สำหรับผู้ที่จอดรถตากแดดเป็นเวลานานๆ อย่างหนึ่งที่เราจะต้องระวังก็คือ การนำสิ่งของบางอย่างทิ้งไว้ในรถ หากมองดูเผินๆ ก็เหมือนจะไม่ได้เป็นอันตราย แต่ที่ไหนได้น่ากลัวกว่าที่คิดนะครับ เพราะของบางอย่างเมื่อโดนความร้อนแล้ว อาจจะทำให้วัตถุเกิดการระเบิด และสาเหตุของการเกิดไฟไหม้รถ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น มาดูกันว่าสิ่งของอะไรบ้างที่เราไม่ควรทิ้งไว้ในรถยนต์
เนื่องจากแบตเตอรี่สำรอง มีสารลิเธียมที่เป็นโลหะ และไวต่อปฏิกิริยาทางเคมี หากโดนความร้อนมากๆ จะทำให้เกิดการลัดวงจร และส่งผลให้เเบตเตอรี่สำรองระเบิดได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อรถยนต์แน่นอน
ไม่เพียงแค่แบตเตอรี่สำรองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโทรศัพท์มือถือ ในกรณีที่เราจอดรถตากแดดจัดๆ จะยิ่งทำให้โทรศัพท์ร้อนสูงขึ้น เเบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือแบตเตอรี่ระเบิดได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงอุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่ทุกชนิดด้วย เช่น แท๊บเล็ต คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นของมีค่าราคาแพง เราควรเก็บไว้กับตัวเพื่อป้องกันรถถูกงัดขโมยด้วย
ใครจะไม่คิดว่าขวดน้ำเล็กๆ เพียงขวดเดียวจะสามารถทำให้รถไฟไหม้ได้ แต่มันก็เกิดขึ้นเเล้วจริงๆ ในข่าวครับ เพราะขวดน้ำพลาสติกสามารถทำมุมหักเหกับแสงแดด ได้เหมือนกับแว่นขยาย อาจจะทำให้วัตถุที่โดนแสงแดดเกิดความร้อน และไฟไหม้รถในที่สุด
ถือเป็นวัตถุที่ไม่ควรนำไปไว้ในรถเมื่อคุณต้องจอดรถตากแดดเป็นเวลานานๆ อย่างเช่นกระป๋องสเปย์ที่มีสารเคมี หรือกระป๋องน้ำอัดลมที่มีแก๊สจำนวนมาก เหล่านี้หากโดนความร้อนจะทำให้กระป๋องเกิดการขยายตัว และทำให้กระป๋องระเบิด
นอกจากนี้ “ไฟแช็ก” ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งของที่ไม่ควรทิ้งไว้ในรถยนต์ เนื่องจากไฟแช็กมีสารเคมีเป็นเชื้อเพลิงบรรจุภายใน หากโดนความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 50 องศาเซลเซียส ไฟแช็กก็อาจจะเกิดการขยายตัวจนระบิด หรือทำให้รถไฟไหม้ได้ รวมถึงวัตถุไวไฟทุกชนิดก็ไม่ควรทิ้งไว้ในรถยนต์
เมื่อดูผิวเผินแล้ว ยางลบไม่น่าจะทำให้เกิดอันตรายใดๆ ตัวต่อรถยนต์ แต่ทราบหรือไม่ว่า? ยางลบที่เราใช้จะมีสารในกลุ่ม Plasticizers ซึ่งเป็นตัวทำละลายพลาสติกได้ดี หากยางลบโดนความร้อนแล้วจะทำให้สารนั้นละลาย จากนั้นก็จะแห้งเกาะกับอุปกรณ์ภายในรถ ทำให้สีรถหลุดออกมานั่นเอง
ดังนั้น สิ่งเหล่านี้เราไม่ควรทิ้งไว้ในรถยนต์ โดยเฉพาะเวลาที่จอดรถตากแดดเป็นเวลานานๆ เพราะสาเหตุไฟไหม้รถเกิดจากความร้อนของแสงแดดที่กระทบกับวัตถุ อาจจะทำให้วัตถุระเบิดและเกิดไฟไหม้ได้ แต่ถ้าเราหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ให้เราเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดนี้อย่างมิดชิด ไม่ให้โดนความร้อน แล้วเพื่อความอุ่นใจมากขึ้นไปอีก ทำประกันรถยนต์ชั้น1 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น2+ ให้ช่วยคุ้มครองเหตุรถไฟไหม้ ก็สามารถแจ้งเคลมได้เลยตามทุนประกัน เอาเป็นว่า ป้องกันไว้ก่อนจะได้ไม่ต้องมาเสียใจ เสียเงินในภายหลัง