ใครที่เป็นสายบุญ ห้ามพลาดเด็ดขาด! แวะชมกับ 5 สถานที่ไหว้พระในกรุงเทพ เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง ทั้งเดินทางง่ายไม่ไกลจากรถไฟฟ้า แถมยังเป็นวัดเก่าชื่อดังในตำนานอีกด้วย รับรองว่าถ่ายรูปออกมาต้องสวย! ถูกใจทริปไหว้พระแน่นอน หรือถ้าใครพอมีเวลาหน่อยก็ลองหาที่พักค้างคืนชิลๆ กันได้ ว่าแต่มีวัดน่าเที่ยวที่ไหนบ้างนะ? ลองแวะมาชมกันเลย.....
เชื่อว่าคนไทยรู้จักกันดีอยู่แล้ว สำหรับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดที่สวยอันดับหนึ่งแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นมาสมัยรัชกาลที่ 1 ในปีพ.ศ. 2325 ซึ่งภายในวัดพระแก้วจะเป็นที่ประดิษฐานของ “พระแก้วมรกต” มีลักษณะคล้ายหยกสีเขียวอ่อน สวยงามมากๆ เหตุนี้เองนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงนิยมเข้ามาเที่ยว เพื่อเยี่ยมชมพระแก้วมรกตด้านใน นอกจากนี้คุณยังได้มีโอกาสเห็นจิตรกรรมฝาผนังที่ยาวที่สุดในโลกด้วย โดยจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับรามเกียรติ์และศิลปะวัฒนธรรมไทยที่หาชมได้ยาก ส่วนใครที่อยากจะแวะเก็บภาพสวยๆ ก็สามารถถ่ายรูปพระศรีรัตนเจดีย์ หรือบริเวณรอบนอกของพระวิหารได้ รับรองว่าอลังการแน่นอน
ไม่เพียงแค่วัดวาอารามอย่างเดียวนะ บริเวณวัดพระเเก้วยังมีพระที่นังจักรีมหาปราสาทให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมอีกด้วย แต่จะเปิดให้เยี่ยมชมเพียงบางจุดเท่านั้น แล้วที่สำคัญก่อนเข้าวัดพระเเก้วหรือพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ต้องแต่งกายให้เรียบร้อยก่อน หรือถ้าใครไม่สะดวกทางวัดพระเเก้วจะมีจุดให้เช่าชุดตรงบริเวณด้านนอก
เราสามารถเดินทางมาลง MRT สถานีสนามไชย ทางออกที่ 1 จะอยู่ห่างจากวัดพระแก้วเพียง 850 เมตร หรือจะนั่งเเท็กซี่ต่อไปได้ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.30 น. - 15.30 น. นักท่องเที่ยวไทยเข้าฟรี ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 500 บาท/คน และเด็กที่ความสูงต่ำกว่า 120 ซม. เข้าชมฟรี!
อีกหนึ่งวัดน่าเที่ยวที่อยากจะพาไปเยี่ยมชม ก็คือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือเรียกว่าวัดโพธิ์ สร้างในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เช่นกัน เนื่องจากวัดแห่งนี้เป็นวัดประจำของรัชกาลที่ 1 และเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธไสยาสน์ หรือที่รู้จักกันในนามว่า “พระนอน” ที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ หากใครได้เข้ามาไหว้พระนอนภายในวัดโพธิ์ เชื่อกันว่าจะทำให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข หรือถ้าพอมีเวลาหน่อยสามารถเดินรอบๆ บริเวณวัดโพธิ์ เพื่อเยี่ยมชมพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาล 1-4 หรือตุ๊กตาศิลาจีนเก่าแก่ก็มีให้ถ่ายรูปด้วยนะ
แล้วที่สำคัญใครที่ชอบปวดเมื่อยบ่อยๆ แก้ยังไงก็ไม่ยอมหาย ทางวัดโพธิ์ยังเปิดโรงเรียนแพทย์แผนไทยโบราณ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามานวดผ่อนคลาย และลดอาการปวดเมื่อยต่างๆ แต่ก่อนจะเข้าบริการนวดก็อย่าลืมแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ เพื่อรับบัตรคิวจอง พร้อมเลือกหลักสูตรที่คุณต้องการนวด ซึ่งมีอัตราค่านวดไทยชั่วโมงละ 260 บาท นวดฝ่าเท้า 30 นาที 280 บาท และนวดฝ่าเท้าชั่วโมงละ 420 บาท
เพียงเดินทางมาลงสถานี MRT สนามไชย ใช้ประตูทางออกที่ 1 เดินต่ออีก 350 เมตรเท่านั้น ซึ่งจะเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-18.30 น. คนไทยเข้าชมฟรี สำหรับชาวต่างชาติคนละ 100 บาท
หากคุณอยากจะล่องเรือเยี่ยมชมฝั่งธนบุรี ก็ลองมาไหว้พระกันที่วัดอรุณต่อเลย หรือเรียกกันอีกชื่อว่า “วัดมะกอกหรือวัดแจ้ง” จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดโพธิ์ สามารถนั่งเรือจากท่าเตียนข้ามฝากไปยังวัดอรุณได้เลย ซึ่งจุดเด่นของวัดอรุณก็คือ เป็นวัดโบราณมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 อีกด้วย มาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะนอกจากคุณจะได้อิ่มบุญกันแล้ว ยังได้ชมพระปรางค์ขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยชิ้นเปลือกหอย กระเบื้องเคลือบ จานชามเบญรงค์ต่างๆ นำมาตกแต่งอย่างสวยงามด้วย สามารถเข้ามาแวะถ่ายรูปกันได้ หรือจะแวะชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนกลับบ้าน มีมุมให้เลือกถ่ายรูปอีกเพียบ!
ทราบหรือไม่ว่า? บริเวณหน้าโบสถ์วัดอรุณฯ หากเราสังเกตดีๆ จะมียักษ์สีเขียวและยักษ์สีขาวยืนทำหน้าที่เฝ้าประตู ไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาภายในวัด จากตำนานที่เล่าขานว่า ยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์เคยต่อสู้กัน โดยมียักษ์วัดพระแก้วเป็นผู้ห้ามทัพ หลังจากพระอิศวรทราบเรื่องนี้จึงสั่งลงโทษให้ยักษ์วัดโพธิ์ไปยืนเฝ้าพระอุโบสถวัดโพธิ์ และยักษ์วัดแจ้งยืนเฝ้าวิหารวัดแจ้งตั้งแต่นั้นมา
เมื่อเดินทางมายังวัดโพธิ์แล้ว ก็นั่งเรือข้ามฝากจากท่าเตียนไปยังวัดอรุณ หรือนั่ง MRT ลงสถานีอิสรภาพไม่ต้องข้ามเรือ แล้วเดินต่ออีกประมาณ 900 เมตร โดยจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.00 น.-18.00 น. นักท่องเที่ยวไทยเข้าชมฟรี และชาวต่างชาติ 50 บาท
เมื่อพูดถึงย่านเยาวราช หลายคนก็จะนึกถึงของกินอร่อยๆ แต่นอกจากของกินที่ว่าเด็ดแล้วยังมีวัดชื่อดังให้คุณเข้ามาเยี่ยมชมอีกด้วย ก็คือ “วัดไตรมิตร หรือหลวงพ่อทองคำ” นั่นเอง ซึ่งจะมีพระพุทธรูปมหาสุวรรณ (หลวงพ่อทองคำ) ที่สร้างจากเนื้อทองคำแท้ๆ จนได้รับขนานนามว่า เป็นพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่เดิมเคยถูกห่อหุ้มด้วยปูนในช่วงเวลายาวนาน จนวันหนึ่งระหว่างการเคลื่อนย้ายปูนที่ห่อหุ้มองค์พระเกิดกระเทาะออกมา เลยเห็นได้ว่าองค์พระข้างในเป็นเนื้อทองคำ สวยงามอลังการมากๆ ถ้าคุณมีโอกาสสักครั้งแล้วก็ลองมาเยี่ยมชมกันได้
ส่วนภายในยังเปิดนิทรรศการ เล่าประวัติความเป็นมาของวัดไตรมิตร โดยแบ่งเป็นหลายห้อง เล่าตั้งแต่ยุคอดีตจนมาถึงยุครุ่งเรืองในปัจจุบันได้ละเอียดมาก พอหลังจากออกพิพิธภัณฑ์แล้วยังมีจุดแวะขายของ เช่น องค์พระบูชา โปสการ์ด และของที่ระลึกต่างๆ ให้กลับบ้านด้วย
วิธีการเดินทางง่ายนิดเดียว เพียงนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงสถานีหัวลำโพง ทางออก 1 แล้วเดินต่ออีกแค่ 200 เมตรก็ถึงวัดไตรมิตร โดยจะเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 8.00 น. - 17.00 น. แต่พิพิธภัณฑ์จะเปิดช่วงวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 08.00 – 17.00 น. คนไทยเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติจ่ายค่าเข้าชม 140 บาทต่อคน
จบด้วยทริปไหว้พระในกรุงเทพที่ “วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือวัดภูเขาทอง” วัดเก่าในตำนานของพระนคร ไม่ว่าใครต่างก็เข้ามาไหว้พระทำบุญ เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต จุดเด่นของวัดภูเขาทองก็คือ มีองค์เจดีย์ที่มีพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดีย ตั้งอยู่บนยอดภูเขาทองสูงใหญ่ หากใครที่อยากจะเข้ามาไหว้พระองค์เจดีย์ด้านบน สามารถเดินขึ้นบันไดเพื่อเยี่ยมชมกันได้ ถึงแม้ทางขึ้นจะค่อนข้างสูงหน่อย แต่รับรองว่าอิ่มบุญแน่นอน
นอกจากเราจะได้มีโอกาสเข้ามาไหว้พระกันแล้ว ยังได้ชมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองบนยอดวัดภูเขาทองด้วย เหมาะกับการถ่ายรูปเก็บบรรยากาศสุดๆ เพราะเราจะเห็นกรุงเทพได้ครบ 360 องศากันเลย ส่วนบริเวณทางขึ้นบนภูเขาทองยังมีร้านกาแฟให้นั่งพักเหนื่อยด้วยนะ แนะนำให้มาเที่ยวไหว้พระในช่วงแดดร่มอากาศจะเย็นสบายหน่อย
หากต้องการเดินทางด้วย MRT ให้มาลงสถานีสามยอด แล้วเดินทางถนนเจริญกรุง เข้าถนนวรจักร และต่อรถเมย์สาย 8, 37 หรือต่อแท็กซี่ก็ได้ หรือถ้าเดินทางด้วย BTS ให้มาลงสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วต่อรถเมล์สาย 47 หรือ 48 ได้เช่นกัน พร้อมเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. คนไทยเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติมีค่าชม 50 บาทต่อท่าน
Booking.com
ทั้งหมดนี้เป็นวัดน่าเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่เเฟรงค์อยากจะพาเพื่อนๆ ไปทำบุญไหว้พระเพื่อเสริมสิริมงคล ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน การเงิน สุขภาพ ครอบครัว และความรัก ก็สามารถเข้ามาขอพรกันได้ แถมยังได้เก็บภาพสวยๆ เป็นที่ระลึกอีกด้วย แล้วที่สำคัญก่อนออกไปทำบุญอย่าลืมซื้อประกันเดินทางในประเทศ ให้ช่วยดูแลทริปของคุณให้อุ่นใจ สามารถเลือกความคุ้มครองได้ตามต้องการด้วยนะ เที่ยวไหนก็ไม่ต้องคอยกังวลอีกต่อไป