และโชว์ในงาน Motor Show 2020 พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue)
เป็นรถที่คนสนใจเข้าชมบูธ Toyota ในงาน Motor Show 2020 มากจนต้องต่อแถวรอรับบัตรคิวกันยาวเหยียด
ตัวรถภายนอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว หรูหราแข็งแกร่ง มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
ส่วนห้องโดยสารภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB
สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)
เครื่องยนต์ เริ่มต้นด้วยรุ่นเบนซินรหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร (18.05 กก.-ม.) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด CVT-i พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร
ส่วนรุ่น Hybrid มากับชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร
ราคาของ Toyota Corolla Cross ใหม่ อยู่ที่ 989,000 - 1,199,000 บาท
Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์) รถ Crossover ไฮบริด ที่มีจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล
ขุมพลังหลักคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ขนาด 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)
จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) หากรวมพลังทั้งหมด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า
นอกจากนี้ ห้องโดยสารภายใน โดดเด่นด้วยการใช้สีทูโทนดำ – ส้ม ด้วยแผงคอนโซล และเบาะหนัง พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง
ราคาของ Nissan Kicks e-POWER ใหม่ อยู่ที่ 889,000 - 1,049,000 บาท
Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) ใหม่ เปิดตัวในไทยที่งาน Motor Show เป็นประเทศแรกของภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ด้วยดีไซน์ภายนอกยังสปอร์ตหรูหราและความแข็งแกร่งในทุกมิติ พรีเมียมขึ้นด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบ Panorama และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
เสริมความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) และนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายล้ำสมัยระดับพรีเมียม
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง มาพร้อมขุมพลังการขับเคลื่อนทั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO 160 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC 173 แรงม้า และมาพร้อมสีใหม่ สีน้ำเงินคอสมิก
ราคาของ Honda CR-V ใหม่ อยู่ที่ 1,369,000 - 1,759,000 บาท
Mazda CX-5 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) จัดเป็นดาวเด่นในบูธ Mazda ของงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้ ตัวรถออกแบบภายใต้แนวคิด Kodo: Soul of Motion ตัวรถที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mazda3 เพิ่มทางเลือกระหว่างรุ่น CX-3 และ CX-5 โดย CX-30 ยังเป็นรถที่ได้รางวัล 1 ใน 3 รถยนต์ยอดเยี่ยมของโลกปี 2020 มั่นใจได้ทั้งคุณภาพและการชับขี่ ภายในนั่งกันได้ 4 คนสบายๆ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง หรือชอบที่ชื่นชอบรถ SUV แนวสปอร์ต
ห้องโดยสารภายใน ครบทุกความสะดวกสบาย เริ่มตั้งแต่มาตรวัดแบบดิจิทัลแบบจอ TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ Head-up Display แบบสีบนกระจกหน้า มีระบบอินโฟเทนเมนท์ และระบบเชื่อมต่อ Mazda Connect ทำงานผ่านจอกว้างขนาด 8.8 นิ้ว รองรับการแสดงผลระบบกล้อง 360° View Monitor รวมถึงฟังก์ชั่น Apple CarPlay ที่สามารถควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ด้วยปุ่ม Center Commander ที่บริเวณฐานเกียร์ได้ และชุดเครื่องเสียง Bose พร้อมลำโพง 12 ตัว
มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร และสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้
ราคาของ Mazda CX-30 ใหม่ อยู่ที่ 989,000 - 1,199,000 บาท
Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) Multi-Dynamic Crossover ที่ชื่อรุ่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกันกับ Suzuki Vitara XL7 ที่ทาง Suzuki เคยขายในไทยมาก่อนเลย ชูแนวคิด THINK XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิต บนพื้นฐานของ HEARTECT Platform ร่วมกับรุ่น Ertiga ด้วยสมรรถนะและฟังก์ชันที่ครบครัน ที่มาของ XL7 ซึ่งก็หมายถึงรุ่นนี้มี 7 ที่นั่งนั่นเอง
มาพร้อมดีไซน์สปอร์ต ออกแบบให้มีความสูงขึ้น ใช้ไฟหน้า LED ปรับระดับองศาของไฟต่ำได้ พร้อม ไฟ Daytime Running Light และล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว มีราวหลังคา และไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรคแนวตั้งแบบ Light guides
ภายในตกแต่งวัสดุด้วยลาย Carbon Fiber พร้อมคิ้วโครเมียม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผลข้อมูลการขับขี่ จอแสดงผลระบบอินโฟฯ แบบทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมแอร์เบาะแถว 2 และแถว 3 ซึ่งเบาะแถว 2 สามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ปรับเลื่อนได้ 240 มม. ช่วยให้เข้า-ออกเบาะแถว 3 ง่ายขึ้นและเบาะแถว 3 ปรับพับได้แบบ 50:50
มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส K15B เหมือนในรุ่น Ertiga ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า
Suzuki XL7 ราคาอยู่ที่ 779,000 บาท
MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) ปรับโฉมใหม่ไปในเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ด้วยอีกขั้นของยนตรกรรมภายใต้นิยาม “SMART UP” ยกระดับ สู่การเป็น “สมาร์ทเอสยูวี ที่เหมาะกับชีวิตสมาร์ทของทุกคน” ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดบริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่มีความทันสมัยมากขึ้นและสปอร์ตยิ่งกว่าเดิม พร้อมชูจุดเด่นรถยนต์รุ่นแรกของเอ็มจี ที่มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART มีระบบ Voice Command ภาษาไทย
New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ใหม่ 8 สปีด และสามารถปรับโหมดพวงมาลัยได้ถึง 3 โหมด
ราคาของ MG ZS ใหม่ อยู่ที่ 689,000 - 799,000 บาท
และในส่วนของใครที่อยากเปลี่ยนรถคันใหม่ในช่วง Motor Show 2020 และอยากรถคันเดิม CARRO เรายินดีรับซื้อรถของคุณ! สามารถเข้าไปเช็คราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่รายละเอียดรถที่คุณอยากขาย ได้ที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425
หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand