ใกล้จะถึงช่วงสิ้นปีกันแล้ว ก่อนที่เพื่อนๆ จะขับรถไปเที่ยวในช่วงหยุดยาวนั้น เราอยากจะมาแชร์ทุกคนในหัวข้อ 5 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับยางรถยนต์ สำหรับคนที่ใช้งานรถเป็นประจำ มีวิธีดูแลยางรถอย่างไรบ้าง?? ไม่ว่าจะเป็นการเติมลมยาง การปะยาง การสลับยาง เพื่อยืดอายุการใช้งานยางรถให้นานที่สุด และสิ่งที่ต้องรู้เมื่อยางรถบวม ยางสึกหรอ มาศึกษากันเลย!
รถเราใช้งานทุกวันสิ่งสำคัญที่สุดคือ ลมยาง แนะนำหมั่นเช็คลมยางทุก 2 อาทิตย์ เพราะต้องบอกว่าบางท่านเข้าใจว่าเติมลมไนโตรเจน ลมซึมช้า สองเดือนค่อยเช็คก็ได้ ซึ่งมันไม่ถูกต้องนะ อย่างน้อยๆ แวะเข้าไปเช็คสองสัปดาห์ครั้งก็ยังดี นอกจากเพื่อนๆจะได้ค่าลมยางที่ดีแล้ว อีกส่วนหนึ่งคือเพื่อนๆจะได้เห็นว่าสภาพยางของเพื่อนๆเป็นอย่างไรบ้างมีตะปูตำไหม บางคันใช้งานรถทั้งๆ ที่ตะปูตำยังไม่รู้ตัวเลย อันตรายอยู่นะ หรือบางทีอาจจะบวมหรือสึกผิดปกติ จะได้เช็คและตรวจสอบได้เห็น และก็การเติมลมยางถูกต้อง (ค่ามาตรฐานจากโรงงาน) ให้ดูที่ป้ายสติกเกอร์ข้างประตูคนขับ หรือฝาถังน้ำมันจะเป็นค่าที่เหมาะสมกับรถมากที่สุด เพื่อให้ยางสามารถตอบสนองการขับขี่ของรถได้ดีที่สุดค สามารถเติมได้ +- 1-3 psi
มีทั้งสตรีมร้อนและสตรีมเย็น โดยการปะที่ดีที่สุดคือสตรีมเย็นปะแบบดอกเห็ด PRP จะทำให้การปะยางของเพื่อนๆ ไม่ส่งผลกระทบต่อการสภาพโครงยาง แต่การปะสตรีมร้อนก็ใช้ได้ปะอยู่เหมือนกัน หรือจะฉุกเฉินจะปะแบบแทงใยไหมก็ย่อมได้ ส่วนหนึ่งที่อยากจะบอกคือ บริเวณที่เพื่อนๆ สามารถปะได้ เป็นบริเวณตรงกลางแบบของหน้ายาง บริเวณไหล่ยางจะมีอัตราการปะไม่อยู่สูงขึ้น เนื่องจากยิ่งใกล้บริเวณแก้มยางจะยิ่งมีการขยับตัวทำให้แผ่นปะจะหลุดได้ง่าย และแก้มยางก็จะสูงขึ้น ถ้าพบตะปูตำเพื่อนๆ พิจารณากันว่าจะปะหรือเปลี่ยนเส้นใหม่ แต่เบื้องต้นตั้งแต่บริเวณไหล่ลงไปถ้าปะใช้ไปสักพักจะบวม แต่แก้มส่วนใหญ่จะปะไม่อยู่ ช่างศูนย์บริการมักจะปฏิเสธเพราะเสี่ยงมาก
แน่นอนว่ายางคู่หน้าและคู่หลังมีการใช้งานที่แตกต่างกัน การที่สลับยางทุก 10,000 โล จะทำให้ทุกเส้นนั้นสึกไล่เรี่ยกันมากที่สุด เพราะยางคู่ที่เป็นคู่สำหรับการขับเคลื่อนจะถูกแรงกระทำจากเครื่องยนต์ ทำให้ยางคู่นั้นมีอัตราการสึกมากกว่า เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่สลับยางคู่หน้าจะหมดดอกแต่ยางหลังจะเหลือดอกอยู่ แต่ถ้าเพื่อนๆ สลับยาง ยางทั้งสี่เส้นจะสึกเท่าๆ กันทำให้ใช้ยางได้คุ้มที่สุด เมื่อทำการสลับยางแนะนำให้ถ่วงล้อทุกครั้งเพื่อที่จะทำให้รถขับได้นิ่งที่สุด
เมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้นมาที่พวงมาลัย ที่เพื่อนๆ จะเช็คสิ่งหนึ่งส่วนหนึ่งคือยางรถยนต์ แนะนำว่าให้นำยางไปถ่วงล้อนะ ไม่ใช่ตั้งศูนย์เพราะเวลาเราใช้รถไปนานๆ อาจทำให้ความสมดุลของยางลดลงเป็นได้ ดังนั้นเพื่อนๆ อาจจะไปถ่วงล้อใหม่ ถ้ายังไม่หายอย่าเพิ่งตกใจให้เพื่อนๆถ่วงทั้ง 4 ล้อเลย แล้วดูยางเส้นที่มีค่าถ่วงน้อยที่สุดไว้คู่หน้า และค่าถ่วงสูงไว้คู่หลังปัญหานี้จะหมดไป อีกปัญหาคือพวงมาลัยเบี้ยวเพื่อนๆ อาจจะไปตั้งศูนย์ได้ ให้พวงมาลัยตรงเพราะเวลาตกหลุมหรือเกิดการกระแทกมา อาจทำให้ศูนย์เพี้ยนได้ อาจเพียงไปเช็คช่วงล่าง หากช่วงล่างไม่มีปัญหาก็ตั้งศูนย์น่าจะหายขาดได้
5. ยางบวม ยางสึกผิดปกติจนถึงเส้นลวด ไม่ควรใช้งานแล้ว ควรเปลี่ยนเส้นใหม่เพื่อความปลอดภัย เพราะกรณียางบวมแล้วเป็นกรณีที่ชั้นเนื้อยางแยกตัวกับโครงยางแล้วมีลมแทรกตัวเข้าไปตรงกลาง แปลว่ายางเส้นนั้นไม่มีโครงยางที่ช่วยทำให้ยางแข็งแรง หากเกิดการกระแทกขึ้นมายางมีโอกาสแตกได้ง่ายเลย ส่วนที่สึกถึงเส้นใยชั้นโครงยางนั้นแน่นอนว่าเปลี่ยนเถอะ อีกนิดเดียวกับเก็บลมไม่อยู่แล้ว เมื่อเปลี่ยนเส้นใหม่ก็เลือกยางให้ตรงกับการใช้งานของเรา เน้นประหยัดน้ำมัน เน้นสปอร์ต เน้นนุ่มเงียบ เน้นบรรทุก เน้นลุยๆ ทุกอย่างลายดอกยางไม่เหมือนกัน ต้องเลือกให้เหมาะสมกับประเภทการใช้งานของเพื่อนๆ เพื่อให้ได้ยางที่เหมาะสมที่สุด
สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการเช็กยางใหม่ เปลี่ยนยางใหม่ สามารถเข้ามาเช็กได้ที่เว็บไซต์จอง Tiresbid แพลตฟอร์มจำหน่ายยางรถยนต์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ทั้งเลือกยางและบริการครบวงจร หากเพื่อนๆ มีข้อสงสัยไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนดีและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ https://tiresbid.com/home ได้เลย มีแบรนด์สินค้าเพื่อนๆ ให้เลือกมากที่สุดรวม 18 ยี่ห้อชั้นนำ และกว่า 80 รุ่นยอดนิยม และเพื่อนๆ สามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดในประเทศ หรือสอบถามข้อมูลผ่านทาง Line OA: @tiresbid (เติม@ด้วยนะ) พร้อมรับโปรโมชันยางรถพิเศษไทร์บิดมากมาย ให้บริการครบทุกรูปแบบ จุดบริการร้านยางใกล้บ้าน เปลี่ยนยางถึงบ้าน และจัดส่งทั่วไทย Fast service ทุกรูปแบบรับบริการนัดหมายล่วงหน้า ใช้เวลาเพียง 1 ชม. เท่านั้น สะดวกและรวดเร็ว!