โรคตาแดง หรือเยื่อบุตาอักเสบ เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ส่วนใหญ่พบเป็นเชื้อในกลุ่มอดีโนไวรัส (adenovirus) และมักระบาดในช่วงฤดูฝนทำให้เชื้อแพร่กระจายได้ง่าย อีกทั้งโรคตาแดงยังเป็นโรคติดต่อผ่านการสัมผัสจากมือ เครื่องใช้ และการใช้มือที่สกปรกสัมผัสบริเวณตา ทำให้เกิดอาการติดเชื้อ ตาอักเสบ เปลือกตาอักเสบ เจ็บตา น้ำตาไหล และมีโอกาสทำให้ดวงตาอักเสบขั้นรุนแรงได้
อย่างที่อธิบายข้างต้นว่า โรคตาแดง เป็นโรคที่ติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัส เเบคทีเรีย และสามารถติดต่อผ่านการสัมผัสโดยตรง ที่ทำให้หลอดเลือดบริเวณดวงตาอักเสบ ตาระคายเคือง ตาแดงข้างเดียว เช่น
มักจะพบบ่อยในช่วงหน้าฝน หรือบริเวณที่มีคนอยู่รวมกันมากๆ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล โรงงาน ตลาดนัด เป็นต้น หากคุณได้รับเชื้อไวรัสแล้วจะสามารถติดต่อไปยังผู้อื่นภายใน 2 สัปดาห์
โดยสามารถเกิดขึ้นกับดวงตาแดงข้างเดียว หรือดวงตาสองข้าง เริ่มจากผู้ป่วยเริ่มมีอาการตาแดงข้างหนึ่งก่อน แล้วค่อยลามไปดวงตาอีกข้างภายใน 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเยื่อบุตาอักเสบ ได้แก่
ดังนั้น ผู้ป่วยควรมาพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด กรณีติดเชื้อไวรัสที่มีความรุนแรง แพทย์จะรักษาด้วยการให้ยาหยอดตาแก้อักเสบ ยาต้านไวรัส หรือรักษาตามคำแนะนำของแพทย์
ถึงแม้โรคตาแดงจะไม่ใช่โรครุนแรง แต่ถ้าคุณไม่รีบทำการรักษา อาจทำให้เยื่อบุตาอักเสบ ทำให้ตาพร่ามัว กระจกตาอักเสบรุนแรงได้ สรุปว่าถ้าคุณมีอาการใกล้เคียงดังกล่าวให้รีบพบแพทย์ทันที และทางแพทย์จะตรวจสอบดวงตาที่อักเสบ พร้อมวิธีการรักษาโรคตาแดงเบื้องต้น ดังนี้
อย่าให้นิ้วมือสัมผัสปลายหลอด ขนตา เปลือกตา และปิดฝาขวดให้สนิทโดยไม่ต้องเช็ดปลายหลอด รวมถึงผู้ป่วยห้ามขยี้ตาที่อาจทำให้ดวงตาอักเสบเด็ดขาด
ถ้าพบว่ามีอาการตาแดง ตาอักเสบ ตาพร่ามัว หรือเปลือกตาอักเสบ ผู้ป่วยไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด เราควรไปหาแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญมากของร่างกาย ที่ช่วยในการมอง การอ่าน การเขียน ใช้ในการรับรู้ เรียนรู้สิ่งต่างๆ และช่วยดำเนินชีวิตต่างๆ ในประจำวัน
เพื่อลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยจากดวงตา คุณควรถนอมดวงตาให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะหนุ่มๆ สาวๆ พนักงานออฟฟิศ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้สายตาจากหน้าคอมพิวเตอร์ พักสายตาทุกๆ ชั่วโมง นอกจากจะป้องกันโรคตาแดงได้แล้ว ยังช่วยป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรมได้อีกด้วย ทำงานอย่าหักโหมกันน๊า