อ่านเร็วๆ
Frank ได้ยินคำนี้บ่อยเลยครับ และแน่นอนว่าพยักหน้าเห็นด้วยบ่อยมากๆ เพราะถ้าเราย้อนไปดูตามกฎหมายจราจรแล้ว เค้าเขียนไว้ชัดเจนเลยล่ะว่า “ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 40 วางหลักไว้ว่า “ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างรถคันหน้าพอสมควร ในระยะที่จะหยุดรถได้โดยปลอดภัย ในเมื่อจำเป็นต้องหยุดรถ” นั่นหมายความว่า จะขับเท่าไหร่ก็ได้ แต่ต้องไม่จี้คันหน้าจนเบรกไม่ทันและชนในที่สุด หากขับตามนี้โดยหลักการแล้วต้องไม่ชน แต่ในความเป็นจริง Frank ก็เจอว่าหลายๆ เคสการชนท้ายก็เกิดขึ้นได้ แม้จะระมัดระวังเต็มที่แล้วก็ตามครับ สำหรับตอนนี้สิ่งที่ Frank อยากจะบอกคือ หากเราคิดบนพื้นฐานของคำว่า “ชนท้ายยังไงคันหลังก็ผิด” และเกิดเหตุไปแล้วควรจะทำยังไงดี
สิ่งแรกที่ทั้งสองฝ่ายควรทำคือโทรตามประกันของตัวเองครับ หากกีดขวางการจราจรให้ถ่ายภาพไว้เยอะๆ ถ่ายคลิปไว้ด้วยก็ดี ก่อนจะเคลื่อนย้ายรถ แล้วพากันไปรอประกันในจุดที่ไม่เกะกะใคร รถจะได้ไม่ติดนะครับ Frank ขอแบ่งเป็นในกรณีที่เป็นคันที่ถูกชนกับคันที่ขับมาชนนะครับ
1.คันที่โดนชนท้าย รอประกันแบบหล่อๆ ได้เลยครับ หากคุณไม่ได้เบรกกะทันหัน ขับรถตามกันมาดีๆ อยู่ๆ ก็ โครม! แบบนี้ยังไงคุณก็ไม่ต้องซ่อมเองครับ ไม่ว่าคู่กรณีจะหว่านล้อมยังไง Frank แนะนำว่า อย่ายอม มีอะไรให้คุยกับประกัน ยิ่งถ้าจอดนิ่งๆ ติดไฟแดงแล้วโดนชนหล่อกว่าเดิมเยอะเลยครับ เป็นพระเอกที่โดนทำร้ายถูกชนท้ายซะเฉยๆ แต่ Frank ขอย้ำนะครับว่ายังไงก็ต้องตามประกันของตัวเองมา เพราะประกันต้องเป็นตัวแทนตกลงกับคู่กรณีแทนเราเพื่อความไม่เสียเปรียบ หากตกลงกันได้ก็แยกย้ายกันกลับครับ แต่ถ้ายังควรไปลงบันทึกประจำวันเพื่อให้ประกันของเราสามารถติดตามให้คู่กรณีในการชดใช้ค่าเสียหายได้ด้วยครับ
2. คันที่มาชนท้าย Frank คงต้องขอบอกว่า ทำใจนะครับ ถ้าคันที่โดนชนเค้าเป็นพระเอกรอบนี้คุณคันหลังที่ชนท้ายเค้าคงต้องเล่นบทผู้ร้าย แม้จะเป็นผู้ร้ายแบบไม่ได้ตั้งใจจะเป็นก็ตาม และแน่นอนครับทำผิดก็ต้องรับผิดชอบไปครับ ซึ่งหากทำประกันไว้ ยินดีด้วยครับ คุณได้เหมาจ่ายค่าซ่อมไปแล้วตั้งแต่จ่ายเบี้ยประกัน (แต่ในปีหน้าเบี้ยประกันอาจจะเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นก็ได้ เพราะเราเสียค่าประวัติดีไปแล้วครับ) ซึ่งประกันแต่ละชั้นก็จะคุ้มครองต่างกันไปครับ กรณีนี้ก็เหมือนกรณีอุบัติเหตุอื่นๆ ครับ ประกันรถยนต์จะซ่อมให้ตามนี้
