กลับมาอีกครั้ง!! ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ติดง่าย แพร่กระจายเชื้ออย่างรวดเร็ว บางรายก็มีอาการโควิดเล็กน้อย ไอแห้ง เจ็บคอ เป็นไข้ แต่ถ้าเชื้อลงสู่ปอดก็ทำให้เกิดอาการปอดอักเสบ หายใจไม่เต็มปอด โดยส่งผลกระทบต่อการทำงานของปอดแน่นอน แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับอาการรุนแรงของแต่ละคน
การรับเชื้อโควิด-19 ในปริมาณมาก จะทำให้มีเชื้อที่ถุงลมในปอดเกิดอาการปอดอักเสบ เชื้อที่ถุงลมจะทำให้มีการอุดกั้นส่งผลต่อการแลกเปลี่ยน และลำเลียงออกซิเจนมีปัญหาอาจทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ปอดอักเสบ ส่งผลให้เลือดและร่างกายไม่ได้รับออกซิเจนเต็มที่ บางรายก็หัวใจล้มเหลวฉับพลัน
ในกรณีที่ปอดอักเสบมาก เนื้อปอดถูกทำลาย และปริมาณออกซิเจนในเลือดไม่เพียงพอ ไม่สามารถเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้ ปอดอักเสบอาการค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากผู้ป่วยบางรายต้องใช้เครื่องช่วยหัวใจพยุงไว้ หรือจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษตามคำวินิจฉัยของหมอ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วยโควิด
เมื่อเชื้อโคโรนาไวรัสเข้าสู่ปอดแล้ว ทางแพทย์จะวินิจฉัยอาการก่อน โดยใช้เครื่องตรวจฟังเสียงปอด เอกซเรย์ปอด ตรวจเลือด ตรวจเสมหะ ตรวจเสมหะ RP33 (Respiratory Pathogen Panel 33) เป็นต้น แล้วรักษาตามระดับอาการของคนไข้ เช่น ให้ยาต้านไวรัส เพื่อหยุดยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสเเบ่งตัว เพิ่มจำนวนเซลล์ รวมถึงยาต้านการอักเสบ หากอาการรุนแรงก็จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
เมื่อปอดอักเสบจากโรคโควิด-19 ผู้ป่วยต้องเข้าไปพบแพทย์เพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ตรวจวัดสมรรถภาพปอด ตรวจภูมิคุ้มกันของร่างกาย ตรวจระดับออกซิเจนในเลือด และฟื้นฟูสภาพปอด ฝึกการหายใจ ตลอดจนป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ให้แพร่ระบาด ได้แก่ สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด พักผ่อนให้เพียงพอ และทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อเป็นการดูแลและป้องกันตัวเอง
สาเหตุที่คนส่วนใหญ่เสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ก็มาจากการที่ปอดติดเชื้อ และหัวใจวายฉับพลัน เป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด หากคุณตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือเชื้อโควิด 19 ต้องทำการรักษาทันที มิเช่นนั้นเชื้อโควิดสามารถแพร่กระจายสู่ปอด และอวัยวะอื่นๆ จนถึงขั้นเสียชีวิต ต้องรักษาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิด