หลังจากที่ภาครัฐได้ประกาศเคอร์ฟิวเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19(โคโรน่า-19) ทำให้ชีวิตของทุกคนยากลำบากยิ่งขึ้น กินเที่ยวก็ไม่ได้ รายได้ก็ลด แถมยังต้องหาเงินมาจับจ่ายใช้สอยอีก อยู่บ้านมากไปนานวันก็ยิ่งเครียด Frank จึงขออาสานำเสนอแนวการใช้ชีวิตอย่างไรให้รอดพ้นวิกฤตนี้ไปได้ มาให้ทุกท่านได้ทำตามกัน
ผลกระทบจากการประกาศเคอร์ฟิวหนีโควิดทำให้หลายคนรายได้ลด คนค้าขายต้องปิดร้าน ส่วนพนักงานออฟฟิศบ้างก็โดนลดเงินเดือนหรือไม่ก็ให้ออกจากงาน เมื่อรายได้ลด เงินไม่พอใช้ สิ่งที่เราจะพอประคองชีวิตให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ก็คือการควบคุมรายจ่าย ซึ่งการทำบัญชีบันทึกรายรับรายจ่ายก็จะช่วยให้เราควบคุมการเงินได้ดียิ่งขึ้น ลองลิสรายการสิ่งของว่าอันไหนไม่จำเป็นก็ให้ตัดออกไปก่อน แล้วค่อยใช้จ่ายแต่สิ่งจำเป็น ฟุ่มเฟือยให้น้อยลงแต่ซื้อของที่จำเป็นมากขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาเงินในกระเป๋าไปได้อีกเปราะ
หลายคนที่ต้องงกักตัวอยู่บ้านอาจเสียสุขภาพจิต และยิ่งภายใต้สถาณการณ์เคอร์ฟิวที่จำกัดเวลาอยู่บ้านยิ่งทำให้เครียดเป็นสองเท่า ดังนั้นการคิดบวกหรือว่ามองโลกในแง่ดีจะช่วยสร้างสุขภาพจิตที่ดีให้กับคุณโดยตรง เพราะการคิดบวกจะทำให้ฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอล (Cortisol) อยู่ในระดับเสถียร ภาวะร่างกายจึงรับมือกับความเครียดได้ดียิ่งกว่า แม้ว่าการคิดบวกจะทำได้ยาก แต่เราก็สามารถฝึกทำได้ด้วยการมองหาสิ่งดีดีที่จะทำให้เรามีความสุข และคิดในเชิงลบให้น้อยลง พยายามมองให้เห็นคุณค่าของตัวเอง และมั่นใจว่าสิ่งที่นเองทำนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แม้ว่าโควิดจะทำให้เราทุกคนใช้ชีวิตลำบากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเรายิ่งเครียดยิ่งกดดัน คุณอาจสุขภาพทรุดโทรมกว่าติดไวรัสโควิดก็เป็นได้
ให้คิดว่าการอยู่บ้านนั้นคือการพักของเรา หากอยู่บ้านแล้วรู้สึกเบื่อ ให้ลองคิดย้อนกลับไปว่ามีอะไรบ้างที่ตนเองอยากทำแต่ไม่ได้ทำเพราะไม่มีเวลา พออยู่ในสภาวะเคอร์ฟิวตอนนี้เวลาที่จะทำก็มีแล้ว ลองทำตามใจของตนเองดู เช่น การหรือทำความสะอาดจัดบ้านให้เรียบร้อย ลงมือเข้าครัวคิดสูตรปรุงอาหาร อ่านหนังเล่มโปรดจนจบ ดูซีรีส์ที่อยากดู หรือจะลองพัฒนาตนเองด้วยการหาความรู้เสริมวิชาชีพขณะอยู่บ้านก็ได้เช่นกัน
หากยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไร ลองดูแนวทางกิจกรรมว่าอยู่บ้านจะทำอะไรดีนะ
สำหรับใครที่ทำงานมาทั้งชีวิตไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับครอบครัวหรือคนที่รัก ก็ใช้โอกาสเคอร์ฟิวหนีโควิดนี้สานความสัมพันธ์ในบ้านให้ดียิ่งขึ้น ลองชวนคนในบ้านมาทำกิจกรรมร่วมกัน ตลอดจนพูดคุยทำความเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยให้คนในบ้านอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขแล้ว ยังเป็นการลดช่องว่างระหว่างวัยได้ดียิ่งขึ้นด้วย
หากเปิดดูข่าวในช่วงเคอร์ฟิวนี้ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหนก็มีแต่ข่าวโควิด ซึ่งการเสพข่าวในเชิงลบแบบนี้บ่อยเข้าก็อาจเกิดความเครียดตามมาได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการแชร์ข่าวปลอมขึ้นมาให้สับสนอีกจำนวนมาก ดังนั้นเราจึงต้องเสพข่าวอย่างมีสติจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ และอย่าแชร์ข่าวให้คนอื่นถ้าเรายังไม่มั่นใจว่าข้อมูลนั้นถูกต้อง ถ้าหากคุณเริ่มรู้สึกเครียดกับการเสพข่าว ก็ให้ลองหยุดพัก แล้วหาอะไรทำคลายเครียดแทน
นอกจากนี้ให้ลองเช็คข่าวจากทางภาครัฐและประกันสังคมดู เพราะจะมีสวัสดิการต่างที่ออกมาช่วยเหลือเราด้วยนะ หากคุณมีเงื่อนไขตรงกับที่สวัสดิการระบุไว้ก็จะได้รับเงินหรือสิทธิชดเชย ซึ่งจะพอช่วยลดภาระของคุณในช่วงนี้ไปได้บ้าง ลองเช็คสิทธิต่าง ๆ กันตามนี้นะ
วิธีรับเงินเยียวยา 5,000 โครงการเราไม่ทิ้งกัน
ขั้นตอนลงทะเบียนรับเงินคืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า
ขอเงินชดเชยประกันสังคมกรณีลาออกจากงาน
เมื่ออยู่ในบ้านเป็นเวลานาน อาจทำให้อ้วนและสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง เนื่องจากไม่มีโอกาสขยับร่างกายเผาผลาญไขมัน นอกจากนี้ยิ่งอยู่บ้านก็จะยิ่งมีโอกาสกินบ่อยขึ้นกว่าเดิมด้วยเพราะไม่มีอะไรทำ ดังนั้นแม้จะอยู่ในบ้านเราก็ต้องหาเวลามาออกกำลังกายด้วย โดยอาจเป็นการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่ทำเองภายในบ้าน หรือบางครั้งหากชวนคนในบ้านมาออกกำลังกายด้วยกันก็จะทำให้สนุกยิ่งขึ้นด้วยนะ
แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะเริ่มออกกำลังกายในบ้าน Frank ขอแนะนำ 5 ท่าออกกำลังกายลดพุง มาให้ทำตามกัน
แม้ว่าจะอยู่ในบ้านตลอดช่วงเวลาเคอร์ฟิวแต่ก็อย่าวางใจกับเชื้อโควิดนะ เราต้องหมั่นทำความสะอาดตัวเองอยู่เสมอ ควรล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะหลังจากไปข้างนอกบ้าน รวมถึงใส่หน้ากากอยามัยทุกครั้งเมื่อออกจากบ้านด้วยเช่นกัน และหลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกโดยไม่มีเหตุจำเป็น
และทั้งหมดนี้ก็คือเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ จาก Frank ในการเอาตัวรอดจากสถานการณ์เคอร์ฟิวในตอนนี้ หวังว่าทุกคนจะดูแลสุขภาพของตนเอง และผ่านพ้นเหตุการณ์โควิดไปด้วยกันนะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : pobpad, เราไม่ทิ้งกัน, ประกันสังคม
เชื่อมต่อ กับพวกเรา