ความคุ้มครองของประกันภัยชั้นต่างๆ กรณีชนท้าย
จะเห็นนะครับว่า หากทำประกันไว้ยังไงก็ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมเองทั้งหมดครับ ประกันทุกชั้นซ่อมรถให้ทั้งสองฝ่ายเกือบทั้งหมด ยกเว้นประกันชั้น 3 ที่ซ่อมแต่รถคู่กรณี เราต้องจ่ายค่าซ่อมให้รถเราเองครับ ดังนั้นทำประกันไว้ยังไงก็ลดภาระได้เยอะครับ แต่ถ้าเป็นกรณีที่รถไม่มีประกันล่ะ? ทำยังไง ก็ดูเป็นกรณีไปอีกครับ ว่าฝ่ายไหนที่ไม่มีประกัน หรือไม่มีทั้งสองฝ่าย
เพื่อนๆ คงทราบกันแล้วนะครับว่า ประกันรถยนต์มี 2 แบบ คือประกันภาคบังคับหรือที่รู้จักกันว่า พ.ร.บ. รถยนต์ กับประกันภาคสมัครใจ คือประกันที่เราซื้อขายเพื่อเพิ่มความคุ้มครองนี่แหละครับ ซึ่ง พ.ร.บ. ไม่ทำไม่ได้ แต่ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจไม่มีก็ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย ดังนั้นถ้าชนท้ายกันแล้วไม่มีความคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันรถยนต์ก็ต้องพิจารณาตามนี้ครับ
1. ไม่มีประกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่คันหลังที่ชนท้ายผิดเห็นๆ กรณีนี้ แนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากพี่ตำรวจครับ พาคู่กรณีไปลงบันทึกประจำวันไว้ว่าคู่กรณียอมรับผิด จะชดใช้ให้ เพื่อจะได้ติดตามค่าชดเชยได้ครับ เคสนี้ต้องติดตามเอง อาจหมายถึงฟ้องร้องเองกรณีที่คู่กรณีไม่ยอมชดใช้ตามสัญญาด้วยครับ (เห็นมั้ย ยุ่งยากกว่าเยอะ ทำประกันเถอะครับเชื่อ Frank)
2. คันหลังมีประกันชนท้ายคันไม่มีประกัน อันนี้จบครับ เหมือนกรณีที่มีประกันทั้งคู่ทุกประการ ชนท้ายผิดไปแล้ว ประกันภัยช่วยได้เลยครับ
3. คันหน้าที่โดนชนท้ายมีประกันแต่คันหลังที่ชนไม่มี นอกจากตามประกันแล้ว ยังต้องไปหาพี่ตำรวจที่โรงพักในพื้นที่เกิดเหตุด้วยครับ เพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วประกันจะเป็นตัวแทนตามเรื่อง รวมถึงฟ้องร้องทุกอย่างให้เองครับ
รถชนท้ายเป็นกรณีที่เกิดง่ายเกิดบ่อยมากครับ และประกันก็ช่วยได้มากจริงๆ เพราะกรณีชนท้ายมักมีคำถามในใจกันบ่อยๆ ว่าทำไมคันหลังต้องผิดตลอด คงต้องบอกว่าพิสูจน์กันไปตามกฎหมาย Frank ขอแนะนำว่ามีประกันไว้ก็อุ่นใจกว่า และต้องเป็นประกัน 3+ ขึ้นไปนะครับ จะได้ไม่ต้องซ่อมรถเอง เบี้ยประกันต่างกันไม่เท่าไหร่ด้วย ลองเช็คเบี้ยกับ Frank ดูก่อนก็ได้นะครับ