คนโบราณมักกล่าวว่า “ห้ามกินของแสลงหลังจากผ่าตัด เพราะจะทำให้แผลหายช้าลง” แต่ในความเป็นจริงแล้วทางแพทย์กลับพบว่า อาหารบางชนิดก็สามารถทานได้หลังจากผ่าตัด และอาหารบางชนิดยังสามารถฟื้นฟูร่างกาย แถมรักษาบาดแผลอีกด้วย แต่เราต้องมาดูกันให้ดีว่าอาหารแบบไหนเป็นอาหารแสลง เป็นแผลห้ามกินอะไร คลายข้อสงสัยมาให้แล้ว
เป็นความเชื่อที่หลายคนสับสนกันมานาน เพราะจริงๆ แล้วไข่เป็นโปรตีนชั้นเยี่ยมที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายหลังจากผ่าตัด โปรตีนยังช่วยสร้างเนื้อเยื่อ และลดความเสี่ยงที่แผลติดเชื้อด้วย ซึ่งเราสามารถเลือกทานโปรตีนจากเนื้อปลา ไข่ โยเกิร์ต ธัญพืชต่างๆ ได้ตามเหมาะสม
เช่นเดียวกับการทานไข่ เนื่องจากหมู ไก่ เป็นเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และถ้าไม่มีโปรตีนก็จะไม่ช่วยสร้างเนื้อเยื่อหลังจากผ่าตัด แต่สิ่งที่ต้องระวังคือการทานเนื้อสัตว์ที่สะอาด ปรุงสุก ให้ถูกต้องตามหลักอนามัย
หลายคนคงเคยได้ยินว่า ห้ามทานอาหารทะเลหลังจากผ่าตัด เป็นแผล อาจทำให้แผลอักเสบ แต่ในความเป็นจริงอาหารทะเลไม่ได้มีผลกระทบอะไรจากการผ่าตัดเลย อีกทั้งเนื้อปลายังช่วยลดการอักเสบและช่วยรักษาบาดแผลได้ดี เพียงแค่ผู้ป่วยจะต้องเลี่ยงทานอาหารทะเลที่ทำให้เกิดอาการแพ้ หรือถ้าไม่แน่ใจว่าตัวเองแพ้อาหารทะเลหรือไม่ก็ควรให้งดไปก่อน เพราะเวลาแพ้ขึ้นมาอาจทำให้เกิดอาการคัน แดง บริเวณที่เป็นแผลได้ เช่น กุ้ง ปู หอยบางชนิด เป็นต้น
อีกหนึ่งความเชื่อที่สับสนมานานที่ว่า ห้ามทานอาหารที่มีไขมันหลังจากผ่าตัด แต่จริงๆ แล้วไขมันไม่ได้เป็นของต้องห้ามเสมอไป เพราะยังมีไขมันดีที่ช่วยให้พลังงาน รักษาบาดแผล รอยแผลเป็นให้หายเร็วขึ้น ซึ่งไขมันดีที่พบนั้นได้แก่ น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันงา รวมถึงอาหารจำพวกถั่วเปลือกแข็งต่างๆ เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์
ทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อที่หลายคนสับสนกันมานาน แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการผ่าตัด มีแผลเป็นจากแผลรถล้ม แผลมีดบาด หรือแผลอะไรก็ตาม การดูแลรักษาความสะอาดของแผลเป็นสิ่งสำคัญ เราควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งจะช่วยให้แผลเป็นฟื้นตัวเร็วขึ้น
รวมถึงหลีกเลี่ยง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ อาหารประเภทรสจัด ของหมักดอง ที่เป็นตัวการทำให้แผลติดเชื้อ และเกิดภาวะเเทรกซ้อน เท่านี้ร่างกายของคุณก็จะกลับมาฟื้นฟู ทำให้รอยแผลเป็นเริ่มจางลงได้
ขอบคุณข้อมูลจาก: paolohospital.com